บล.กสิกรไทย

SABINA : วัฎจักรกำไรที่ชะลอตัวลงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก
  • รีวิวไตรมาส 1/2568 SABINA รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/2568 ที่ 103 ลบ. ลดลง 16.3% YoY และ 9.5% QoQ จากยอดขายจากช่องทางออฟไลน์ที่ลดลง และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ที่สูงขึ้น กำไรสุทธิไตรมาส 1/2568 คิดเป็น 22% ของประมาณการทั้งปีของเราที่ 467 ลบ.
  • มีอะไรใหม่ เมื่อวันที่ 21 พ.ค.2568 เราได้พูดคุยกับผู้บริหารของ SABINA เพื่ออัปเดตแนวโน้มธุรกิจ
    • ประการแรก ผู้บริหารปรับลดประมาณการการเติบโตของรายได้ในปี 2568 ลงจาก 0-3% เป็น 0-2% หนุนจากยอดขายที่อ่อนแอกว่าคาดจากช่องทางการขายออฟไลน์และปรับลดประมาณการกรอบบนของอัตรากำไรสุทธิปี 2568 ลงจาก 13.5% เป็น 13% จากการขยายตัวที่จำกัดจากยอดขายที่ชะลอตัวลง
    • ประการที่สอง ผู้บริหารคาดว่ารายได้ไตรมาส 2/2568 จะฟื้นตัวขึ้น QoQ แต่ยังลดลง YoY จากยอดขายที่ลดลงจากช่องทางออฟไลน์
    • ประการที่สาม ผู้บริหารคาดว่ายอดขาย OEM เดือนเม.ย.-ธ.ค. จะฟื้นตัวขึ้น YoY จากการกลับมาสต็อกสินค้าจากลูกค้ารายใหญ่ในสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรป
    • ประการที่สี่ ผู้บริหารชี้แจงว่า GPM ที่สูงขึ้นเป็น 52.5% และสัดส่วนค่าใช้จ่าย SG&A ต่อรายได้ที่ 37.6% ในไตรมาส 1/2568 มีสาเหตุจากการปรับโครงสร้างต้นทุน เพื่อให้ต้นทุนสินค้าสะท้อนถึงต้นทุนวัตถุดิบและแรงงานโดยตรงเพียงอย่างเดียว ในขณะที่ต้นทุนการผลิตที่ไม่เกี่ยวข้องจะถูกบันทึกเป็นค่าใช้จ่าย SG&A แทน
  • มุมมองของเรา เรามีมุมมองลบต่อแนวโน้มการเติบโตในปี 2568 ของ SABINA ประการแรก กำไรไตรมาส 1/2568 ที่ออกมาน้อยกว่าที่เราคาดไว้ 7% จากยอดขายจากช่องทางออฟไลน์ที่น้อยกว่าคาดซึ่งคาดจะยังน้อยต่อเนื่องในช่วงเวลาที่เหลือของปี 2568 ขณะที่ค่าใช้จ่าย SG&A ที่สูงกว่าคาดบ่งชี้ถึงอัตรากำไรที่ขยายตัวขึ้นจำกัด ประการที่สอง ผู้บริหารเน้นย้ำถึงแนวทางขาลงโดยคาดว่ายอดขายจะยังเติบโตช้าลงผลจากการบริโภคในประเทศที่อ่อนตัวลง ขณะที่กลยุทธ์เพิ่มสาขาเดี่ยวที่ราว 10-15 แห่ง เพื่อเพิ่มการรับรู้ของแบรนด์คาดจะส่งผลให้ค่าใช้จ่าย SG&A สูงขึ้นกว่าปีก่อน ทั้งนี้ แนวทางกรอบล่างใหม่ของผู้บริหารบ่งชี้ถึง downside ที่ 1% ต่อประมาณการก่อนทบทวนของเราที่ 467 ลบ.
  • ปรับประมาณการกำไร เพื่อสะท้อนยอดขายที่คาดจะอ่อนตัวลงซึ่งจะส่งผลให้ การประหยัดต่อขนาดที่ลดน้อยลง เราจึงปรับลดประมาณการกำไรปกติปี 2567/68/69 ลง 7.6%/8.9%/8.6%
  • แนะนำ “ถือ” และ TP ที่ 17.10 บาท เฟสยอดขายที่อ่อนตัวลงจะกดดันแนวโน้มการเติบโต ขณะที่มูลค่าหุ้นไม่ถูกเพราะซื้อขายด้วยคาดการณ์ CAGR 3 ปี ที่ -0.1%

- Advertisement -