REVIEW 3Q24 : MTC & SAWAD & TIDLOR

MTC : กำไรเป็นไปตามคาด ปรับคำแนะนำเป็น “ซื้อ”

• MTC รายงานกำไรไตรมาส 3/2567 ที่ 1.49 พันลบ. เพิ่มขึ้น 3% QoQ และ 16% YoY สอดคล้องกับที่เราและตลาดคาดการณ์ไว้
• MTC คาดการจัดเก็บหนี้ 4Q24 จะยังเติบโตแข็งแกร่ง หนุนโดยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล และทักษะการทำงานของพนักงานในการติดต่อกับลูกค้าที่ดีขึ้น
• MTC มุ่งลดอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้อย่างต่อเนื่อง โดยแหล่งเงินทุนจะมีอยู่อย่างหลากหลาย
• เราคาดว่ากำไร 4Q24 จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 26% จากการเติบโตของสินเชื่อ ต้นทุนต่อรายได้ที่ลดลง และ credit cost ที่ลดลง
• แนะนำ “ซื้อ” TP ที่ 55.50 บาท แม้ว่า MTC จะซื้อขายด้วย PBV ปี 26 ที่ 2.3 เท่า ซึ่งสูงกว่า TIDLOR และ SAWAD ที่ 1.4 เท่า และ 1.5 เท่า แต่สมเหตุสมผล เนื่องจาก ROE สูงกว่าที่ 18% เมื่อเทียบกับ TIDLOR และ SAWAD ที่ 14% และ 15%

• SAWAD รายงานกำไรไตรมาส 3/2567 ที่ 1.30 พันลบ. เพิ่มขึ้น 3% QoQ แต่ลดลง 6% YoY ซึ่งสอดคล้องกับที่เราและตลาดคาดการณ์ กำไร 9M24 คิดเป็น 73% ของประมาณการทั้งปีของเรา
• ผู้บริหารคงเป้า credit cost ไว้ที่ 180bps ในปี 25 หากสภาพคล่องในตลาดพันธบัตรดีขึ้น SAWAD คาดว่าจะสามารถกระตุ้นการเติบโตของสินเชื่อปี 25 ให้เป็น 10-15%
• คาด ROE ปี 25-26 ลดลงเป็น 15.7%/15.57% จาก 16.81% ในปี 24
• เราปรับประมาณการกำไรปี 24-26 ลง 1.4%/7.6%/5.5% เพื่อสะท้อน NIM ที่อ่อนแอลงและแนวโน้มการเติบโตของสินเชื่อปี 67-69
• แนะนำ “ถือ” TP ที่ 40.00 บาท เพื่อสะท้อนการปรับลดประมาณการกำไรปี 2024-2026 ของเรา และลดเป้า PBV ลงเป็น 1.51 เท่า จาก 1.65 เท่า โดยถือว่า ROE ระยะยาวลดลงเป็น 16% จาก 17%

• รายงานกำไรไตรมาส 3/2567 ที่ 991 ลบ. ลดลง 9% QoQ และ 2% YoY สอดคล้องกับประมาณการของเรา แต่ต่ำกว่าของตลาด 6%
• เราคาดว่า TIDLOR จะเข้าสู่ช่วงคุณภาพสินทรัพย์ที่ทยอยปรับดีขึ้นตั้งแต่ 4Q24 เป็นต้นไป โดยมีการก่อตัว NPL ใหม่และ credit cost ที่ลดลง
• TIDLOR มีความเสี่ยงด้านสภาพคล่องต่ำกว่าคู่แข่ง เราคาดว่าการเติบโตของกำไรจะเร่งตัวขึ้นในปี 68 และ ROE จะกลับเป็นขาขึ้นในปี 68 เช่นกัน
• แนะนำ “ซื้อ” ด้วย TP ที่ 23.00 บาท มูลค่าหุ้นดูน่าสนใจจาก PER ที่ต่ำที่ 10 เท่า เทียบกับการเติบโตของกำไรประมาณ 14-16% ในปี 68-2569