บล.พาย:

HMPRO: Home Product Center PCL

GPM ฟื้น หนุนกำไร 4Q23 ทั้ง YoY และ QoQ

มีกำไรสุทธิงวด 4Q23 ที่ 1.68 พันล้านบาท (+2%YoY, +9%QoQ) ดีกว่าที่เราคาด 10% และดีกว่าที่ BB consensus คาด 5% จากอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีกว่าคาด โดยปกติแล้วไตรมาส 4 ของทุกปีจะเป็นช่วงที่มียอดขายสูงสุดของปี จากช่วงเทศกาลการจับจ่ายใช้สอย แต่เนื่องด้วยสถานการณ์กำลังซื้อที่ชะลอตัว และผู้บริโภคบางส่วนที่ชะลอการใช้จ่ายช่วงปลายธ.ค. เพื่อใช้สิทธิมาตรการ Easy E-Receipt ของรัฐบาลในช่วง 1 ม.ค. 2024 – 15 ก.พ.2024 ทำให้การเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ช่วง 4Q23 ที่ -8% ขณะที่ SSSG ช่วงเดือนม.ค. 2024 ยังคงอ่อนตัวลงราว 5%YoY คาดเห็นการฟื้นตัวในช่วง 2H24 เราเชื่อว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลง 30% ตั้งแต่ต้นปี 2023 สะท้อนปัจจัยลบไปคาดข้างมากแล้ว ขณะที่ผลประกอบการที่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดจะเป็นปัจจัยหนุนระยะสั้น เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 13.90 บาท

กำไร 4Q23 เติบโตทั้ง YoY และ QoQ

  • รายได้รวมใน 4Q23 ที่ 1.74 หมื่นล้านบาท (-1%YoY, +3%QoQ) ผลจาก SSSG ที่อ่อนตัวลง 8%YoY (HomePro ที่ -8%, Mega Home ที่ -7%, และ HomePro Malaysia ที่ -2%) แม้ว่ารายได้จากการให้เช่าพื้นที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 507 ล้านบาท (+9%YoY)
  • การขยายสาขาช่วง 4Q23 : เปิดสาขา HomePro 2 แห่งที่ บางบัวทอง กับ ภูเก็ต และเปิดสาขา Mega Home 2 แห่งที่ ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช กับ ภูเก็ต (เป็นสาขา hybrid model โดยมีสาขาติดกับสาขาของ HomePro ที่ภูเก็ต) ทำให้ ณ สิ้นปี 2023 บริษัทมีสาขา ทั้งหมด 128 แห่ง แบ่งเป็น Home Pro 89 สาขา HomePro S 5 สาขา Mega Home 27 สาขา HomePro Malaysia 7 สาขา และ HomePro Vietnam ที่หลัก ๆ ดำเนินการจัดจำหน่ายสินค้าภายตลาดออนไลน์
  • อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่ 28.3% ใน 4Q23 จาก 27.0% ใน 4Q22 และ 27.4% ใน 3Q23 เนื่องจากคาดว่า GPM ผลิตภัณฑ์ดีขึ้นจากทั้ง HomePro และ Mega Home ผลจาก 1) สัดส่วนยอดขายที่มีอัตรากำไรสูงขายได้มากขึ้น 2) สัดส่วนยอดขายสินค้าแบรนด์บริษัทที่เพิ่มขึ้นเป็น 20.9% ในปี 2023 กับ 20.8% ในปี2022 และ 3) การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายที่ลดลงจากปีก่อน
  • อัตราส่วนค่าใช้จ่ายการขายและบริหารต่อยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 20.2% ใน 4Q23 จาก 19.8% ใน 4Q22 และ 19.2% ใน 3Q23 จากต้นทุนในการขยายสาขาใหม่

แนวโน้มการบริโภคยังอ่อนตัวลงในครึ่งปีแรกของปี 2024

  • การเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ติดลบราว 5% ในเดือนม.ค.2024 (HomePro ที่ -5%, Mega Home ที่ -3%, และ HomePro Malaysia ที่ -10%) โดยคาดว่ายอดขายต่อบิลจะสูงขึ้นจากมาตรการ Easy E-Receipt ของรัฐบาล แต่ปริมาณการซื้อจะลดลงตามการระมัดระวังการบริโภค
  • อย่างไรก็ตามเราคาดว่ายอดขายปี2024 จะยังเติบโต 6%YoY ผลจากการขยายสาขากว่า 11 สาขา (+10%YoY) ในปี 2023 และคาดขยายอีก 4 สาขาในปี 2024 แม้เราคาดว่ายอดขายสาขาเดิมจะติดลบในช่วง 1H24

คงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าหุ้นไม่แพง

มูลค่าพื้นฐาน 13.90 บาท คำนวณด้วยวิธีคิดลดกระแสงินสด (DCF) ด้วย WACC 8.0% และ TG 3% เทียบเท่า 26xPE’24E ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยกลุ่ม สินค้าตกแต่งบ้านของไทย

- Advertisement -