บล.กสิกรไทย:
Packaging Sector บรรจุภัณฑ์ แนวโน้มปี 68 ยังคงท้าทาย
- กำไรรวมไตรมาส 32567 ของกลุ่มบรรจุภัณฑ์อยู่ที่ 786 ลบ. ลดลง 48% YoY และ 53% QoQ จากความต้องการในภูมิภาคและตลาดภายในประเทศที่ลดลง ปริมาณการขายกระดาษบรรจุภัณฑ์ลดลง QoQ ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) หดตัวทั้ง YoY ก่อนและ QoQ ตาม GPM ที่ลดลงจากราคาวัตถุดิบและการขนส่งที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาขายเฉลี่ย (ASP) เติบโตในอัตราที่จำกัด
- คาดอุตสาหกรรมจะเผชิญกับความท้าทายต่อเนื่องในปี 2568 อุตสาหกรรมกระดาษบรรจุภัณฑ์ปี 2568 ยังคงเผชิญความท้าทายจากอุปทานส่วนเกิน โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แม้ว่าอุปสงค์โลกจะเติบโต แต่กำลังการผลิตเกินสูงถึง 30% อย่างไรก็ตาม ปัญหาวัตถุดิบในจีนช่วยลดผลกระทบ และคาดว่าตลาดจะกลับมาสมดุลในปี 2569
- มีทั้งขึ้นและลง ปัจจัยบวกของอุตสาหกรรมกระดาษบรรจุภัณฑ์ในปี 2568 มาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่สุด แต่ ความเสี่ยงหลักคือสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่อาจทวีความรุนแรงขึ้น หลังจากการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลให้การค้าลดลงและกระทบต่ออุปสงค์บรรจุภัณฑ์
- แนวโน้มอัตรากำไรดูดีขึ้นในไตรมาส 42567 แนวโน้มปี 68 อยู่ในระดับปานกลาง คาดความต้องการกระดาษบรรจุภัณฑ์จะเติบโต 4% แต่กำลังการผลิตส่วนเกินในตลาดอาจจำกัดอำนาจในการกำหนดราคา
- คงมุมมองที่เป็นกลางต่อกลุ่มบรรจุภัณฑ์ เราคงมุมมองที่เป็นกลางต่อกลุ่มธุรกิจนี้ เนื่องจากเราคาดว่าจะเห็นความไม่แน่นอนในปี 2568 โดย ณ ปัจจุบัน เราคาดว่ากำไรจะเติบโต 9% YoY ในปี 2568 โดยด้รับแรงหนุนการฟื้นตัวของความต้องการบรรจุภัณฑ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และ GPM ที่สูงขึ้นเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าความสามารถในการกำหนดราคาของผู้ผลิตกระดาษบรรจุภัณฑ์จะมีอยู่อย่างจำกัด ในขณะที่ต้นทุนยังคงผันผวน เราจึงคงคำแนะนำ “ถือ” สำหรับ SCGP และ UTP