รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

“จ้างงานเอกชนสหรัฐดี-เริ่มหุ้น SET50,100-ไทยยังติดเชื้อสูง”

• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้:
# ภาวะตลาดและปัจจัยก่อนหน้า : SET วานนี้ปรับลง ปิด -3.64 จุด ที่1587.79 จุด มูลค่า 84 พันลบ. ตลาดอ่อนกว่าเพื่อนบ้าน แม้ทำยอดไฮของวันถึง 1600.57 จุด ช่วงแรกปรับขึ้นดีตามตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นและดัชนีราคาบ้านสหรัฐ แต่วันที่ 1 ก.ค.จะเริ่มใช้ SET 50-100 ใหม่ และภูเก็ตแซนด์บอกซ์ จึงขายก่อนเพื่อรอดูสถานการณ์ หุ้นขึ้นดีKCE,JWD ปรับลงแรง CRC,KTC รายย่อยซื้อสุทธิ2.6 พันลบ. ต่างชาติขายสุทธิ3.9 พันลบ.YTD ต่างชาติขายสุทธิเพิ่ม 76 พันลบ.

ปัจจัยบวก
การจ้างงานของภาคเอกชน มิ.ย.เพิ่ม 692,000 ตำแหน่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดที่550,000 ตำแหน่ง ดาวโจนส์ +210 จุด
ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย +8.0% ดีกว่าที่นวค.คาดว่าจะ -0.8%, น้ำมันบวก 49 เซนต์รับข่าวสต็อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่าคาด

ปัจจัยลบ
เศรษฐกิจไทย พ.ค. ได้รับผลลบจากโรคระบาดชัดเจน ทั้งการบริโภค การลงทุนเอกชน และท่องเที่ยว แต่ส่งออกและการใช้จ่ายรัฐช่วยพยุงไว้
จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ยังสูงเป็น 5,533 ราย และเสียชีวิตมากถึง 57 ราย หายป่วยกลับบ้าน 3,223 ราย

ปัจจัยที่น่าติดตาม
ติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้น และประชุมโอเปก พลัสวันนี้หรือ1 ก.ค.64 เรื่องแผนการผลิต ส.ค.64
วัคซีนโมเดอร์นาซึ่งเป็นวัคซีนทางเลือกเอกชน จะเข้ามาไทย 5 ล้านโดสในช่วง ต.ค.64-ม.ค.65 เป็นโอกาสทางธุรกิจของโรงพยาบาล และช่วยประเทศ

# กลยุทธ์: คาด SET ผันผวน แม้ตัวเลขจ้างงานสหรัฐดี แต่ไทยเผชิญผู้ติดเชื้อสูง วันนี้เริ่มหุ้น SET50-100 ตลาดหุ้นไทยสู่ Pattern ช่วงเช้าบวกรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาดีแต่มีแรงขายช่วงท้ายตลาดมาหลายวันแล้ว ส่วนหนึ่งมาจากเงินไหลออก ต่างชาติขายสุทธิเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ วันนี้มีเรื่องการเริ่มต้นหลายเหตุการณ์ คือ

1) เริ่มการใช้ SET 50-100 และ SET ประเภทต่างๆใหม่ติดตามหุ้นได้เข้า และออก
2) เริ่มภูเก็ต แซนด์บอกซ์ แต่มีข่าวไม่ราบรื่น เรื่องไทยประกาศราชกิจจาฯค่อนข้างช้า ทำให้สถานฑูตต่างประเทศออกหนังสืนรับรองให้นักท่องเที่ยวได้ช้าไปได้วย บางส่วนต้องยกเลิกไป และ
3) วันนี้เริ่มโอนเงินคนละครึ่ง เฟส 3 วันแรก 1.5 พันบาท

คาดว่าวันนี้หุ้นน้องใหม่ SECURE ทำให้ตลาดคึกคักขึ้น เพราะทำธุรกิจ CYBER เกี่ยวกับความปลอดภัย DBS แนะซื้อราคาพื้นฐาน 20.24 บาท

น้ำมันติดตามประชุมโอเปกวันนี้ มีผลกับหุ้นพลังงาน-ปิโตรฯ
คาดว่ายังมีการเก็งกำไรหุ้นโรงพยาบาลที่จะมีบริการวัคซีนทางเลือกโมเดอร์นา ล่าสุดกำหนดราคา 1,100 บาทต่อโดส แต่รพ.ตั้งราคาที่ราว 1,400 บาท รายได้จะสูงถึง 7 พันล้านบาท จาก LOT แรก 5 ล้านโดส คาดว่าราคาหุ้นกลุ่มเปิดเมืองจะผันผวนสูงตามความคืบหน้า ภูเก็ต แซนด์บอกซ์ รวมทั้งเก็งกำไรหุ้นที่มีข่าวเฉพาะ

# Stock Pick Today: HREIT ชอบปันผลสูง เชิญแวะ กองทุนได้ประโยชน์จากการซื้อสินทรัพย์ใหม่มาเพิ่มเติม คาดว่าจะจ่ายอัตราผลตอบแทนสูงที่6.9%/6.8% ในปี2564/2565 และ IRR ที่มากคือ7.1% จุดเด่นคือ สินทรัพย์ให้เช่าส่วนใหญ่อยู่ในเขต EEC กำหนดราคาพื้นฐานที่9.40 บาท ซึ่งประเมินด้วยวิธี DCF

# วิเคราะห์ทางเทคนิค: ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick & Indicators เป็นลบ {“ปิดลบ”ใต้“SMA10วัน”ต่อ (โดยมี“สัญญาณ Overbought + Divergence ในกราฟรายวัน”กดดัน)} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯวันนี้“แกว่ง”แบบยังให้น้ำหนักกับการลง แต่“ค่าบวก”(มี“Oversold + Divergence ในกราฟรายนาที”หนุน) จะช่วยให้มีรีบาวด์ฯสั้นๆก่อน(แล้วจึงลงต่ำ,ตามมา)ได้แนวต้าน1600 (หรือ1610 –1620) จุด {แนวตัดขาดทุน “ต่ำกว่า 1580” (แนวเด้งสั้น “1570 / 1560 – 1550”) จุด}

Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com

Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
+ สหรัฐ: การจ้างงานของภาคเอกชน มิ.ย.เพิ่ม 692,000 ตำแหน่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดที่ 550,000 ตำแหน่ง
# ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น692,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 550,000 ตำแหน่ง แม้ตัวเลขจ้างงานจะขยายตัวน้อยกว่าในเดือนพ.ค.ที่มีการขยายตัว 886,000 ตำแหน่งก็ตาม

+ สหรัฐ: ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเพิ่มขึ้น 8.0% ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะหดตัวลง 0.8%
# ทางด้านสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.0% แตะระดับ 114.7 ในเดือนพ.ค. ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะหดตัวลง 0.8% โดยดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย เป็นมาตรวัดจำนวนสัญญาซื้อบ้านมือสองที่มีการเซ็นสัญญาแล้วแต่ยังไม่ได้ปิดการขาย และโดยปกติแล้วจะใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือนสำหรับการเซ็นสัญญาจนกระทั่งปิดการขาย

• สหรัฐ: ติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้น
# นักลงทุนยังรอดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 683,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. สูงกว่าในเดือนพ.ค.ที่เพิ่มขึ้นเพียง 559,000 ตำแหน่ง

+ ตลาดหุ้นสหรัฐ: ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 210.22 จุด รับข้อมูลศก.สหรัฐแข็งแกร่ง
# ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ (30 มิ.ย.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐซึ่งรวมถึงตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนที่ขยายตัวได้ดีเกินคาดในเดือนมิ.ย. นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน และหุ้นบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างโบอิ้งและโกลด์แมน แซคส์ ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมิ.ย.ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันพรุ่งนี้

+ น้ำมัน: WTI ปิดบวก 49 เซนต์ ขานรับสต็อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่าคาด
# สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (30 มิ.ย.) ขานรับตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัสในวันนี้

• ทองคำ: แรงซื้อหนุนทองปิดบวก 8 ดอลล์ นลท.จับตาจ้างงานสหรัฐ
# สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (30 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อหลังจากสัญญาทองคำร่วงลงเกือบ 1% เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้

• ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่จะทยอยประกาศสัปดาห์นี้
# ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนมิ.ย.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคการผลิตเดือนมิ.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), ดุลการค้าเดือนพ.ค. และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนพ.ค.

ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์
+ วันนี้เริ่มใช้หลักทรัพย์ใหม่เข้า SET 50, SET 100 และ SET ประเภทต่างๆ
# ดัชนี SET50 มีหลักทรัพย์เข้าใหม่ 4 หลักทรัพย์ ประกอบด้วย บมจ. ไออาร์พีซี (IRPC), บมจ. เคซีอี อีเลคโทรนิคส์(KCE), บมจ. ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี (STA) และ บมจ. ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) (STGT)
# ดัชนี SET100 มีหลักทรัพย์เข้าใหม่ 9 หลักทรัพย์ ประกอบด้วย บมจ. เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV), บมจ. อิชิตัน กรุ๊ป (ICHI),บมจ. เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ (NRF), บมจ. พรีเชียส ชิพปิ้ง (PSL), บมจ. โพลีเพล็กซ์ (ประเทศไทย) (PTL), บมจ. ซิงเกอร์ประเทศไทย (SINGER), บมจ. ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) (STGT), บมจ. ซินเน็ค (ประเทศไทย) (SYNEX) และบมจ. เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง (TKN)

-แต่หุ้นออก SET 50 SET 100 อาจมีแรงขายจาก Passive Fund หลังประกาศก่อนหน้าราคาหุ้นอ่อน
# หุ้นออก SET 50 ได้แก่ AWC,BAM,TOA,VGI
# หุ้นออก SET 100 ได้แก่ AWC,BPP,EPG,GFPT,MBK,TOA,TPIPP,TTW,WHAUP
-ธปท.จับตาการเพิ่มมาตรการควบคุมพื้นที่สีแดงเข้ม 6 จังหวัด 1 เดือน จะกระทบประมาณการเศรษฐฺกิจหรือไม่
# ธปท.จับตาการยกระดับมาตรการควบคุมพื้นที่สีแดงเข้ม 6 จังหวัดเป็นเวลา 30 วัน จะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจไทยมากขึ้นจากเดิมที่เคยคาดการณ์ไว้หรือไม่ แต่สถานการณ์ล่าสุดยังเห็นความไม่แน่นอนและความเสี่ยงต่างๆซึ่ง ธปท.ได้มองเผื่อไว้บางส่วน แต่หากมีความรุนแรงมากขึ้นและยืดเยื้อก็จะต้องพิจารณาตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจปี64 ที่เหมาะสมต่อไป

– เศรษฐกิจไทย พ.ค. ได้รับผลลบจากโรคระบาดชัดเจน แต่ส่งออกและการใช้จ่ายรัฐช่วยพยุงไว้
# ธปท.เผยภาวะเศรษฐกิจไทยในเดือน พ.ค.64 ได้รับผลกระทบชัดเจนขึ้นจากการแพร่ระบาดระลอกสามของโควิด-19ส่งผลให้เครื่องชี้การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนลดลงต่อเนื่องจากเดือนก่อน ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวยังไม่ฟื้นตัวเนื่องจากมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศยังมีอยู่ ขณะที่การส่งออกสินค้าปรับดีขึ้นต่อเนื่องตามอุปสงค์ประเทศคู่ค้า และช่วยพยุงการผลิตภาคอุตสาหกรรม ด้านการใช้จ่ายภาครัฐมีบทบาทในการพยุงเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องโดยรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุนขยายตัวได้เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน

+/- ยอดจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ในเดือน พ.ค.64 เพิ่ม 33% y-o-y แต่ลดลง 79% m-o-m
# กระทรวงพาณิชย์ เผยยอดจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ในเดือน พ.ค.64 มีจำนวน 5,568 ราย เพิ่มขึ้น 33% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 79% เมื่อเทียบกับเดือน เม.ย.64 ซึ่งอาจมีผลมาจากการระบาดระลอกสามของโควิด-19 ที่กระจายเป็นวงกว้าง และมีคลัสเตอร์ใหม่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจลดลง

- Advertisement -