บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย):

Kasikornbank (KBANK TB)

เผชิญความท้าทายเพิ่มในการบรรลุเป้าหมาย ROE ที่ 10%

“ถือ” พร้อมปรับราคาเป้าหมายลงเหลือ 170 บาท คุณภาพสินทรัพย์มีแนวโน้มอ่อนแอในช่วงครึ่งหลังของปี

เราปรับคำแนะนำจาก “ซื้อ” เป็น “ถือ” และลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 170 บาท (P/BV ปี 68 ที่ 0.7 เท่า, ROE ที่ 8.7%) จากเดิม 175 บาท หลังจากปรับลดประมาณการกำไรปี 68–69 ลงจากการเติบโตของ NIM และรายได้ค่าธรรมเนียมที่ลดลง เราคาดว่าธนาคารจะรับรู้กำไรจากการลงทุนและควบคุมค่าใช้จ่ายดำเนินงานเพื่อชดเชย NII ที่อ่อนแอในปีนี้ อย่างไรก็ตาม เราคาดว่ากำไรปีนี้จะทรงตัว และมองว่าเป้าหมาย ROE ที่ 10% ทำได้ยากภายใต้สภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ปัจจุบันเราชอบ BBL (ราคาปัจจุบัน 142 บาท, แนะนำ “ซื้อ”, ราคาเป้าหมาย 180 บาท) มากกว่า KBANK เนื่องจากงบดุลที่แข็งแกร่งและมูลค่าที่น่าสนใจ

Credit cost มีแนวโน้มสูงกว่าเป้าหมายทั้งปี

ในการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวานนี้ CFO ให้ข้อมูลว่าต้นทุนความเสี่ยงจากการให้สินเชื่อ (credit cost) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 68 และทั้งปีอาจสูงถึง 1.7% (เทียบกับเป้าหมาย 1.4–1.6%) จากการเติบโตของเศรษฐกิจที่อ่อนแอในช่วงครึ่งหลังของปี ธนาคารมองว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 68 ที่ระดับ 1.4% มีดาวน์ไซด์จากภาคการส่งออกและการท่องเที่ยวที่ยังซบเซา ทั้งนี้ KBANK คาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะถูกปรับลดลงอีก 25–50bps ในปีนี้ ขณะที่การเพิ่มขึ้นของ credit cost นี้สอดคล้องกับสมมติฐานของเราที่ 1.7% สำหรับปีนี้

หั่นกำไรปี 68–69 จาก NIM และรายได้ค่าธรรมเนียมที่ลดลง

เราปรับลดประมาณการกำไรปี 68–69 ลง 2–5% เพื่อสะท้อนถึง NIM และการเติบโตของค่าธรรมเนียมที่ลดลงจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่อ่อนแอ โดยคาดว่า NIM ปี 68 จะลดลง 32bps YoY เหลือ 3.37% จากผลตอบแทนสินเชื่อที่ลดลง ปัจจุบันเราคาดว่ากำไรจะทรงตัว YoY และเติบโตเฉลี่ยปีละ 3% ในช่วงปี 69–70 สำหรับโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” KBANK ให้ข้อมูลว่ามีการปรับโครงสร้างหนี้ต่ำกว่า 1% ของสินเชื่อทั้งหมด โดยส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อที่อยู่อาศัย เราเห็นว่าผลกระทบต่องบกำไรขาดทุนจากโครงการนี้มีจำกัด

เป้าหมาย ROE ที่ 10% ภายในปี 69 ยังเป็นเรื่องที่ท้าทาย

เรามองว่าเป้าหมาย ROE ที่ 10% ในปี 69 ของธนาคารทำได้ยาก จากความไม่แน่นอนของการเติบโตของรายได้และคุณภาพสินทรัพย์ โดยเราคาดการณ์อย่างระมัดระวังว่า ROE จะอยู่ที่ 8.5% ในปี 68–69 โดยอิงอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ 60% เนื่องจากโอกาสในการขยายพอร์ตสินเชื่อมีจำกัด ส่วนอัพไซด์ต่อสมมติฐาน ROE ของเราคืออัตราการจ่ายเงินปันผลที่สูงกว่าคาด หรือการซื้อหุ้นคืน

 

- Advertisement -