บล.พาย: 

STANLY: Thai Stanley Electric PCL

คาด FY2Q26 มีปันผลรับหนุนกำไรโต

เรายังคงแนะนำ “ซื้อ” จากปัจจัยบวกเรื่องผลประกอบการงวด FY2Q26 ที่คาดว่าจะเห็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากมาอยู่ที่ 577 ล้านบาท (+76%YoY, +56%QoQ) เกิดจากผลดีของการรับรู้เงินปั่นผลรับรวมกับการไม่มีค่าใช้จ่ายในการควบรวมโรงงานเหมือนในปีก่อน และการควบคุมต้นทุนที่ยังทำได้เป็นอย่างดี ทำให้กำไรขั้นต้นยังสูงถึง 21% สำหรับแนวโน้มช่วง FY2H26 ในแง่รายได้คาดว่าจะเห็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นได้จากการรับรู้คำสั่งซื้อใหม่เข้ามา ส่วนความร่วมมือกับบริษัทในกลุ่มคาดยังต้องรอความชัดเจนอีกระยะแต่หากเริ่มได้จะเป็นการขยายธุรกิจไปยังกลุ่มอื่นที่จะสร้างการเติบโตได้อีกมากในอนาคต

คาด FY2Q26 กำไร 577 ล้านบาท (+76%YoY, +56%QoQ)

  • เราคาดว่า STANLY จะมีกำไรสุทธิงวด FY2Q26 (ก.ค.-ก.ย.25) ที่ 577 ล้านบาท (+76% YoY, +56% QoQ) เติบโตแรงจากปีก่อนเนื่องจากไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษที่เกิดจากการปรับโครงสร้างบริษัท ส่วนเทียบกับไตรมาส 1 เพิ่มมากจากเงินปันผลรับที่เข้ามาเป็นประจำในไตรมาส 2 ของทุกปี
  • รายได้คาดที่ 3,173 ล้านบาท (-2%YoY, +9%QoQ) เทียบกับปีก่อนลดลงเพราะได้รับแรงกดดันจากการชะลอตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ แม้จะได้รับการชดเชยจากการผลิตรถจักรยานยนต์ที่ในช่วง 2 เดือนแรกของไตรมาส (ก.ค.-ส.ค.) มียอดผลิตเพิ่มขึ้นประมาณ 9%YoY ส่วนการเพิ่มขึ้นจาก FY1Q26 เกิดจากการที่มีวันทำงานเพิ่มขึ้นซึ่งเป็นผลตามฤดูกาล
  • กำไรขั้นต้นคาดที่ 21.2% ลดลงเล็กน้อยจาก 21.3% ใน FY2Q25 แต่ดีขึ้นจาก 20.9% ใน FY1Q26 โดยกำไรขั้นต้นที่ยังสูงกว่า 20% เกิดจากผลดีของการปรับโครงสร้างบริษัทและการควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้านค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารคาดที่ 308 ล้านบาท (+5%YoY, +8%QoQ) ส่วนหนึ่งจากการขนส่งชิ้นส่วนสำหรับลูกค้าในกัมพูชาผ่านการขนส่งทางอากาศ
  • ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนที่ 90 ล้านบาท ลดลง 14%YoY เพราะภาพรวมผลประกอบการของบริษัทร่วมที่ลดลง
  • รวมแล้วในช่วง FY1H25 คาดว่า STANLY จะมีกำไรสุทธิ 947 ล้านบาท (+49% YoY)

คาด FY2H25 ฟื้นหลังมีคำสั่งซื้อใหม่เข้ามาช่วย

แนวโน้มช่วง FY2H25 เราคาดว่าในแง่รายได้จะเห็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก FY1H25 ได้จากการรับรู้รายได้จากคำสั่งซื้อใหม่ที่จะทยอยเข้ามา ส่วนการขยายธุรกิจไปสินค้าในกลุ่ม Electronic ที่ร่วมมือกับบริษัทในกลุ่มคาดว่าจะมีความชัดเจนในช่วงครึ่งหลังของปี 26 เป็นต้นไป โดยเรามองว่าการขยายไปธุรกิจดังกล่าวจะเป็นการเพิ่มรายได้ให้นอกเหนือจากสินค้าในกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์

ยังแนะนำลงทุนระยะกลาง-ยาว

หากผลประกอบการออกมาตามคาดจะทำให้กำไรสุทธิในช่วง FY1H25 คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 60% ของกำไรสุทธิทั้งปีที่เราประเมินไว้ที่ 1,565 ล้านบาท (+13%YoY) ดังนั้นเราจึงยังคงประมาณการกำไรทั้งปีไว้เท่าเดิม ก่อน (ส่วนหนึ่งมาจากการไม่มีเงินปันผลรับเหมือนช่วง FY2Q26) สำหรับคำแนะนำการลงทุน ด้วยการเป็นผู้นำในธุรกิจผู้ผลิตชุดไฟส่องสว่างให้กับยานยนต์ รวมถึงมีแผนขยายไปยังธุรกิจอื่น ที่จะหนุนให้ผลประกอบการมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ ดังนั้นเราจึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” เช่นเดิมและประเมินมูลค่าเหมาะสมที่ 214 บาท (10.5XPER’26E)

 

- Advertisement -