บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

AP Thailand (AP)

คาดกำไร 4Q66 เติบโต YoY ลดลง QoQ

  • Action BUY (Maintain)

  • TP upside (downside) +19.3%
  • Close Jan 30, 2024 Price (THB) 10.90
  • 12M Target (THB) 13.00
  • Previous Target (THB) 13.00

คาดกำไร 4Q66 เติบโต YoY

เราคาดกำไรปกติ 4Q66 ที่ 1.4 พันลบ. (-20.2% QoQ, +17.1% YoY) ชะลอตัวลง QoQ เนื่องจาก 1)ใน 4Q66 ไม่มีโครงการแนวสูงสร้างเสร็จใหม่เริมโอน มีเพียงการโอนต่อเนื่องของ 2 โครงการที่สร้างเสร็จใหม่ตั้งแต่ 3066 เป็นหลัก และโครงการแนวราบที่เปิดตัวใหม่ส่วนใหญ่อยู่ช่วงปลาย 4Q66 ส่งผลให้รับรู้รายได้ในไตรมาสได้เพียงบางส่วน และ 2) SG&A/Sales คาดที่ 22.0% (+396 bps QoQ, -82 bps YoY) เพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการและการทำการตลาดที่เพิ่มขึ้นตามการเปิดตัวโครงการใหม่ ขณะที่ YoY คาดเติบโตจากการโอนแนวราบที่มีอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) สูงเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ GPM เพิ่ม ขึ้นมาอยู่ที่ 35.6% (+10 bps QoQ, +67 bps YoY) อีกทั้ง ใน 4Q66 เราคาดูรายได้อื่นๆ ที่ 102 ลบ. เพิ่มขึ้น QoQ และ YoY จากการยึดเงินจอง, เงินดาวน์, และเงินประกันมิเตอร์น้ำ-ไฟ หาก 4Q66 ออกมาตามคาด กำไรปกติทั้งปี 2566 จะอยู่ที่ 6.1 พันลบ. (+3.3% YoY) ใกล้เคียงกับประมาณการของเรา

ปี 2567 คาดกำไรเติบโตเล็กน้อย YoY จากฐานสูง

เราคาดกำไรปี 2567 ที่ 6.3 พันลบ. เติบโตจากฐานสูง +3,8% YoY เป็นการทำสถิติสูงสุดใหม่ติดต่อกันปีที่ 4 โดยในปี 2567 มีโครงการแนวสูงที่จะสร้างเสร็จใหม่เริ่มโอน 3 แห่ง ได้แก่ Aspire รัชโยธิน มูลค่า 1.4 พันลบ. (ยอดจองซื้อ 90%), Life พระราม 4-อโศก มูลค่า 6.3 พันลบ. (ยอดจองซื้อ 44%) และ Life พหลฯ-ลาดพร้าว มูลค่า 3.5 พันลบ. (ยอดจองซื้อ 54%) ณ สิ้น 4Q66 บริษัทฯ มี Backlog ทั้งหมด 4.5 หมื่นลบ. (รวมที่โอนใน 4Q66) ซึ่งมีแผนโอนในปี 2567 ทั้งแนวราบและแนวสูงราว 1.8 หมื่นลบ. คิดเป็น Secured Rev. ราว 45% ของประมาณการรายได้ปี 2567 ของเราที่ 4.1 หมื่นลบ. (7.7% YoY) บริษัทฯ ยังไม่ได้เปิดเผยแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 2567 แต่เราคาดมูลค่าจะทรงตัว YoY จากฐานสูงราว 7.6 หมื่นลบ. เนื่องจากปี 2565-66 ที่ผ่านมามีการเปิดตัวโครงการใหม่จำนวนมากเพื่อเติมสินค้าคงคลังที่หายไปในช่วง COVID-19 อย่างไรก็ดี ปัจจุบันบริษัทฯ มีสินค้าพร้อมขาย (Available for Sales)แนวราบ 9.6 หมื่นลบ. และแนวสูงอีกราว 2.0 หมื่นลบ. (JV 1.7 หมื่นลบ.) ช่วยหนุนการเติบโตของรายได้

แนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 13.00 บาท

เราคงราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2567 ที่ 13.00 บาท และคงคำแนะนำ “ซื้อ” จาก 1) แนวโน้มผลประกอบการ 4Q66 จะเติบโต YoY 2) คาดผลประกอบการปี 2567 จะทำสถิติสูงสุดใหม่หนุนจาก Backlog ที่หนาแน่น และโครงการแนวสูงสร้างเสร็จใหม่ถึงกำหนดการโอน 3 โครงการ มูลค่ารวม 1.1หมื่นลบ. (ยอดจองซื้อเฉลี่ย 52.9%) 3) เงินปันผลปี 2566 คาดที่ 0.68 บาท/หุ้น คิดเป็น Div. Yield ที่สูงถึง 6.2% (จ่ายปีละ 1 ครั้ง) และ 4) Upside Risk หากมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ จากภาครัฐมีความชัดเจนมากขึ้น

- Advertisement -