บล.เคทีบีเอสที :

จิ๋วแต่แจ๋ว
เราเริ่มต้นจัดทำบทวิเคราะห์หุ้น SFT ด้วยคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 8.50 บาท อิง 2022E PER 27.5x เทียบเท่า +0.5SD above 7-yr average PER ของกลุ่ม Packaging เราชอบ SFT และมองว่าเป็นหุ้น growth stock ที่น่าสนใจมากจาก 3 เหตุผลหลัก ดังนี้ 1) แม้จะเป็นบริษัทขนาดเล็ก แต่ SFT มี position ในตลาดฉลากฟิล์มหดรัดรูปในไทยที่แข็งแกร่งมาก ด้วยส่วนแบ่งการตลาดในปริมาณการผลิตสูงถึง 25%

ขณะที่ตลาดฉลากฟิล์มหดรัดรูปในไทยปี 2021E และ 2022E อยู่ในทิศทางขยายตัวสูง +9% YoY และ +12% YoY ตามลำดับ และจะยังเติบโตในระดับสูงอย่างน้อยในช่วง 5 ปีข้างหน้า ทำให้เรามองว่าโอกาสการขยายตัวในอนาคตยังมีอีกมาก, 2) มีแผนขยายกำลังการผลิตต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถรองรับคำสั่งซื้อใหม่ของลูกค้าได้มากขึ้นทั้งในกลุ่มลูกค้าเก่าและใหม่, และ 3) ประเมินกำไรสุทธิปี 2021E เติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่อง +40% YoY หนุนโดยคำสั่งซื้อที่เพิ่มสูงขึ้น การขยายสายการผลิตใหม่ รวมถึงอานิสงส์จากภาคส่งออกที่ฟื้นตัว และต้นทุนทางการเงินที่ปรับตัวลงมากหลัง IPO

ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น และ outperform SET +7%/+23% ในช่วง 1 และ 3 เดือน จากผลการดำเนินงาน 1Q21 ที่ออกมาดีมาก เรามองว่าหุ้น SFT มีโอกาสที่จะ outperform ต่อจากแนวโน้มกำไรที่ขยายตัวต่อเนื่อง +32% CAGR (2020-22E) ตามทิศทางการขยายตัวของตลาดฉลากฟิล์มหดรัดรูปในไทยที่ยังมีสูง ขณะที่ในระยะกลางมีโอกาสเห็น upside เพิ่มเติมจากการขยายสู่ธุรกิจอื่น ๆ เช่น บรรจุภัณฑ์แบบอ่อนตัว

KEY HIGHLIGHTS
เดินหน้าเพิ่มกำลังการผลิตขยายฐานลูกค้าต่อเนื่อง บริษัทมีแผนขยายกำลังการผลิตต่อเนื่อง โดยเฉพาะกำลังการผลิตเครื่องพิมพ์ระบบกราเวียร์ ซึ่งมีสัดส่วนรายได้สูงถึง 92% โดยถึงแม้ในช่วง 1Q21 จะมีการระบาด COVID-19 ระลอก 2 แต่การผลิตระบบกราเวียร์ ยังมี utilization rate ในระดับสูงถึง 76%

ทำให้เรามองว่าแผนการขยายกำลังการผลิตจะช่วยให้บริษัทสามารถรองรับคำสั่งซื้อใหม่ของลูกค้าได้มากขึ้นทั้งในกลุ่มลูกค้าเก่าและใหม่ โดยเฉพาะใน 2H21E ที่คาดลูกค้าจะทยอยออกสินค้าในตลาดมากขึ้นตามช่วงไฮซีซั่นและภายหลังสถานการณ์ COVID-19 เริ่มคลี่คลาย ทั้งนี้ บริษัทได้เริ่มดำเนินการสายการผลิตที่ 5 ในช่วงเดือน มิ.ย. 2021 แล้ว และมีแผนก่อสร้างโรงงานใหม่แห่งที่ 2 ซึ่งจะเริ่มการผลิตได้ใน 2Q22E เราประเมินกำลังการผลิตรวมปี 2021E/22E เพิ่มขึ้น +13% YoY/+21% YoY

Position ในตลาดแข็งแกร่ง และโอกาสการขยายตัวในอนาคตยังสูง เรามองว่า SFT มี position ในตลาดฉลากฟิล์มหดรัดรูปที่แข็งแกร่งมาก หากดูในแง่ข้อมูลปริมาณการผลิตในไทย บริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงถึง 25% ขณะที่แนวโน้มการขยายตัวในอนาคตยังสูงตามทิศทางตลาดในประเทศ

โดยข้อมูลจาก Mordor Intelligence Research คาดการณ์ตลาดฉลากฟิล์มหดรัดรูปในไทยในปี 2021E และ 2022E จะขยายตัวสูงถึง +9% YoY และ +12% YoY ตามลำดับ

ประเมินกำไรสุทธิปี 2020-22E โตเฉลี่ย +32% CAGR เราประเมินกำไรสุทธิในช่วง 2 ปีข้างหน้าขยายตัวสูง +32% (CAGR 2020-22E) โดยคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2021E เติบโตแข็งแกร่ง +40% YoY อยู่ที่ 109 ล้านบาท จาก 1) รายได้เพิ่มขึ้น +11% YoY หนุนโดยคำสั่งซื้อที่เพิ่มสูงขึ้นทั้งจากลูกค้าเก่าและใหม่, ปัจจัยบวกจากการขยายสายการผลิตที่ 5 ซึ่งเริ่มดำเนินการผลิตใน 2Q21E, รวมถึงอานิสงส์จากภาคการส่งออกที่ฟื้นตัว, 2) GPM ปรับตัวดีขึ้นเป็น 30% จากปี 2020 ที่ 29.2%, และ

3) ต้นทุนทางการเงินลดลง -54% YoY จากการนำเงิน IPO ชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงินบางส่วน ด้านกำไรสุทธิปี 2022E คาดเติบโตสูงต่อเนื่อง +25% YoY อยู่ที่ 136 ล้านบาท

Valuation/Catalyst/Risk
เราประเมินราคาเป้าหมายที่ 8.50 บาท อิง 2022E PER 27.5x และ EPS ที่ 0.31 บาท เทียบเท่า +0.5SD above 7-yr average PER ของกลุ่ม Packaging เรามีมุมมองบวกมากและมองว่า SFT ควรเทรดในระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มจาก
1) ผลการดำเนินงานในอดีตขยายตัวสูงได้ต่อเนื่องแม้จะมีปัจจัยกดดันจาก COVID-19 ขณะที่เราประเมินกำไรสุทธิในช่วง 2 ปีข้างหน้าจะยังอยู่ในทิศทางเติบโตสูงถึง +32% (CAGR 2020-22E),
2) มี position ในตลาดที่แข็งแกร่งมาก ขณะที่ตลาดฉลากฟิล์มหดรัดรูปในไทยยังมีทิศทางการเติบโตสูง, และ
3) มีโอกาสเห็น upside risk เพิ่มเติมในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าจากการขยายสู่ธุรกิจอื่น ๆ เช่น บรรจุภัณฑ์แบบอ่อนตัว เป็นต้น

 

- Advertisement -