บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย)
Sky ICT (SKY TB)
ราคาหุ้นสะท้อนความไม่แน่นอนทางการเมืองและการท่องเที่ยวที่อ่อนแอแล้ว
คงคำแนะนำ “ซื้อ” พร้อมปรับราคาเป้าหมายลงเหลือ 14.70 บาท
เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับหุ้น SKY เนื่องจาก 1) การเติบโตของกำไรหลักที่แข็งแกร่งในไตรมาส 2/68 (+46% YoY) และทั้งปี 68 (+44% YoY) 2) อัตราส่วน P/E ปี 68 ที่เหมาะสมที่สมเหตุสมผลที่ระดับ 12.5 เท่า (ต่ำกว่า SAMTEL ที่ 17.1 เท่า และ DITTO ที่ 12.8 เท่า) ทั้งนี้ เราได้ปรับลดราคาเป้าหมายแบบ Sum-of-the-Parts (SoTP) จาก 27.50 บาท เหลือ 14.70 บาท จากการปรับลดประมาณการกำไรหลักปี 68–70 ลง 7–20% และไม่รวมการต่อสัญญาของระบบ APPS และ CUPPS เข้ามาในประมาณการ โดยราคาหุ้นที่ปรับลดลงแล้ว 52% ตั้งแต่ต้นปีน่าจะสะท้อนถึงความไม่แน่นอนทางการเมืองและจำนวนนักท่องเที่ยวที่อ่อนแอในปีนี้แล้วในมุมมองของเรา ส่วนปัจจัยที่อาจกระตุ้นให้ราคาหุ้นขึ้น ได้แก่ 1) การลงนามสัญญาโครงการใหม่ๆ ในไตรมาส 4/68 2) AOTGA กลายเป็นผู้ให้บริการรายที่สามที่สนามบินสุวรรณภูมิ (มีอัพไซด์ต่อราคาเป้าหมาย 0.83 บาท)
ลดประมาณการกำไรปี 68–70 จากปัจจัยการเมืองและการท่องเที่ยว
เราปรับลดประมาณการกำไรหลักปี 68–70 ลง 7–20% จากการเปลี่ยนแปลงในภูมิทัศน์ทางการเมืองและจำนวนนักท่องเที่ยวที่อ่อนแอ โดยเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. พรรคภูมิใจไทยได้ตัดสินใจถอนตัวจากรัฐบาล ส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงใน 5 กระทรวง ซึ่งเราคาดว่าจะทำให้เกิดความล่าช้าในโครงการต่างๆ นอกจากนี้ เรายังปรับลดประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวปี 68/69/70 ลงเหลือ 35 ล้าน/36 ล้าน/37 ล้านคน จากเดิม 39.5 ล้าน/40.3 ล้าน/41.1 ล้านคน ซึ่งส่งผลให้รายได้จากระบบ APPS ลดลง (คิดเป็น 9% ของรายได้ปี 68)
คาดกำไรหลักปี 68/69 เติบโต 44%/14%
เราคาดว่ากำไรหลักปี 68/69 จะเติบโตที่ 44% และ 14% ตามลำดับ โดยการเติบโต 44% ในปี 68 หลักๆ มาจาก 1) การเติบโต 30% ของธุรกิจ SI (จากการใช้จ่ายด้าน IT ของภาครัฐที่เพิ่มขึ้น) 2) การเติบโต 11% จาก AOTGA (จากปริมาณขนส่งสินค้าที่สนามบินภูเก็ตที่เพิ่มขึ้น) ทั้งนี้ รายได้ปี 68/69 ได้รับการประกันแล้ว 90%/54% จาก backlog ที่มีอยู่ ณ สิ้นไตรมาส 1/68
คาดกำไรหลักไตรมาส 2/68 อยู่ที่ 199 ล้านบาท (+46% YoY)
เราคาดว่ากำไรหลักไตรมาส 2/68 (ประกาศ 15 ส.ค.) จะอยู่ที่ 199 ล้านบาท (+46% YoY, ทรงตัว QoQ) จากรายได้ 2.4 พันล้านบาท (+50% YoY, +2% QoQ) โดยรายได้จากธุรกิจ SI คาดว่าจะเติบโต 102% YoY จากการชนะประมูลโครงการอย่างแข็งแกร่ง โดย SKY ได้ลงนามโครงการใหม่รวมมูลค่า 5.2 พันล้านบาทในช่วง 6 เดือนแรกของปี 68 เทียบกับเพียง 729 ล้านบาทในทั้งปี 67 แม้ว่ากำไรหลักในไตรมาส 3–4/68 คาดว่าจะยังเติบโต YoY ได้ดี แต่เราคาดว่ากำไรจะลดลง QoQ ในไตรมาส 3/68 (จากความล่าช้าในการดำเนินโครงการ) ก่อนจะฟื้นตัว QoQ ในไตรมาส 4/68 (จากการกลับมาลงนามโครงการและเข้าสู่ช่วงไฮซีซันของการท่องเที่ยว)
