วันนี้คาดตลาด “Sideway Up”

แนวรับ 1,365 / 1,360 แนวต้าน 1,372 / 1,380

ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐเมื่อคืนนี้เพิ่มขึ้นมากกว่าที่ตลาดคาด สะท้อนตลาดแรงงานลดความแข็งแกร่งลง กระตุ้นความหวัง FED ปรับลดอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม เราแนะนำติดตามการรายงานตัวเลข CPI ในช่วงสัปดาห์หน้าเพื่อประเมินทิศทาง FED อีกครั้งคาดจะจำกัด Upside ของตลาดได้บ้าง

Our View? “ไปด้วยคน”

คาดตลาดวันนี้ “Sideway Up” มองแนวรับที่บริเวณ 1,365 / 1,360 และแนวต้านที่บริเวณ 1,372 / 1,380 คาดตลาดจะได้รับจิตวิทยาเชิงบวกจากตลาดต่างประเทศ หลังเมื่อคืนนี้กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ออกมาอยู่ที่ระดับ 2.31 แสนตำแหน่ง มากกว่าสัปดาห์ก่อนหน้า และมากกว่าที่ตลาดคาด สะท้อนตลาดแรงงานสหรัฐเริ่มลดความร้อนแรงลง กระตุ้นความหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) แม้ถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ในหลายสาขาส่วนใหญ่ออกมาส่งสัญญาณถึงโอกาสที่ FED จะตรึงอัตราดอกเบี้ยยาวนานกว่าที่ตลาดคาดเพื่อกดดันเงินเฟ้อให้ปรับลงสู่ระดับเป้าหมายที่ 2.00% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (US-Bond Yield) รวมถึงค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (Dollar Index) เริ่มอ่อน ตัวลงอีกครั้งหนุนทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวขึ้นได้ต่อ

ขณะที่สัปดาห์หน้าเราแนะนำติดตามการรายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน เม.ย. ของสหรัฐในช่วงสัปดาห์หน้า (คืนวันที่ 15 พ.ค.) โดยล่าสุดตลาดคาดว่าจะออกมาอยู่ที่ระดับ +0.4%MoM/+3.4%YoY ซึ่งเรามองว่ายังอยู่ในระดับสูงและชะลอตัวลงช้ากว่าที่ตลาดและ FED คาดการณ์ไว้ หากออกมาน้อยกว่าที่ตลาดคาดอาจลดทอนความหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ FED ในช่วงเดือน ก.ย. เป็นปัจจัยกดดัน-จำกัด Upside ตลาดได้

อย่างไรก็ตามเมื่อวานนี้เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการรายงานตัวเลขส่งออก-นำเข้าของจีนเดือนเม.ย. คาดจะพลิกกลับมาขยายตัวอีกครั้งที่ระดับ 1.5%YoY และ 8.4%YoY ตามลำดับ มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ สะท้อนทิศทางการค้าและเศรษฐกิจของจีนมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นมองเป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางตลาดหุ้นจีน-และภูมิภาคได้

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน มิ.ย.เริ่มมีสัญญาณการรีบาวด์ขึ้น เมื่อ คืนนี้ปิดที่ระดับ 79.26 ดอลลาร์/บาร์เรล +0.27 ดอลลาร์ (+0.34%) คาดได้รับแรงหนุนจากการรายงานตัวเลข ส่งออก-นำเข้าของจีนพลิกกลับมาขยายตัว บ่งชี้ถึงอุปสงค์น้ำในของจีน ขณะที่เราคาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันในสหรัฐมีโอกาสปรับตัวขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป ตามโรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐเริ่มเพิ่มกำลังการผลิต คาดจะหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่มพลังงานฟื้นตัวได้บ้างในระยะสั้น

สำหรับปัจจัยภายในประเทศ เรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังส่งสัญญาณถึงโอกาสในการนำกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) กลับมา มองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางตลาดหุ้นไทยได้บ้าง อย่างไรก็ตาม เรามองยังต้องติดตามรายละเอียดรวมถึงความเร็วในการกลับมาใช้กองทุนดังกล่าวว่าจะใช้ระยะเวลามากน้อยเพียงใด คาดจะจำกัด Downside ของตลาดได้บ้าง ทั้งนี้เรายังแนะนำ ติดตามการรายงานผลประกอบการของ บจ. ในตลาดได้ต่อ ขณะที่เรายังมีมุมมองเป็นกลางต่อแนวโน้มการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั้งประเทศในช่วงเดือน ต.ค. เรามองเป็นทั้งปัจจัยบวกและลบต่อตลาด โดยคาดจะเป็นปัจจัยเพิ่ม ค่าใช้จ่ายด้านแรงงานต่อ บจ. ที่มีสัดส่วนแรงงานมากอาทิ รับเหมา-ก่อสร้าง และอุตสาหกรรมต่างๆ บ้างเล็กน้อย อย่างไรก็ตามเรามองเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มค้าปลีก (CPALL, CPAXT, BJC และ CRC) รวมถึงหุ้นในกลุ่มเครื่องดื่ม (OSP, CBG, SAPPE, ICHI และ TACC) จากกำลังซื้อที่จะเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามคาดตลาดจะให้ความสำคัญไปกับการรายงานผลประกอบการของ บจ. ในตลาดฯ รายตัวต่อไป

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนำวันนี้ “MBK”

  • เราคาดว่า MBK จะได้ประโยชน์จากการเข้า IPO ของสยามพิวรรธน์ ซึ่งจะส่งผลให้มูลค่าทางบัญชีของ MBK เพิ่มขึ้น จากการที่ MBK ถือหุ้นสยามพิวรรธน์ราว 49%+/- คาดจะหนุนแรงเก็งกำไร MBK ปรับตัวขึ้นได้
  • ทางเทคนิค ราคาแกว่งตัวออกด้านข้างอิงทางบวกยืนเหนือ EMA10 วันต่อเนื่อง ขณะที่เครื่องมือทางเทคนิค MACD และ SSTO ยังให้สัญญาณซื้อ
  • แนะนำ “ซื้อเล่นรอบ”
  • แนวรับ 16.90 / 16.30 Target 19.00 / 20.00 Stop <16.00

- Advertisement -