บล.พาย:
บมจ. จีเอฟพีที (GFPT) “1Q22 กําไรดีเกินคาด หลัง บ.ลูกดี”
1Q22 กำไร 456 ลบ. (+652% YoY, +741%QoQ)
GFPT มีกำไรสุทธิงวด 1Q22 สูงถึง 456 ลบ. (+652%YoY, +741%QoQ) แต่ถ้าไม่รวมรายการพิเศษอย่างกำไรจากตราสารอนุพันธ์ 29 ลบ. กำไรจากการขายสินค้าเบ็ดเตล็ด 22 ลบ. (สุทธิจากภาษี) และขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน จะมีกำไรปกติประมาณ 405 ลบ. (+906%YoY, +2,796%QoQ) ดีกว่าที่เราคาดไว้กว่า 100% ซึ่งเกิดจากส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนใน GEN ที่ปรับตัว ชเพิ่มขึ้นมากกว่าที่เราคาดไว้ ขณะที่ผลประกอบการโดยรวมได้รับผลดีจากราคาเนื้อไก่ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 22%YoY, 19%QoQ มาอยู่ที่ 39-40 บาท/กก. รวมถึงการส่งออกที่กลับมามีปริมาณเพิ่มขึ้นกว่า 42%YoY และ 7%QoQ มาอยู่ที่ระดับ 7,700 ตัน รายได้อยู่ที่ 4,009 ลบ. (+22%YoY, +14%QoQ) โดยธุรกิจอาหารสัตว์เป็นธุรกิจเดียวที่รายได้ปรับตัวลดลงจากผลกระทบของอาหารสัตว์บก กำไรขั้นต้นที่ 14.2% ดีขึ้นจาก 9.6% ใน 1Q21 และ 5.8% ใน 4Q21 เป็นผลจากราคาที่ดีขึ้น ขณะที่ยังมีต้นทุนวัตถุดิบราคาเหลืออยู่ ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ 385 ลบ. (+12%YoY, +24%QoQ) ยังได้รับผลกระทบจากค่าขนส่งที่ยังอยู่ในระดับสูง ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม 192 ลบ. (+ 503%YoY, +140%QoQ) เป็นผลจากราคาเนื้อไก่ที่อยู่ในระดับสูงทำให้ GFN มีกำไรสูงถึง 206 ลบ. (GFPT รับรู้เข้ามา 101 ลบ. เทียบกับ 1Q21 ที่รับรู้ขาดทุน 52 ลบ. และเพิ่มจาก 8 ลบ. ใน 4Q21) ส่วน Mckey รับรู้เพิ่มขึ้น 8% YoY,+14% QoQ)
ต้นทุนใหม่เริ่มมา แต่ราคาขายขึ้นต่อ
ภาพรวมในช่วง 2Q22 ในแง่ของต้นทุนการเลี้ยงยังคงเห็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นใน เดือน เม.ย. โดยข้าวโพดขึ้นไปถึงระดับ 13 บาท/กก. (1Q21 11.6 บาท/กก.) ส่วนกากถั่วเหลือง 22 บาท/กก. (1Q21 20.4 บาท/กก.) อย่างไรก็ตาม ในส่วนของราคาขายในประเทศยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นถึงระดับ 42 บาท/กก. มาช่วยชดเชยผลดังกล่าวได้ อีกทั้งจากการที่ GFPT มีรายได้จากการส่งออก 20-30% ด้วยค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงจะเป็นผลดีกับ GFPT ได้อีกทาง (รวมถึงในช่วง 2Q22 จะเริ่มเข้าสู่ช่วง High Season ของการส่งออกทำให้ปริมาณการส่งออก ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อีกทางเบื้องต้นมีสิทธิถึงระดับ 8,000 ตัน (+57% YoY, +4%QoQ)
ปรับประมาณการขึ้น 57% มาอยู่ที่ 1,301 ลบ.
จากผลประกอบการช่วง 1Q22 ออกมาดีกว่าคาด ขณะที่แนวโน้มในช่วง 2Q22 เบื้องต้นยังอยู่ในระดับ 400 ลบ. ได้ ทำให้เราปรับประมาณการกำไรทั้งปีขึ้นจากเดิม 57% มาอยู่ที่ 1,301 ลบ. (+521%YoY) โดยคาดกำไรขั้นต้นขึ้นเป็น 13.8% จากเดิมคาดไว้เพียง 11.4% และคาดรายได้ที่ 15,249 ลบ. (+11%YoY) สําหรับคําแนะนำการลงทุน จากผลประกอบการที่ออกมาดี เราจึงยังคงคําแนะนํา “ซื้อ” เช่นเดิม โดยประเมินมูลค่าเหมาะสมได้ใหม่ที่ 16.4 บาท (1.3XPBV’22E)