บล.พาย: 

CBG: Carabao PCL

ลุ้นการกลับมาของตลาดในต่างประเทศ

เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 70.00 บาท แนวโน้มการขยายตลาดในประเทศยังทำได้ดีต่อเนื่อง ตลาดในต่างประเทศมีแนวโน้มฟื้นตัวเด่นในปี 2026 แม้จะชะลอตัวบ้างใน 2H25 เราประเมินกำไร 3Q25 เติบโต YoY และ QoQ ต่อเนื่องจากยอดขายในประเทศที่เติบโตตามส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้น

ส่วนแบ่งตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศโตแข็งแกร่ง

  • ส่วนแบ่งการตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศในเชิงปริมาณของคาราบาวแดงยังคงทำสถิติสูงใหม่ต่อเนื่องที่ 26.5% ในเดือนมิ.ย. 2025 และเพิ่มขึ้นในภาคอีสานที่มี OSP ผลักดัน M-150 ฝาเหลือง 10 บาท/ขวด โดยคาราบาวยังคงดำเนินกลยุทธ์

1.คงราคาขายปลีก 10 บาท/ขวด

2.การขยายช่องทางจัดจำหน่ายในร้านค้าย่อยเพิ่มเป็นหลักหมื่นร้านค้าจากหลักพันร้านค้า

3.ทำการตลาดที่เข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง (ส่งชิงโชค แจกรถมอเตอร์ไซค์และทองคำ)

4.ทำการตลาดผ่านกีฬา (EFL Carabao Cup และฟุตบอลในไทย)

เราคาดยอดขายในประเทศเติบโตราว 16% ใน 3Q25 และเติบโต YoY ต่อเนื่องในช่วง 4Q25

  • คาราบาวแดงยังคงไม่ปรับสูตรจนถึงสิ้นปี 2025 และเสียภาษีความหวานในอัตรา 1.0 บาท/ลิตร (น้ำตาล 7.8 กรัม/100ml) ตั้งแต่ 1 เม.ย. 2025 ทำให้เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นในช่วง 2H25 จะยังขยายตัวราว 50 bps YoY จากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง ตามกราฟราคาน้ำตาลในรูปหน้าที่ 6 แต่ลดลงจากช่วง 1Q25 จากผลกระทบภาษีความหวาน

แนวโน้มตลาดต่างประเทศจะชะลอบ้างใน 2H25

  • กัมพูชายังคงเป็นตลาดหลัก (สัดส่วน 13% ของยอดขายรวม) ปัจจุบันบริษัทใช้การขนส่งสินค้าทางเรือไปยังกัมพูชาโดยตัวแทนจำหน่ายเป็นผู้รับผิดชอบค่าขนส่ง โรงงาน JV ที่กัมพูชาจะเริ่มผลิตช่วงเดือนธ.ค. 2025 คาดจะช่วยให้อัตราการทำกำไรดีขึ้นจากประหยัดค่าใช้จ่ายภาษีที่ลดลง ขณะที่ระยะสั้นช่วง 3Q25 ยอดขายในแนวโน้มลดลง 20% QoQ ตามปัจจัยฤดูกาลและกำลังซื้อผู้บริโภคลดลงตามภาวะเศรษฐกิจ รวมถึงปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศ แต่ระยะยาวเราเชื่อว่าผู้บริโภคยังคงนิยมคาราบาวจากส่วนแบ่งตลาด 70% และในกรณีเลวร้ายเราก็คาดว่าสามารถเปลี่ยนแบรนด์และขายได้เหมือนเดิมจากศักยภาพในการกระจายสินค้า
  • เมียนมา (สัดส่วน 6% ของยอดขายรวม) โรงงานในเมียนมาเริ่มผลิตในปลายเดือน ก.ค. 2025 มีกำลังการผลิต 4 แสนลัง/ปี เทียบกับยอดขายปัจจุบันเมียนมาที่ราว 6 แสนลัง/ปี จะช่วยให้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้ดีขึ้นจากต้นทุนค่าขนส่งที่ลดลง และโดยคาดเห็นอัตรากำไรขั้นต้นในเมียนมาดีขึ้น 1%-2% ในระยะยาว
  • การหาผู้จัดจำหน่ายที่จะช่วยทำตลาดในประเทศจีนมีโอกาสเห็นความชัดเจนช่วงต้นเดือน ก.ย. 2025 และคาดเห็นยอดขายเข้ามาช่วงปลายปี 2025 หากย้อนกลับไปในอดีตคาราบาวเคยทำยอดขายในประเทศจีนได้มากกว่า 1 พันล้านบาทในปี 2017 หาก CBG กลับไปมียอดขายในประเทศจีนเท่าปี 2017 เราประเมิน upside ต่อประมาณการเราราว 5%-10% ในปี 2026 หรือคิดเป็น 4-8 บาทต่อหุ้น นอกจากนี้ CBG จะใช้โมเดลรูปแบบใหม่ในการขยายธุรกิจในตลาดต่างประเทศผ่านการขายหัวเชื้อเครื่องดื่มชูกำลังให้กับตัวแทนจำหน่ายเพื่อไปผลิตในต่างประเทศ ลดต้นทุนค่าขนส่ง ทำให้เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในระยะยาว

คำแนะนำ

“ซื้อ” ลุ้นการกลับมาของตลาดในต่างประเทศ มูลค่าพื้นฐาน 70.00 บาท คำนวณด้วยวิธีคิด PE Multiple ที่ 20x PE’26E ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยกลุ่มเครื่องดื่มชูกำลัง

- Advertisement -