รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
“แรงงานสหรัฐดี-โอเปกเลื่อนแต่เพิ่มน้อย-ผู้ติดเชื้อ New High”

• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้: —-
# ภาวะตลาดและปัจจัยก่อนหน้า : SET วานนี้ปรับขึ้นดีปิด +5.96 จุด ที่1593.75 จุด มูลค่า 81 พันลบ. ตลาดแกว่งกว่าเพื่อนบ้าน กลุ่มแบงก์เพิ่มโดดเด่น หลังเป็น Laggard ดัชนีฯฟื้นหลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐดี วานนี้เริ่มภูเก็ต แซนด์บอกซ์และคนละครึ่งเฟส 3 หุ้นขึ้นดีBDMS เก็งวัคซีนทางเลือก และGPSC ส่วนปรับลงแรง XPG และ NOK วานนี้ซื้อขายวันสุดท้าย ก่อน SP สถาบันซื้อสุทธิ1.1 พันลบ. รายย่อยขายสุทธิ1.9 พันลบ.YTD ต่างชาติขายสุทธิ76 พันลบ.

ปัจจัยบวก
ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานฯลดลง 51,000 ราย ในสัปดาห์ก่อน และต่ำกว่าคาด, มองผลโอเปกแง่ดีดาวโจนส์ +131 จุด
นายกฯ เป็นประธานเปิดโครงการ Phuket Sandbox ที่จ.ภูเก็ต วานนี้ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์น่าพอใจ นักท่องเที่ยวราว 300-400 คน

ปัจจัยลบ
ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 60.6 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. เพราะขาดแคลนวัตถุดิบ และแรงงาน
จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ทำ New High เป็น 6,087 ราย และเสียชีวิตมากถึง 61 ราย หายป่วยกลับบ้าน 3,638 รายซึ่งน้อยกว่าผู้ติดเชื้อเพิ่ม

ปัจจัยที่น่าติดตาม
ติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 706,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย.สูงกว่า พ.ค. ส่วนโอเปกเลื่อนประชุมมาวันนี้ ที่คาดกันว่าจะเพิ่มการผลิตใน
ระดับต่ำ เพื่อพยุงราคาน้ำมัน
วัคซีนโมเดอร์นาซึ่งเป็นวัคซีนทางเลือกเอกชน จะเข้ามาไทย 5 ล้านโดสในช่วง ต.ค.64-ม.ค.65 เป็นโอกาสทางธุรกิจของโรงพยาบาล คาดว่าโรงพยาบาลที่จะมีรายได้เพิ่มขึ้นสูง3 ลำดับแรก คือ BCH +15.6%, CHG +15.3% และ BDMS +3.4% จากเดิม

# กลยุทธ์: คาด SET ไซด์เวย์ตัวเลขจ้างงานสหรัฐดี, คาดโอเปกเพิ่มการผลิตไม่มาก,ไทยเผชิญผู้ติดเชื้อสูงทำ New High อาจกล่าวได้ว่าไทยกำลังเข้าสู่โรคระบาดระยะที่ 4 แล้ว ยอดผู้ติดเชื้อไต่ระดับไปมากกว่า 6 พันราย และเสียชีวิตมากกว่า 60 ราย แม้ดัชนีฯ พยายามไต่ระดับให้เกิน 1600 จุด ด้วยปัจจัยบวกคือ วัคซีน (ก.ค.64 จะเข้ามามากที่สุด) และภูเก็ตแซนด์บอกซ์เริ่มเดินหน้าแต่หนทางก็ไม่ราบรื่น แม้ปัจจัยต่างประเทศเรื่องแรงงานระยะนี้ดีต่อเนื่อง บอนด์ยิลด์ไม่สูงราว 1.4% ดัชนีกังวล Vix ต่ำที่ 15.48 จุด เช้านี้ตลาดหุ้นเพื่อนบ้านปรับขึ้นส่วนใหญ่ และดาวโจนส์ฟิวเจอร์สบวก แต่ดอลลาร์แข็งค่า ผลักดันให้เงินไหลออก ข่าวโอเปกแม้เลื่อนประชุมมาวานนี้ แต่มีทีท่าจะเพิ่มไม่มาก หุ้นพลังงาน-ปิโตรฯยังไปได้ดี แต่หุ้นเปิดเมืองจะผันผวนสูง สำหรับกลุ่มหุ้นที่ยังดูดี คือส่งออก, โรงไฟฟ้า, บรรจุภัณฑ์,อาหาร-เครื่องดื่ม กัญชง กัญชา, การแพทย์, พาณิชย์และขนส่งทางเรือ ไปต่อแนวต้านถัดไป 1600-1610 แต่ปรับลงระวังจุด Stop Loss ที่ 1585 เล่นยาว-รับอ่อน

# Stock Pick Today: HMPRO SSSG บวกดีใน 2Q64 คาดว่าเป็น 5-6% และอัตรากำไรขั้นต้นมีโอกาสปรับตัวดีขึ้นเทียบ y-o-yซึ่งเป็นฐานต่ำในช่วงล็อกดาวน์เต็มที่ สินค้าที่ขายดีคือ วัสดุก่อสร้างแต่สินค้าประเภทตกแต่งบ้านช่วงนี้ลูกค้าจะเลื่อนไปก่อน ซึ่งรูปแบบสาขาที่เน้นจำหน่ายวัสดุก่อสร้างคือ Mega Home สำหรับแผนขยายสาขาปีนี้จะอยู่ที่ 2 แห่ง ข้อดี-ได้รับผลกระทบน้อยจากมาตรการคนละครึ่ง และผู้เดินทางจากต่างประเทศมาไทยยังน้อย ให้ราคาพื้นฐาน 15.80 บาท

# วิเคราะห์ทางเทคนิค: ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick & Indicators เปลี่ยนกลับเป็นบวกเล็กๆ {“ปิดบวก”ใต้เหนือ“SMA10วัน”(เล็กน้อย)อีกครั้ง (โดยมี“สัญญาณ Overbought +Divergence ในกราฟรายวัน”กดดัน)} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯวันนี้“แกว่ง”แบบเรายังให้น้ำหนักกับการลง แต่“ค่าบวก”(มี“SMA10”หนุน) จะช่วยให้มีรีบาวด์ฯสั้นๆก่อน(แล้วจึงลงต่ำ,ตามมา)ได้แนวต้าน 1600 – 1610 (หรือ1620) จุด {แนวตัดขาดทุน “ต่ำกว่า 1585” (แนวเด้งสั้น “1570 / 1560 – 1550”) จุด}

Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com

Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
+ สหรัฐ: ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานฯลดลง 51,000 ราย สู่ระดับ 364,000 รายในสัปดาห์ก่อน และต่ำกว่าคาด
# กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 51,000 ราย สู่ระดับ 364,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่26 มิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐเมื่อเดือนมี.ค.2563 นอกจากนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 390,000 ราย และต่ำกว่าสัปดาห์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 415,000 ราย

– สหรัฐ: ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 60.6 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.
# สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 60.6 ในเดือนมิ.ย.ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 61.0 หลังจากแตะระดับ 61.2 ในเดือนพ.ค. โดยดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐได้รับผลกระทบจากการหดตัวของการจ้างงานเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน ท่ามกลางการขาดแคลนวัตถุดิบและแรงงาน ขณะที่คำสั่งซื้อใหม่ปรับตัวลง

– สหรัฐ: การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างลดลง 0.3% m-o-m ในเดือนพ.ค. และต่ำกว่านักวิเคราะห์คาด
# ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างลดลง 0.3% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือนสวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4% หลังจากขยับขึ้น 0.1% ในเดือนเม.ย. แต่เมื่อเทียบรายปี การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเพิ่มขึ้น 7.5% ในเดือนพ.ค.

• สหรัฐ: ติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้น
# นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น 706,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. และคาดว่าอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 5.6%

-จีน: ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนมิ.ย.ลดลง
# ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนมิ.ย.ของจีน ขยายตัวในอัตราต่ำสุดในรอบ 15 เดือน ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 51.3จากระดับ 52 ในเดือนพ.ค. โดยแม้ว่าดัชนีเดือนมิ.ย.ขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 14 แต่ก็ยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ระดับ 51.8 เนื่องจากได้รับ ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในมณฑลกวางตุ้ง ซึ่งเป็นแหล่งส่งออกที่สำคัญของจีน และปัญหาติดขัดด้านการขนส่ง ทำให้นักลงทุนกังวลเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน

+ ตลาดหุ้นสหรัฐ: ดาวโจนส์ปิดบวก 131.02 จุด รับแรงซื้อหุ้นพลังงาน-ข้อมูลแรงงานสดใส
# ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (1 ก.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานหลังจากราคาน้ำมัน WTI พุ่งขึ้นทะลุแนว 75 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมิ.ย.ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้

+ น้ำมัน: WTI ปิดพุ่ง $1.76 รับคาดการณ์โอเปกพลัสชะลอเพิ่มการผลิต
# สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทะลุแนว 75 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (1 ก.ค.) ขานรับกระแสคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส อาจจะเพิ่มกำลังผลิตน้อยกว่าที่คาดหมายไว้ก่อนหน้านี้ โดยกลุ่มโอเปกพลัสได้เลื่อนการประชุมระดับรัฐมนตรีออกไปเป็นวันศุกร์ที่ 2 ก.ค. เพื่อให้ประเทศสมาชิกมีเวลามากขึ้นในการหารือกันเกี่ยวกับนโยบายการผลิตน้ำมัน

• ทองคำ: ปิดบวก $5.2 วิตกไวรัสเดลตาหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย
# สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (1 ก.ค.) เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19สายพันธุ์เดลตาเป็นปัจจัยหนุนให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมิ.ย.ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้

ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์
– การแพร่ระบาดโควิด-19 วานนี้ทำสถิติสูงสุด ยอดผู้ติดเชื้อ +5,533 ราย และยอดผู้เสียชีวิต +57 ราย
# ศูนย์บริหารสถานการณืโควิด-19 (ศบค.) เผยสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวานนี้ ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องและทำนิวไฮทั้งยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ และยอดผู้เสียชีวิต โดยวานนี้ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นถึง 5,533 ราย และยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 57 ราย

+ นายกฯ เป็นประธานเปิดโครงการ Phuket Sandbox ที่ จ.ภูเก็ต ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์น่าพอใจ
# นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดโครงการ Phuket Sandbox ที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งจากที่ทุกฝ่ายทำงานสอดคล้องกับแนวทางของ ศบค. และกระทรวงสาธารณสุข ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ พร้อมสังการให้ไปศึกษาแนวทางนี้ในจังหวัดอื่นๆ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เพื่อให้เป็นแนวทางปฏิบัติต่อไปถึงเป้าหมายใหญ่
# ผลกระทบ: ในช่วงแรกยังมีจำนวนนักท่องเที่ยวน้อย ที่บินมาวันแรกราว 300-400 คนเท่านั้น ส่วนใหญ่เป็นชาวตะวันออกกลาง และจะตามมาด้วยยุโรป แต่จะไปสำคัญคือ เพิ่มมากเมื่อเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวคือ ไตรมาส4 ปีนี้และไตรมาส 1 ปี 65 แต่ถือว่าระยะนี้อยู่ในช่วงการปรับตัว และฝึกฝนการป้องกันโรคติดต่อโควิด-19 ไปก่อน

+ ธปท.เผย ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนมิ.ย.64 อยู่ที่ระดับ 46.5 เพิ่มขึ้นจาก 43.0 ในเดือนพฤษภาคม
# ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนมิ.ย.64 อยู่ที่ระดับ 46.5 เพิ่มขึ้นจาก 43.0 ในเดือนพฤษภาคม โดยเป็นการเพิ่มขึ้นในเกือบทุกองค์ประกอบ และเกือบทุกธุรกิจทั้งในภาคการผลิต และภาคที่มิใช่การผลิตยกเว้นกลุ่มผลิตอาหารและเครื่องดื่ม และกลุ่มผลิตเครื่องจักรและอุปกรณ์ ที่ดัชนีฯ ยังคงลดลงต่อเนื่องจากกำลังซื้อในประเทศที่อ่อนแอ ประกอบกับราคาเหล็กที่ยังอยู่ในระดับสูง และปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ที่ยังไม่คลี่คลาย กดดันให้ความเชื่อมั่นด้านต้นทุนของธุรกิจในภาคการผลิตอยู่ในระดับต่ำ

• ความเห็นของ AMATA และ AAV ต่อ Phuket Sandbox
# AMATA คาดว่า หากเป็นไปตามแผนของรัฐบาล ก็จะสามารถกระตุ้นการลงทุนในช่วงปลายปีนี้ได้ ซึ่งสอดรับกับแผนการตลาดของบริษัทที่ลูกค้าเข้ามาตกลงทำสัญญาซื้อขายที่ดินมาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา30ปี จากที่ผ่านมามีการใช้วิธีการเจรจากับลูกค้าผ่านระบบออนไลน์เพื่อทำความเข้าใจในรายละเอียดในพื้นที่ดินให้กับลูกค้าแต่ก็สามารถดำเนินการได้ในระดับหนึ่ง ส่วนการตัดสินใจซื้อที่ดินจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อกลุ่มลูกค้าต้องเดินทางเข้ามาศึกษาพื้นที่จริง ก่อนตัดสินใจเข้ามาลงทุน เนื่องจากที่ดินมีมูลค่าสูง
# AAV: ในครึ่งเดือนแรกของกรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงเริ่มของโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ จะเปิดให้บริการเส้นทางบินเข้าออกดอนเมือง-ภูเก็ต 3 เที่ยวบินต่อวัน และสุวรรณภูมิ-ภูเก็ต 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เพื่อรองรับการเดินทางภายในประเทศสู่ภูเก็ตก่อน หลังจากนั้นจึงจะพิจารณาเพิ่มเที่ยวบินในครึ่งเดือนหลังกรกฎาคม และตั้งเป้าบินข้ามภาคเข้าสู่ภูเก็ตในเดือนต่อๆ ไป

- Advertisement -