รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Our View?
”เปราะบางเหลือเกิน” คาดวันนี้ตลาด “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,570 / 1,565 แนวต้านที่บริเวณ 1,585 / 1,596 มองตลาดอาจได้รับจิตวิทยาเชิงบวกจากตลาดต่างประเทศบ้าง หลังเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมากระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน มิ.ย. ออกมาปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.5 แสนตำแหน่ง สูงกว่าที่ตลาดคาด บ่งชี้การฟื้นตัวต่อเนื่องของตลาดแรงงานสหรัฐ สะท้อนแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ
ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี (Us Bond Yield) เริ่มปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 1.45% อีกครั้ง หนุนความคาดหวังความน่าดึงดูดของอัตราผลตอบแทนของตลาดหุ้นในมุมมองเชิงเปรียบเทียบ
ขณะที่สัปดาห์นี้เราแนะนำติดตามการเปิดเผยรายงานการประชุม FOMC เดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา เพื่อดูการส่งสัญญาณแนวโน้มการปรับเปลี่ยนนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ในระยะถัดไป คาดอาจทำให้ตลาดเงินโลกผันผวนได้บ้าง
ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน ส.ค. ยังคงทรงตัวในระดับสูง โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลงเล็กน้อย 0.07 เหรียญ (-0.09%) ปิดที่ 75.16 ดอลลาร์/บาร์เรล คาดตลาดน้ำมันจะรอดูการประชุม OPEC+ ที่มีการเลื่อนมาพิจารณาอีกครั้งในวันนี้ หลังซาอุดีอาระเบียและรัสเซียได้เสนอให้ OPEC+ ปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันแบบค่อยเป็นค่อยไปในช่วงครึ่งปีหลัง โดยจะปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ยเดือนละ 4 แสนบาร์เรล/วัน ตั้งแต่เดือน ส.ค. ไปจนถึงสิ้นปี จนครบ 2 ล้านบาร์เรล / วัน
เรามองหากผลการประชุมมีมติตามเงื่อนไขดังกล่าว คาดจะหนุนทิศทางราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นได้ต่อ เป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นประคองตลาดหุ้นไทยได้ต่อ
ทั้งนี้ยังต้องติดตามการกำหนดอัตราภาษีนิติบุคคลขั้นต่ำเป็นมาตรฐานโลก เพื่อป้องกันบริษัทข้ามชาติโยกย้ายผลกำไรไปยังประเทศที่มีอัตราภาษีต่ำกว่าหรือปลอดภาษี หลังที่ประชุมขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) เห็นชอบในการกำหนดอัตราภาษีขั้นต่ำที่เป็นมาตรฐานทั่วโลกสำหรับนิติบุคคลในอัตราอย่างน้อย 15% และเสนอต่อที่ประชุมระดับรัฐมนตรีคลังของกลุ่มจี 20 เมืองเวนิส อิตาลี และคาดว่าจะสามารถนำมาใช้ได้ในปี’66
ทางด้านปัจจัยภายในประเทศ คาดยังคงเผชิญแรงกดดันจากความกังวลต่อตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ที่ยังทรงตัวในระดับสูง คาดส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด และกดดันการฟื้นตัวของกำไร บจ. ในตลาดได้
อย่างไรก็ตามเรามุมมองเชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่มรับเหมา-ก่อสร้าง หลังมีรายงาน ศบค.เตรียมผ่อนคลายโครงการก่อสร้างและการเคลื่อนย้ายแรงงานในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล คาดจะเริ่มให้สามารถกลับมาดำเนินงานการก่อสร้างโครงการใต้ดินและด้านการจราจร มองเป็นสัญญาณเชิงบวกในการเริ่มผ่อนคลายมาตรการอื่นๆ ตามมาในระยะถัดไป
ทั้งนี้เรายังคงมุมมองเชิงบวกหุ้นในกลุ่มส่งออก รวมถึงกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (KCE, HANA, CCET และ SMT) จาก Lead Time การผลิตชิปทั่วโลก ใน พ.ค. พุ่งสู่ 18 สัปดาห์ สูงสุดตั้งแต่มีการเก็บข้อมูล รวมทั้งดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมหมวดอิเล็กทรอนิกส์ของไทย ใน พ.ค. สูงสุดรอบ 14 เดือน รวมทั้งการอ่อนค่าต่อเนื่องของค่าเงินบาทจาก คาดการณ์การขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของ ธปท. ที่ระดับ -1.5 พันล้านดอลลาร์ แม้จะส่งผลกระทบต่อทิศทางกระแสเงินทุนผันผวนได้ อย่างไรก็ตามมองเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ Outperform ตลาดได้ต่อ
ธีมการลงทุน “Selective Play”
หุ้นแนะนำวันนี้ “STEC” แนวรับ 13.40 / 13.30 Target 14.80 / 15.50 Stop <13.20