บล.เคทีบีเอสที :

คาดกำไร 2Q21E สูงสุดในรอบ 11 ปี
เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” และราคาเป้าหมาย 24.00 บาท อิง 2021E PER ที่ 24.0x (+1SD จาก 5-yr average PER) เรามีมุมมองเป็นบวกต่อ group conference call เมื่อวานนี้ 6 ก.ค. 21 โดยประเด็นสำคัญได้แก่

1) ระยะสั้น BSI index อาจถูกกดดันจาก BDI index ที่มี correction ลงมา อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าดัชนียังมีแนวโน้มเป็นขาขึ้นจาก global demand ที่สูงกว่า supply ของกองเรือ

2) ดัชนีค่าระวางมีปัจจัยหนุนได้แก่ การเข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยว infrastructure stimulus plan ของสหรัฐฯ และการขุด Istanbul grand cannel ซึ่งจะทำให้มี demand การขนส่ง ปูนซีเมนต์ เหล็ก และไม้มากขึ้น

3) วางแผนทำ fix contract มากขึ้นใน 4Q21E เนื่องจากมองว่าเป็นช่วง high season และได้ค่าระวางที่สูง 4) บริษัทยังไม่มีแผนซื้อเรือในปีนี้ แต่อาจซื้อเรือเพิ่มในปี 2025

เราประเมินกำไรสุทธิใน 2Q21E ที่ 658 ล้านบาท ซึ่งเป็นกำไรที่สูงสุดรายไตรมาสนับตั้งแต่ 3Q09 โดยคาด TC rate เฉลี่ยของ PSL ใน 2Q21E ที่ USD18,307/วัน ทั้งนี้ ยังคงกำไรสุทธิปี 2021E ที่ 1.52 พันล้านบาท จากรายได้เติบโต +62% YoY 2) GPM ที่ 39.4%

อย่างไรก็ตาม หากค่าระวางยังอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องใน 3Q-4Q21E อาจทำให้มี upside ต่อประมาณการของเรา
ราคาหุ้นปรับลงมา 10% ในอาทิตย์ที่ผ่านมา สะท้อนดัชนี BDI Index ที่ปรับลงมา 4 วันติดต่อกันซึ่งอาจกดดันดัชนี BSI Index ได้ในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม เราแนะนำ “ซื้อ” จากผลการดำเนินงานใน 2Q21E ที่คาดว่าจะออกมาโดดเด่น และแนวโน้มค่าระวางที่ยังมี ในการปรับขึ้นต่อหนุนโดย global demand ที่ฟื้นตัวและการเข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยวใน 3Q-4Q21E

Event: 2Q21E earnings preview
คาดกำไร 2Q21E เติบโตโดดเด่น QoQ และจากขาดทุนใน 2Q20 เราประเมินกำไรสุทธิใน 2Q21E ที่ 658 ล้านบาท (จากขาดทุน -1.18 พันล้านบาทใน 2Q20,+76% QoQ) ซึ่งเป็นกำไรที่สูงสุดรายไตรมาสนับตั้งแต่ 3Q09 ทั้งนี้ หากไม่รวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 108 ล้านบาทใน 1Q20 จะเติบโต +146%QoQ หลักๆ มาจาก

1) รายได้ที่ 1.85 พันล้านบาท (+172% YoY, +49% QoQ) หนุนโดยค่าระวางที่ปรับขึ้นมาแรง โดยคาด TC rate เฉลี่ยของ PSL ใน 2Q21E ที่ USD18,307/วัน (ทั้งนี้ มี discount จาก market TC rate เนื่องจากเรือมีขนาดเล็กกว่าเรืออ้างอิงของดัชนี และมีเรือที่ผูกสัญญา fix contract จำนวน 6 ลำ) และ
2) คาด GPM ปรับขึ้นมาที่ 47% (จาก 37% ใน 1Q20)

แนวโน้มค่าระวางยังเป็นขาขึ้น แม้อาจถูกกดดันในระยะสั้น ดัชนี BSI index อาจถูกกดดันจากดัชนี BDI index ที่มี correction ลงมาในระยะสั้น (BCI Index ปรับลงติดต่อกัน 4 วันทำการ)

อย่างไรก็ตาม บริษัทมีมุมมองว่าดัชนีค่าระวางยังมีแนวโน้มเป็นขาขึ้น โดยมีแผนที่จะทำ fix contract มากขึ้นใน 4Q21E เนื่องจากมองว่าเป็นช่วง high season ซึ่งจะทำให้สัญญาได้ค่าระวางที่สูง ปัจจุบันมี fix contract อยู่ 17% ของกองเรือ ทั้งนี้ ปัจจัยที่จะหนุนค่าระวางในระยะสั้นได้แก่ การเข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยว ซึ่งจะหนุนการขนส่งธัญพืช

ส่วนในระยะยาว ยังมีปัจจัยหนุนจาก Infrastructure stimulus plan ของสหรัฐฯ งบประมาณ 5.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ และการขุดคลอง Istanbul grand cannel ยาว 45 km ในตุรกี ซึ่งจะทำให้มี demand การขนส่ง ปูนซีเมนต์ เหล็ก และไม้มากขึ้น ทั้งนี้ คาด global dry-bulk demand ปี 2022E จะเติบโตที่ 5-7% ในขณะที่ supply ของกองเรือคาดเติบโตเพียง 2-3%

   คงกำไรสุทธิปี 2021E เราประเมินกำไรสุทธิปี 2021E ที่ 1.52 พันล้านบาท (จากขาดทุน -1.30 พันล้านบาทในปี 2020) หลักๆ มาจาก

1) รายได้เติบโต +62% YoY อยู่ที่ 6.05 พันล้านบาท หนุนโดย global demand ที่ฟื้นตัว อย่างไรก็ตาม บริษัทยังไม่มีแผนที่จะซื้อเรือเพิ่มในปีนี้ เนื่องจากราคาเรือมือสองปรับขึ้นมา 60-70% YTD ซึ่งบริษัทมองว่ายังไม่ใช่จังหวะที่ควรจะซื้อเรือ อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจมีแผนซื้อเรือเพิ่มในปี 2025

2) คาดGPM ที่ 39.4% (จากปี 2020 ที่ 13.6% ใกล้เคียงปี 2010 ที่ดัชนี BSI Index อยู่ที่ระดับ 2,000-3,000 จุด) อย่างไรก็ตาม หากค่าระวางยังอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องใน 3Q-4Q21E อาจทำให้มี upside ต่อประมาณการของเรา

Valuation/Catalyst/Risk
เราประเมินราคาเหมาะสมที่ 24.00 บาท อิง 2021E PER ที่ 24.0x (+1 SD จาก 5-yr historical average) โดยเราให้ targeted PER ที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลังเนื่องจาก
1) แนวโน้มผลการดำเนินงานที่จะพลิกกลับมามีกำไรได้ในปี 2021E

2) GPM ที่จะดีขึ้นจากค่าระวาง BSI Index ที่อยู่ในระดับสูงหนุนโดยการขนส่งระหว่างประเทศที่สูงขึ้นจาก commodity super cycle ที่เกิดขึ้นทุกๆ 12 ปี

- Advertisement -