KS Daily View 02.02.2024 >>> คาดดัชนีแกว่งตัวขึ้นในกรอบ 1,360-1,380 จุด ดัชนียืนได้วันนี้ รับ Sentiment บวกตลาดสหรัฐเด้งแรง หลัง US10Y bond yield ลดลง 10bps. หุ้นแนะนำวันนี้ ERW, SNNP

สรุปภาวะตลาดเมื่อวานนี้

  • ต่างประเทศ : ดัชนี DJIA +0.97% S&P500 +1.25% NASDAQ +1.30%; Dollar index -0.45% เป็น 103.066 และค่าเงินบาทปิดที่ 35.248; ราคาน้ำมันดิบ Brent Futures -2.3% เป็น 78.70/bbl; ราคาทองคำ +0.2% เป็น 2071.1/ounce;  US 10Y yield -10bps เป็น 3.86%
  • ในประเทศ: SET Index +3.440 จุด หรือ +0.25% ปิดที่ 1367.96 จุด หุ้นใน SET100 ที่ราคาเพิ่มขึ้นมากสุด ได้แก่ ITC (+3.87%), AOT (+3.35%), TLI (+2.99%), SNNP (+2.69%) เป็นต้น ส่วนหุ้นที่ราคาลดลงต่ำสุด ได้แก่ STA (-2.89%), STGT (-2.78%), RBF (-2.36%), SAWAD (-1.90%) เป็นต้น

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ:

คาดดัชนีแกว่งตัวขึ้นในกรอบ 1,360-1,380 จุด รับ Sentiment บวกตลาดสหรัฐเด้งแรงจาก US10Y bond yield ลดลง 10bps. หลังตัวเลขการขอรับสวัสดิงานรายสัปดาห์ออกมาสูงกว่าคาดที่ 2.24 แสนคน vs. คาดการณ์ที่ 2.12 แสนคน ทำให้ค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์หลังสุดของตัวเลขการขอรับสวัสดิงานปรับขึ้นเป็น 2.08 แสนคน จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.02 แสนคน  หนุนมุมมอง Soft Landing ของตลาด แม้เฟดส่งสัญญาณไม่รีบลดดอกเบี้ย มี.ค.นี้ (เราคาดลดดอกเบี้ยครั้งแรก พ.ค.นี้) ยังคงแนะนำนักลงทุนให้ใช้กลยุทธ์ Selective buy ในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว หรือกลุ่มที่มี Structural growth ในระยะยาว เช่น โรงพยาบาล, ท่องเที่ยว, นิคม, โรงเรียนนานาชาติ เป็นต้น

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

  1. หลังการประชุมเฟดรอบแรกปี 2567 เมื่อวานนี้ (31 ธ.ค.) นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค. และจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนพ.ค. หลังจากที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ส่งสัญญาณว่า เฟดจะยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค.           ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 65.5% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือนมี.ค. และให้น้ำหนัก 62.0% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมเดือนพ.ค. (เราคาดเฟดปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกเดือนพ.ค.)
  2. คณะกรรมการนโยบายการเงิน (MPC) ของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติด้วยคะแนนเสียง 6-3 ในการคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25% สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ นักลงทุนคาดการณ์ว่า BoE จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนพ.ค. โดยปรับลดลง 0.25% สู่ระดับ 5.00% และอัตราดอกเบี้ย ณ สิ้นปี 2567 จะอยู่ที่ระดับ 4.25%
  3. ดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐฯ โดย ISM สำหรับเดือนมกราคมรายงานที่ 49.1 เทียบกับการคาดการณ์ 47.2 และ 47.4 ก่อนหน้า แสดงให้เห็นการฟื้นตัวที่ชัดเจนมากขึ้นในกิจกรรมการผลิตและขจัดความกลัวต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย
  4. การ์ทเนอร์ บริษัทวิจัยและให้คำปรึกษาชั้นนำของโลก เปิดเผยว่า การ์ทเนอร์ ได้คาดการณ์มูลค่าการใช้จ่ายไอที ของประเทศไทย ในปี 67 มูลค่าจะสูงทะลุ 1 ล้านล้านบาท เป็นครั้งแรก เพิ่มขึ้น 5.8% จากปี 66 โดยกลุ่มซอฟต์แวร์จะมีมูลค่าการใช้จ่ายเติบโตสูงสุด และคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 15.9%

Theme การลงทุนสัปดาห์นี้

ประเมินตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ 1,340-1,390 จุด ในสัปดาห์นี้ เรามองว่า sentiment หุ้นไทยยังคงถูกกดดันจากแรงขายต่างชาติบน 1.) แนวโน้มการเติบโตของ GDP และกำไร บจ. ในประเทศพัฒนาแล้วสูงกว่าไทยโดยเปรียบเทียบ 2.) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐฯ มีโอกาสปรับตัวขึ้นจากการส่งสัญญาณคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงต่อเนื่องของเฟดเพื่อกดให้เงินเฟ้อระยะยาวลงสู่เป้าหมายที่ 2% โดยที่เฟดยังคงมั่นใจกับทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และ 3.) ตลาดหุ้นไทยยังไม่ถูกในเชิง PER เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นในภูมิภาค สำหรับปัจจัยสำคัญอื่นๆที่ต้องติดตามได้แก่ ติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯ (Non-farm payrolls) สำหรับเดือน ม.ค. ตลาดคาดที่ 1.62 แสนตำแหน่ง เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 2.16 แสนตำแหน่ง ต่อด้วยอัตราการว่างงานของสหรัฐฯ (Unemployment rate) สำหรับเดือน ม.ค. ตลาดคาดที่ 3.7% ทรงตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า และติดตามตัวเลขค่าจ้างแรงงานเฉลี่ยรายชั่วโมงของสหรัฐฯ (Average hourly earnings) สำหรับเดือน ม.ค.

หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:

  • ERW (ราคาพื้นฐาน 5.92 บาท) นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทย 4 สัปดาห์แรก (1-28 ม.ค.) สะสม 2.7 ล้านคน คิดเป็นการเติบโต 40% YoY และคิดเป็นเฉลี่ย 1.04 แสนคนต่อวัน โดยจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน 444,702 คน มาเลเซีย 300,576 คน เกาหลีใต้ 203,907 คน รัสเซีย 197,656 คน และอินเดีย 146,784 คน อัตราการเติบโต 4 สัปดาห์แรกที่ 40% YoY สูงกว่าที่เราคาดนักท่องเที่ยวปี 2024 เติบโตที่ 9% YoY และ consensus คาดที่ 25% YoY สำหรับผลการดำเนินงานของ ERW ปี 2024 เราคาดรายได้เติบโต 13% YoY และกำไรหลักเติบโต 11% YoY มองเป็นหนึ่งในโรงแรมที่ได้ประโยชน์สูงสุดจากนักท่องเที่ยวขาเข้าประเทศไทย คิดเป็นส่วนแบ่งรายได้ในประเทศกว่า 90%
  • SNNP (ราคาพื้นฐาน 25.60 บาท) มุมมองเชิงบวกจากการประชุมนักวิเคราะห์ ในปี 2567 SNNP ตั้งเป้าการเติบโตที่แข็งแกร่งด้วยตัวเลขสองหลัก ซึ่งขับเคลื่อนจากทุกภูมิภาคและ GPM ขยายตัวที่ 100-200 bps คาดกำไรปกติไตรมาส 4/66 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 191 ลบ. (+20.6% YoY, +12.7 QoQ) โดยไม่รวมส่วนแบ่งขาดทุนปกติจำนวน 9 ลบ. ปรับลดกำไรปกติเล็กน้อยในปี 2566

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันศุกร์ ติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯ (Non-farm payrolls) สำหรับเดือน ม.ค. ตลาดคาดที่ 1.62 แสนตำแหน่ง เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 2.16 แสนตำแหน่ง ต่อด้วยอัตราการว่างงานของสหรัฐฯ (Unemployment rate) สำหรับเดือน ม.ค. ตลาดคาดที่ 3.7% ทรงตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า และติดตามตัวเลขค่าจ้างแรงงานเฉลี่ยรายชั่วโมงของสหรัฐฯ (Average hourly earnings) สำหรับเดือน ม.ค. ตลาดคาดที่ +0.3% MoM เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ +0.3% MoM
- Advertisement -