Market View : Sideway Up
หุ้นรายงานพิเศษ : LALIN
หุ้นมีข่าว : WP EKH QH ASIAN
Technical Insight : TASCO TRUBB

สรุปภาวะตลาด
ตลาดหุ้นวานนี้พลิกปิดปรับตัวขึ้น 6.58 จุด แข็งแกร่งกว่าตลาดหุ้นภูมิภาคที่ส่วนใหญ่อยู่ในแดนลบ โดยดัชนีได้แรงหนุนจากหุ้นรายตัว อาทิ DELTA SCC OR และ SAWAD โดยดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,570.83 จุด +6.58 จุด +0.42% มูลค่าการซื้อขาย 85,437 ลบ. ต่างชาติ +839.03 ลบ. TFEX +420 สัญญา ตราสารนี้ -161 ลบ.

ปัจจัยบวก
+/- ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 3.09 จุด หรือ -0.01% โดยนักลงทุนยังมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการที่ประเทศยุโรปยังคงใช้มาตรการล็อกดาวน์ โดยปัจจับลบดังกล่าวได้บดบังแรงบวกจากการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธาน เฟด และนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ได้แสดงความเชื่อมั่นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ
+ ราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้น 3.42 ดอลลาร์ หรือ 5.9% ปิดที่ 61.18 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีรายงานว่า เรือ Ever Given ซึ่งเป็นหนึ่งในเรือขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกได้เกยตื้นกีดขวางเส้นทางสัญจรในคลองสุเอซของอียิปต์ ส่งผลให้การขนส่งสินค้าทางทะเลทั่วโลกต้องหยุดชะงัก
+ไอเอชเอส มาร์กิต เปิดเผยว่า ดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของยูโรโซน ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 52.5 ในเดือนมี.ค. จากระดับ 48.8 ในเดือนก.พ.
+ ส.อ.ท.เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ ได้เร่งรัดให้เมืองไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (ZEV) 100% ในปี 2578 หรืออีก 14 ปีข้างหน้า เร็วกว่าเป้าหมายเดิมในปี 2583 หรือเร็วขึ้นกว่าเดิม 5 ปี

ปัจจัยลบ
– EIA เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.912 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 272,000 บาร์เรล
-สหรัฐเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.พ. ลดลง 1.1% ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ปีที่แล้ว และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.8%
– นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยว่า เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธ 2 ลูกในช่วงเช้าวันนิ้ ตกลงในทะเลญี่ปุ่น และได้เรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติเพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางการรับมือกับเหตุการณ์ดังกล่าว
– กนง. รับเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้ากว่าเพื่อน สั่งคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.50% ต่อปี พร้อมหั่นจีดีพี 64 เหลือ 3% คาดใช้เวลา 2 ปีครึ่งกว่าจะฟื้นตัว
– รมว.คลัง ชะลอต่ออายุ “คนละครึ่งเฟส 3” ขอปิดช่องโหว่-ศึกษาข้อมูลรอบด้าน

แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวขึ้นแบบ Sideway Up โดยมีแรงหนุนจาก Fund Flow ต่างชาติที่เริ่มไหลกลับเข้ามา ประกอบกับราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้นแรง หนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,560-1,580 จุด

กลยุทธ์การลงทุน
ดัชนีค่าระวางเรือปรับตัวขึ้น TTA PSL RCL
วัคซีนพาสปอร์ตและเราเที่ยวด้วยกันเฟส3 AWC MINT CENTEL CPN CRC SPA AOT
ราคาถ่านหินปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง BANPU AGE LANNA

หุ้นรายงานพิเศษ
LALIN (ถือรับปันผล ราคาเหมาะสม 11 บาท)
ปี 63 มีกำไรสุทธิ 1,333 ล้านบาท +50%YoY ดีกว่าคาดการณ์ของฝ่ายวิจัย 7% หากไม่รวมกำไรจากการเวนคืนที่ดินจะมีกำไรปกติ 1,178 ล้านบาท +32%YoY อัตรากำไรขั้นต้น 39.2% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ระดับ 33% อัตรากำไรสุทธิ 23.7% (Normalized 20.5%) ปรับดีขึ้นจากระดับ 19.3% ในปี 62 ฐานะการเงินแข็งแกร่งโดย Net D/E 0.31 เท่า ลดลงจาก 0.5 เท่า ณ ปลายปี 62 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 1.4-1.5 เท่า
ปี 64 บริษัทมีแผนเปิดโครงการใหม่ 10-12 โครงการมูลค่ารวม 6-7 พันล้านบาท เติบโตอย่างน้อย 15% จากปี 63 ฝ่ายวิจัยคาดกำไรสุทธิปี 64 ราว 1,266 ล้านบาท เติบโต 7%
ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกจากความสามารถในการทำกำไรที่ดี D/E ต่ำ แถมมี Dividend Yield สูงในระดับที่น่าสนใจ ราว 5.4% ต่อปี ราคาหุ้นซื้อขายที่ PE 7x ต่ำกว่ากลุ่มที่ระดับ 28x แนะนำถือยาวรอรับเงินปันผล

หุ้นมีข่าว
(+) WP (Bloomberg Consensus 4.70 บาท) ตั้งเป้ายอดขายแอลพีจีปีนี้ 7.8-8 แสนตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3-4 หมื่นตัน รับเศรษฐกิจฟื้นตัว เตรียมเสนอบอร์ดพิจารณาลงทุนธุรกิจใหม่ “โซลาร์รูฟท็อป-โรงงานซ่อมถังแอลพีจี” คาดชัดเจนเร็วๆ นี้ นอกจากนี้เล็งขยายธุรกิจอาหารที่มีส่วนผสมกัญชา (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) EKH (Bloomberg Consensus 6.10 บาท) EKH เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี 2564 บริษัทคาดกำไรเติบโต 35-40% มาอยู่ที่ประมาณ 100 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีกำไรอยู่ที่ 72.10 ล้านบาท และตั้งเป้ารายได้อยู่ที่ 800 ล้านบาท เติบโตกว่า 20% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 661.54 ล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) QH (Bloomberg Consensus 2.50 บาท) เดินหน้าเปิดแนวราบ 3 โครงการ มูลค่ารวม 5.3 พันล้านบาท รุกโครงการไฮเอนด์ดึงกำลังซื้อลูกค้าระดับบน โกยยอดขายเพิ่ม มั่นใจยอดโอนปีนี้แตะ 9.2 พันล้านบาท ส่วนรายได้รวมคาดทำได้ 9 พันล้านบาท มองตลาดอสังหาริมทรัพย์ฟื้นตัว ธุรกิจโรงแรมดีขึ้น แย้มไตรมาส 1/2564 ยอดขายโตกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน(ที่มา ทันหุ้น)

(+) ASIAN (Bloomberg Consensus 17.35 บาท) มองยอดขายไตรมาส 1/2564 สดใส หลังความต้องการบริโภคทั้งอาหารสัตว์เลี้ยง อาหารสัตว์น้ำ และอาหารแช่แข็งขยายตัว แนวโน้มการส่งออกดี วางเป้ารายได้จากการขายปี 2564 เติบโตไม่ต่ำกว่า 8-10% จากปีก่อน วางงบ 400 ล้านบาท รองรับการผลิตและสร้างมูลค่าผลิตภัณฑ์ (ที่มา ทันหุ้น)

ปัจจัยจับตา
ในประเทศ
24 มี.ค. ประชุมกนง. ครั้งที่ 2/2564
25 มี.ค. ก.พาณิชย์แถลงส่งออก-นำเข้า
สัปดาห์ที่ 5 สศอ. แถลงดัชนีอุตสาหกรรม
สัปดาห์ที่ 5 สศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
31 มี.ค. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

ต่างประเทศ
24 มี.ค. ธนาคารกลางญี่ปุ่นเปิดเผยรายงานการประชุม
อียูเปิดเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้นเดือนมี.ค.
สหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ดัชนี ภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นต้นเดือนมี.ค. และสต๊อกน้ำมันรายสัปดาห์
25 มี.ค. สหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และกำไรภาคเอกชน 4Q63
26 มี.ค. สหรัฐเปิดเผยรายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคล ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนก.พ. และความเชื่อมั่นผู้บริโภค
27 มี.ค. จีนเปิดเผยกำไรภาคอุตสาหกรรม

นักวิเคราะห์ 02-6725999
วิลาสินี บุญมาสูงทรง ext.5937
วัชเรนทร์ จงยรรยง ext.5936
ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ext.5805
สลักบุญ วงศ์อัครเดช ext.7287

ที่มา : สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

- Advertisement -