วันนี้คาดตลาด “Sideways”

แนวรับ 1,360 / 1,355 แนวต้าน 1,370 / 1,375

คาดตลากยังได้รับ Sentiment เชิงบวกจากตลาดต่างประเทศ ตามสัญญาณแนวโน้มการที่ FED ปรับลดวงเงินในการทำ QT ในช่วงเดือน มิ.ย. มองเป็นจุดเริ่มต้นในการเพิ่มสภาพคล่องส่วนเกินเข้าสู่ตลาด ขณะที่วันนี้ต้องติดตาม Nonfarm Payroll ต่อ สำหรับปัจจัยภายในประเทศเรามองไม่มีปัจจัยใหม่ คาดตลาดอาจมีแรงเก็งกำไรหุ้นรายตัวจากการรายงานงบ 1Q’67 ได้บ้าง

Our View? “ไปต่อ…พอแค่นี้”

คาดตลาดวันนี้ “Sideways” ของแนวรับที่บริเวณ 1,360 / 1,355 และแนวต้านที่บริเวณ 1,370 / 1,375 คาดตลาดจะได้รับ Sentiment เชิงบวกจากตลาดต่างประเทศ ตามทิศทางตลาดสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นต่อ หลังคุณเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) กล่าวว่า FED ไม่มีแนวโน้มจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม FOMC เดือน มิ.ย. ขณะที่ FED จะเริ่มปรับลดวงเงินในการปล่อยให้พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐหมดอายุลงโดยไม่มีการซื้อคืน (QT) เหลือเพียง 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ จากก่อนหน้าที่ระดับ 6 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่วงเงิน QT สำหรับตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) จะอยู่ที่ระดับ 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เรามองว่าประเด็นดังกล่าวถือเป็นก้าวแรกในการเริ่มกลับมาเพิ่มสภาพคล่องส่วนเกินเข้าสู่ตลาด คาดจะหนุนทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัว ขึ้นได้ในระยะถัดไป สอดคล้องกับทิศทางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (Dollar Index) และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (US-Bond Yield) เริ่มชะลอตัวลง สะท้อนการเปิดรับความเสี่ยงที่มากขึ้นของตลาด (Risk-On) หนุนทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวขึ้นได้

ขณะที่วันนี้เราคาดตลาดจะให้ความสนใจไปกับการรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ (Nonfarm Payroll) เดือน เม.ย. คาดจะออกมาที่ระดับ 2.40 แสนตำแหน่ง ชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้าคาดอาจกระตุ้นความหวังของแนวโน้มในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ FED ในปีนี้ หนุนทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวขึ้นได้

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน มิ.ย. เริ่มชะลอการอ่อนตัวลง ปิดที่ระดับ 78.95 ดอลลาร์/บาร์เรล -0.05 ดอลลาร์ (-0.06%) หลังปรับตัวลงแรงในวันก่อนหน้า เรามองรับรู้ประเด็นตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐออกมาเพิ่มขึ้น 7.2 ล้านบาร์เรล สวนทางจากที่ตลาดคาดการณ์ไปบ้างในระดับหนึ่งแล้ว คาดมีโอกาสเห็นแรงซื้อกลับน้ำมันดับ-หุ้นในกลุ่มพลังงานฟื้นตัวได้บ้างในระยะสั้น

สำหรับปัจจัยภายในประเทศ เรามองไม่มีปัจจัยใหม่เข้าหนุนทิศทางตลาด โดยให้ความสำคัญไปกับการรายงานผลประกอบการของ บจ. ในตลาดฯ รายตัวต่อไป อย่างไรก็ตามเรายังมอง Downside ของตลาด หุ้นไทยค่อนข้างจำกัด จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ออกมาตรการกำกับดูแลการ Short-Sell และ Program Trading เพิ่มเติมให้เข้มงวดมากขึ้น โดยให้ทำ Uptick กับหุ้นทุกตัว ส่งผลให้การทำ Short Sell ต้องกำหนดราคาสูงกว่าราคาซื้อขายครั้งสุดท้าย จากปัจจุบันให้ Short Sell ได้ที่ราคาเท่ากับหรือสูงกว่า (Zero-plus Tick) หากราคาซื้อขายล่าสุด (Last Trading Price) ส่งผลให้เล่นฝั่ง Short ไม่ความได้เปรียบน้อยลงคาดจะส่งผลให้ผู้เล่นฝั่ง Short อาจลด Position และระมัดระวังการเปิดสถานะใหม่และจำกัด Downside ของตลาดได้บ้าง

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนำวันนี้ “CPALL”

  • นักวิเคราะห์ของเราคาดโมเมนตัมผลประกอบการ 1Q’67 อาจย่อตัวลงบ้าง QoQ จากฤดูกาล แต่จะโตต่อเนื่อง YoY ตาม SSSG เติบโตได้ต่อ จากมาตรการของภาครัฐในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่ดอกเบี้ยจ่ายของ CPAXT ลดลงมาก YoY ใน 1H’67 อีกทั้งเรามองความชัดเจนเกี่ยวกับโครงการดิจิกัลวอลเล็ตคาดจะช่วยหนุนทิศทางราคาฟื้นตัวขึ้นได้
  • ทางเทคนิค ราคาปรับตัวขึ้นยืนเหนือ EMA75 วัน ขณะที่เครื่องมือทางเทคนิค MACD และ SSTO ให้สัญญาณซื้อ
  • แนะนำ “ซื้อเล่นรอบ”
  • แนวรับ 58.00 / 57.00 Target 60.00 / 62.50 Stop <56.00

- Advertisement -