ปิดสวิตช์สุญญากาศการเมือง / 1,280 – 1,300

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

SET ยังไม่เลือกทาง: แรงกดดันมาจากการเมืองไทย หากแต่ลดทอนลงด้วยความหวังว่าวันนี้จะได้นายกฯคนที่ 31 อีกทั้ง ได้ Sentiment เชิงบวกจากความคลายกังวลศก.สหรัฐฯ ทั้งนี้ คาดการเมืองไทยยังเป็นแรงกดดัน ท่ามกลางความกังวลว่า Digital Wallet ซึ่งเป็นปัจจัยที่ค่อนข้างมีน้ำหนักต่อศก.ไทย และ SET Index โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มค้าปลีก จะเดินหน้าต่อหรือไม่ภายหลังการเปลี่ยนแปลงผู้นำในฝ่ายบริหาร อย่างไรก็ตาม มองแรงกดดันข้างต้นมีแนวโน้มถูกลดทอนลง จากการเมืองไทยที่เริ่มมีความแน่นอนมากขึ้น หลังพรรคร่วมรัฐบาลมีมติเห็นชอบให้เสนอชื่อคุณแพทองธาร ชินวัตร ให้ที่ประชุมสภาฯลงมติเลือกเป็นนายกฯคนที่ 31 ในวันนี้ ซึ่งมีโอกาสได้รับการเห็นชอบค่อนข้างสูง สอดรับกับการที่พรรคร่วมฯ 9 พรรค มี 312 เสียง ซึ่งเกินกึ่งหนึ่งของสภาฯ นอกจากนี้ มอง SET Index จะได้ Sentiment ทางบวกจากความคลายกังวลเกี่ยวกับศก.ถดถอยของสหรัฐฯ หลังสหรัฐฯเผย 1) ยอดค้าปลีกเดือนก.ค.67 ขยายตัว 1% m-m มากกว่าตลาดคาดที่ 0.4% m-m และพลิกจากการหดตัว 0.2% m-m ในเดือนมิ.ย.67 และ 2) ผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 7 พันราย สู่ 2.27 แสนรายในสัปดาห์ที่แล้ว และต่ำกว่าตลาดคาดที่ 2.36 แสนราย ซึ่งเป็นการบ่งชี้ว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคเริ่มฟื้นตัว และสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน อีกทั้ง ข้อมูลข้างต้นยังหนุนให้ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้น 1.53% ปิดที่ 578,16 ต่อบาร์เรลคาดเป็น Sentiment ทางบวกต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน ขณะที่คืนนี้ติดตามการเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ จากม.มิชิแกนเดือนส.ค.67 ซึ่งอาจบ่งชี้สัญญาณเพิ่มเติม โดยตลาดคาดที่ 66.9 เพิ่มขึ้นจาก 66.4 ในเดือนก.ค.67 นอกจากนี้ ติดตามการเผย GDP2Q67 ของไทยในวันจันทร์หน้า ซึ่งจะเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงแนวโน้มของการฟื้นตัวของศก.ไทย โดยตลาดคาดขยายตัว 2.1%y-y เร่งตัวขึ้นจาก 1.5%y-y สอดคล้องกับธปทที่คาดว่าจะเติบโตใกล้เคียง 2% y-y โดยแรงหนุนสำคัญมาจากการบริโภคภาคเอกชนและการส่งออกภาคบริการ

กลยุทธ์การลงทุน : 1) ส่งออกอาหาร: CHAO, CPF, GFPT, TFG, TU 2) คาดงบดีต่อหรือดีขึ้นใน 3Q67: AAT, ADVANC, INTUCH, ITC, MAJOR 3) พลังงาน: PTT, TOP 4) Defensive: BEM, TTW และ 5) Dividend/REITs : FTREIT, LHHOTEL, SCB, STA, TTB

ปัจจัยบวก

  • สถาบันอาหาร ส.อ.ท. และสภาหอการค้าไทย เผยการส่งออกสินค้าอาหารของไทย 1H67 มีมูลค่า 8.52 แสนลบ. เพิ่มขึ้น 9.9% สำหรับแนวโน้มการส่งออกอาหารไทยในช่วง 2H67 คาดมีมูลค่า 7.98 แสนลบ. เพิ่มขึ้น 7.8% และภาพปี 67 คาดว่าการส่งออกของอาหารไทยจะมีมูลค่า 1.65 ล้านลบ. เพิ่มขึ้น 8.8%
  • สมาชิกสภานิติบัญญัติพรรคเดโมแครตจากรัฐแคลิฟอร์เนียเรียกร้องให้คณะบริหารของปธน.ไบเดน ระงับแผนการกำหนดข้อจำกัดใหม่กับการส่งออกเทคโนโลยีของสหรัฐฯไปยังจีน โดยให้เหตุผลว่าข้อจำกัดเพียงฝ่ายเดียวนั้นจะเป็นประโยชน์กับบริษัทคู่แข่งต่างชาติ ขณะที่ส่งผลเสียต่อธุรกิจของสหรัฐฯ
  • อังกฤษเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย.67 ขยายตัว 0.8% m-m นับเป็นการขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนพ.ค.67 ที่ 0.3% m-m และสูงกว่า ที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มเพียง 0.1% m-m

ปัจจัยลบ

  • งานนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดตราสารหนี้ไทย 8,832 ลบ. เป็นการสะท้อนภาพความกังวลการเมืองและศก.ไทย
  • จีนเผยยอดการผลิตเหล็กกล้าในเดือนก.ค.67 ลดลงประมาณ 9% ทั้ง m-m และ y-y สู่ระดับ 82.94 ล้านต้น ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดที่มีการรายงานในปี 2567 และส่งผลให้ยอดการผลิตทั้งหมดในช่วง 7M67 แตะที่ 613.72 ล้านตัน ซึ่งลดลง 2.2% y-y
  • จีนเผยจะกำหนดมาตรการควบคุมการส่งออก Antimony และธาตุอื่นๆ ในนามของการปกป้องผลประโยชน์และความมั่นคงของชาติ โดยจะมีผล ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย. เป็นต้นไป ทั้งนี้ข้อมูลของสหรัฐฯระบุ่าจีนเป็นผู้ผลิตแอนติโมนี ซึ่งเป็นโลหะสำคัญทางยุทธศาสตร์ที่ใช้ในการผลิตสารหน่วงการติดไฟ แบตเตอรี่ และอาวุธรายใหญ่ที่สุดของโลก คิดเป็น 48% ของการผลิตแร่ Antimony ทั่วโลกในปีที่แล้ว

PICKS OF THE DAY

CHAO BUY
  • เป้าหมาย 12.30 / 12.80 แนวรับ 11.50
  • วางเป้าปี 67 เติบโต 2 หลัก: ทางฝ่ายบริหารตั้งเป้ายอดขายปีนี้ไว้ที่ 1,712 ล้านบาทหรือเติบโต 14.6% y-y และวางเป้าหมายยอดขายแตะ 3,000 ล้านบาท ภายในปี พ.ศ. 2571 หรือโตเฉลี่ยปีละ 15% จากปัจจุบัน นอกจากนี้ เตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่ในช่วงครึ่งปีหลัง 2H67 กว่า 10 รายการ เพื่อเร่งยอดขายของ Modern Trade
  • รุกตลาดต่างประเทศ: การส่งออกไปที่จีนได้ Distributor ใหม่ หนึ่งในนั้นคือ Hema Supermarket ซึ่งมีกว่า 360 สาขาทั่วประเทศจีน ครอบคลุมช่องทางทั้ง Online และ Offline นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายการส่งออกไปเพิ่มเติมอีก 10 ประเทศ อาทิ เวียดนาม ไต้หวัน อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ แคนาดา เป็นต้น

MAJOR BUY

  • เป้าหมาย 14.00 / 14.50 แนวรับ 13.20
  • 2H67 แนวโน้มดี โดยเฉพาะ 3Q67: 3Q67 หนัง “Deadpool & Wolverine” มีรายได้ boxoffice ที่ 222 ลบ. และยังฉายในโรงหนังอยู่ เทียบกับ 3Q66 ที่มี Mission Impossible รายได้ 117 ลบ. ซึ่งหนุนรายได้จากป๊อบคอร์นและโฆษณา ยังมีหนังทยอยเข้าทั้งฮอลลีวูดและไทย Alien, Joker 2, Gladiator 2, Venom 3, Kraven the Hunter รวมถึง ธี่หยด 2 ที่ปีก่อนมีธี่หยด 1 ที่ทำรายได้สูงและเป็นหนังร่วมทุนของ MAJOR
  • ปี 2568 เป็นปีที่ดีจากหนังแข็งแรงกว่าปี 2567: ถ้าดูหน้าหนังของฮอลลีวูดที่จะฉาย ความแข็งแรงกว่าปีนี้ โดยเฉพาะแนวฮีโร่ เช่น Captain America 5, Avatar 3, Fantastic 4, Jurassic World 4, Mission: Impossible ภาค 7 ตอนที่ 2, Fast 10 ตอนที่ 2, Super Man, Thunderbolts, Snow White รวมถึงหนังไทย 52 เรื่องจากค่ายใหญ่ ๆ ซึ่งมีหนังร่วมทุนของ MAJOR ที่ 24 เรื่อง น่า จะทำรายได้ดีกว่าในปี 2567

 

- Advertisement -