รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
SET Outlook & Strategy
SET Outlook
คาดดัชนีฯ ผันผวนต่อ ความกังวลต่อการติดเชื้อ Covid-19 ในประเทศบดบังตลาดต่างประเทศที่กำลังฟื้น …
ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นถึง 850,000 ตำแหน่ง (คาด +706,000 ตำแหน่ง) กลับไม่ได้ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวลง เพราะนักลงทุนยังคงให้น้ำหนักกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นบวกต่อกำไรของบริษัทในตลาด อีกทั้งยังไม่มีสัญญาณจากทาง Fed ที่จะเร่งปรับลด QE หรือขึ้นดอกเบี้ย (ฟังจากกรรมการ Fed ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา) นักลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับเข้าซื้อหุ้นทั้งกลุ่มที่อิงทิศทางเศรษฐกิจ และกลุ่มเทคโนโลยีในช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา
เรามองว่าเป็นตัวช่วยตลาดหุ้นไทยไม่ให้ลงไปแรง เพราะนักลงทุนจะโยกย้ายกลุ่มลงทุนไปยังหุ้นที่ไม่ได้รับผลกระทบจาก Covid-19 หรือ copy trade ตามนักลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ … สถานการณ์ Covid-19 จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลก สะสมมากกว่า 180 ล้านคน การระบาดกลับมารอบใหม่จากการกลายพันธุ์และแพร่เชื้อได้ง่ายขึ้น ฝั่งเอเซียน่าจะถูกกระทบจากการระบาดรอบใหม่มากกว่า นักลงทุนยังขายหุ้นในตลาดเอเซียต่อเนื่อง ขณะที่ฝั่งสหรัฐฯ-ยุโรป นั้นไม่กระทบตลาดหุ้นมากนัก
ด้านของไทย หากตัวเลขเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จะสร้างความกังวลให้นักลงทุน สัปดาห์นี้เรามองทั้งบวก/ลบ เพราะถ้าตัวเลขลดลง ตลาดจะกลับมาดีได้เช่นกัน นักลงทุนควรดูตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวัน ที่จะรายงานก่อนตลาดหุ้นเปิดทำการในแต่ละวัน …
ตัวแปรอื่นๆ การประชุม OPEC+ อาจจบด้วยการคงกำลังการผลิตหรือเพิ่มไม่เป็นไปตามตัวเลขที่เสนอขอไป หากเพิ่มน้อยหรือไม่เพิ่ม จะดีต่อหุ้นกลุ่ม Commodity ต่อไปอีก …
ค่าเงินบาท วันศุกร์ 32.14 บาท/ดอลล่าร์ ค่าเงินที่อ่อนค่าลง เป็นบวกต่อหุ้นส่งออก แต่ลบกับตลาด เพราะนักลงทุนต่างประเทศจะขายหุ้นและพันธบัตรออก … Event สำคัญๆ สัปดาห์นี้ ตัวเลขเงินเฟ้อของไทย(5) รายงานประชุม FOMC(7) ตัวเลขเคลมว่างงานของสหรัฐฯ (8)
Strategy
ตลาดไทยยังวนกับเรื่อง Covid-19แต่ก็พร้อมดีดกลับ ผู้ที่ติดหุ้นรอดูตัวเลขก่อน ส่วนผู้รอซื้อ จับจังหวะเมื่อตัวเลขเริ่มลด หรือสลับเล่นกลุ่มบวกจาก Covid-19 (โรงพยาบาล, ถุงมือยาง ฯลฯ) … หุ้นอิงรายได้จากการท่องเที่ยว และธนาคาร เรามองว่า ถ้าราคาลงมายังเป็นจังหวะเข้าซื้อได้ …
นักลงทุนต่างประเทศน่าจะขายหุ้นในย่านเอเซียออก ระวังหุ้นที่นักลงทุนกลุ่มนี้ถือไว้มาก … หุ้น Commodity และส่งออก คาดจะกลับมาเป็นที่สนใจในฐานะอิงรายได้จากต่างประเทศ และเงินบาท อ่อนค่า …
พอร์ตหุ้นวันนี้เรานำ CRC ออก และนำ SKE* เข้ามาแทน หุ้นในพอร์ตประกอบด้วย SKE*(15%), TKS*(20%), AAV(10%), BEM(15%), IMH*(15%), SICT*(15%)
* เป็นหุ้นที่แนะนำโดย KTBST ยังไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์
Strategy Stock Pick
SKE*: (เป้าเชิงกลยุทธ์ 1.30 บาท) “รับเทรนพลังงานสะอาด, ลุ้นดีล M&A ธุรกิจขยะ”
• หลังเพิ่มทุนและซื้อ N15 ในเดือนมิ.ย. (ธุรกิจบริหารจัดการขยะ) บริษัทมีแผน M&A ธุรกิจขยะเพิ่มเติมเพื่อป้อนโรงไฟฟ้าขยะที่เพิ่มขึ้น
• คงเป้ารายได้ปี 2021 ที่ 700 ลบ. เติบโต 30%YoY ด้าน N15 จะเริ่มรวมงบเข้ามาเต็มไตรมาส นับตั้งแต่ 3Q21 หนุนรายได้ให้เป็นไปตามเป้า
• รัฐทยอยเปิดประมูลโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาด ในปี 2021-2024 มีแผนรับซื้อไฟฟ้ามากกว่า 150 MW เอกชนขานรับพร้อมประมูล
Technical : XO, VPO
Key Events
• 5 ก.ค.: ตัวเลขเงินเฟ้อของไทย
News Comment
( + ) Construction Services (Overweight) รฟม.ดีเดย์เริ่มขายซองโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้วันนี้
( 0 ) Energy (Overweight) OPEC+ ยังไม่ได้ข้อสรุป เลื่อนการประชุมเป็นวันนี้
Company Report
( + ) KBANK (ซื้อ/เป้า 177.00 บาท) มองบวกเล็กน้อยต่อการเป็น exclusive partner กับ MTL
( + ) RBF (ถือ/ปรับเป้าขึ้นเป็น 22.70 บาท) ราคาหุ้นสะท้อนข่าวได้ใบอนุญาตสกัดสาร CBD ไปพอสมควรแล้ว
( + ) SFT (ซื้อ/เป้า 8.50 บาท) จิ๋วแต่แจ๋ว
Economic Outlook
• สัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดสินทรัพย์สหรัฐฯทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ตามดัชนีเศรษฐกิจที่ขยายตัวได้ดีต่อเนื่องทั้งในฝั่งตลาดแรงงานและภาคอุตสาหกรรมส่งผลให้กลุ่มวัฏจักรขยายตัวได้ดี ขณะที่ฝั่งของกลุ่มเทคโนโลยียังมีปัจจัยสนับสนุนจากแนวโน้มการเติบโตของบริษัทในช่วงก่อนการรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 2
• ติดตามรายงานการประชุมนโยบายการเงินสหรัฐฯ ประจำรอบการประชุมเดือนมิ.ย. ที่จะแสดงรายละเอียดของความเห็นคณะกรรมการแต่ละท่านหลังจากที่ Dot plot เริ่มมีความ Hawkish มากขึ้น พร้อมทั้งความเห็นต่อแนวโน้มการเติบโตเศรษฐกิจ ตลาดแรงงาน และดัชนีราคาผู้บริโภคพร้อมสำหรับการลดขนาดวงเงินอัดฉีดของกรรมการแต่ละท่าน
What to Watch
ติดตามการรายงานตัวเลข Services PMI เดือนมิ.ย. ของสหรัฐฯ คาดว่ามีแนวโน้มขยายตัวได้ตามความคืบหน้าการแจกจ่ายและการยอมรับวัคซีนของประชากรในประเทศ ส่งผลให้สามารถออกมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ตามปกติ ภาคบริการที่โดนกดดันจากการแพร่ระบาดมาเป็นระยะเวลานานมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ดีกว่าภาคอุตสาหกรรม
ติดตามการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อของประเทศไทยและจีน คาดว่าออกมาชะลอตัวลงตามทิศทางเงินเฟ้อโลกที่ได้รับผลกระทบจากฐานที่ต่ำลดลงและการเติบโตของอุปสงค์ที่เร่งตัวขึ้นในช่วงก่อนหน้า โดยเงินเฟ้อที่ลดลงจะบรรเทาแรงกดดันต่อการเปลี่ยนทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางแต่ละประเทศ
SET Recap
SET ปิดที่ 1,578.49 จุด ลดลง 15.26 จุด (-0.96%) มูลค่าการซื้อขาย 80,922.70 ล้านบาท ปัจจัยต่างประเทศ ติดตามการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ปัจจัยภายในประเทศ ความกังวลโควิด-19 ระบาดหนักในประเทศ