บล.กสิกรไทย:
BH : กำไรถูกฉุดตามรายได้จากตะวันออกกลางที่ลดลง
- เราคาดกำไรปกติไตรมาส 2/68 ของ BH จะลดลงทั้ง QoQ และ YoY มาอยู่ที่ 1.6 พันลบ. ซึ่งน่าจะเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 8 ไตรมาส โดยคาดรายได้จะลดลงทั้ง QoQ และ YoY ซึ่งจะกดดันอัตรากำไรด้วย
- การแข่งขันที่เพิ่มขึ้นของตลาดคนไข้ตะวันออกกลาง BH น่าจะต้องเผชิญกับการสูญเสียส่วนแบ่งตลาดตะวันออกกลางต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากกาตาร์ที่รายได้ลดลง YoY ในไตรมาส 1/2568 หลังจากเติบโตต่อเนื่องในไตรมาส 1-4/2567 พรีวิวไตรมาส 2/2568 ของเราสะท้อนว่า BDMS และ PR9 น่าจะมีรายได้จากตะวันออกกลางเติบโตแข็งแกร่ง YoY ซึ่งน่าจะหนุนการเติบโตของรายได้จากกาตาร์เป็นหลัก แม้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคตะวันออกกลางดูอ่อนตัวในช่วงเดียวกัน นอกจากนี้ คนไข้ชาวคูเวตที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลยังคงไม่มีการฟื้นตัว ทั้งนี้ แม้ BH มีความพยายามในการเจาะตลาดใหม่ๆ แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จในการพลิกฟื้นรายได้รวม และจากบริการระดับพรีเมียมทำให้การแข่งขันด้านราคากับคู่แข่งน่าจะทำได้จำกัด
- การบริหารจัดการเงินทุนขับเคลื่อนด้วยเงินปันผล เราคาดว่าเงินปันผลต่อหุ้น (DPS) จะคงที่ที่ 5 บาท ตั้งแต่ปี 2568 ซึ่งเท่ากับปี 2567 โดยอัตราการจ่ายจะเพิ่มขึ้นเป็น 59%-83% (ปี 2568-70) จาก 51% ในปี 2567 โดยกระแสเงินสดสุทธิของ BH สนับสนุนสมมติฐานดังกล่าว โดยเราเชื่อว่า BH มีแนวโน้มไม่น่าทำการซื้อหุ้นคืน
- แนวโน้มไตรมาส 3/2568 เราคาดว่ารายได้จะฟื้นตัว QoQ จากผลของช่วงไฮซีซั่นของคนไข้ตะวันออกกลาง แต่รายได้น่าจะทรงตัวถึงลดลงเล็กน้อย YoY เนื่องจากแนวโน้มรายได้จากคนไข้ตะวันออกกลางที่ลดลง นอกจากตลาดนี้ ผลการดำเนินงานน่าจะมีแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจ และความตึงเครียดชายแดนไทยและกัมพูชา
- ปรับลดประมาณการกำไร เราปรับลดประมาณการกำไรปกติปี 2569-70 ลง 18% เพื่อสะท้อนสมมติฐานรายได้และอัตรากำไรที่ลดลง เรามีสมมติฐานการจ่าย DPS คงที่ที่ 5 บาท ตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป จากเดิมที่คาดอัตราการจ่ายปันผลที่ 51-53% ในปี 2568-70 ขณะที่โรงพยาบาลสาขาภูเก็ตยังไม่รวมอยู่ในประมาณการของเรา
มุมมอง KS
- แนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมาย 152.00 บาท จากการปรับลดประมาณการกำไรหลังปี 68 อย่างไรก็ตาม ราคาปัจจุบันน่าจะสะท้อนแนวโน้มการเสียส่วนแบ่งตลาดคนไข้ตะวันออกกลางแล้ว