บล.บัวหลวง:

Global Investing Brief: ราคาน้ำมันดิบปรับลด Bond Yield ต่ำสุดในรอบหลายเดือน // ดัชนีเวียดนามดิ่ง 4% กระทบข่าวลือ Lockdown ระบบตลาดใหม่และแรงขายทำกำไร

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ

  • ดัชนี Nasdaq ปิดบวกเมื่อคืนนี้ ในขณะที่ดัชนี DJIA และ S&P500 ปิดลบ นำโดยกลุ่มพลังงาน Halliburton (HAL) -6.5%, Exxon Mobil (XOM) -2.8% และ Chevron (CVX) -1.9% หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลง 2.4% เนื่องจากความขัดแย้งของนโยบายการผลิตน้ำมันกลุ่ม OPEC+ ด้านกลุ่มธนาคารปรับตัวลดลงเช่นกัน Bank of America (BAC) -2.6%, JPMorgan (JPM) -1.7% และ Goldman Sachs (GS) -1.1% หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ 10 ปี ลดลงเหลือเพียง 1.36% ต่ำสุดตั้งแต่เดือน ก.พ. ที่ผ่านมา
  • Home Depot (HD) และ Lowe’s (LOW) เผยมุ่งผลักดันธุรกิจการให้บริการจากผู้เชี่ยวชาญ หลังผู้บริหารเห็นถึงความต้องการที่อัดอั้นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว (Pent Up Demand) ของผู้บริโภคที่ชื่นชอบการตกแต่งบ้านในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เริ่มกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติ จึงทำให้ธุรกิจตกแต่งบ้านจากฝีมือผู้เชี่ยวชาญได้รับความสนใจมากขึ้น ด้าน Bloomberg Consensus ให้ TP ที่ $343.90 และ $227.74 ตามลำดับ

ตลาดหุ้นฮ่องกง

  • ดัชนีฮั่งเส็งปิดลบ 0.3% นำโดยผู้ผลิตยา Wuxi Biologics (2269) -8.4%, CSPC Pharma (1093) -4.2% และ Sino Biopharm (1177) -2.7% หลังหน่วยงานอาหารและยาในจีน (Center of Drug Evaluation : CDA) ชี้แจงเกี่ยวกับการยกระดับมาตราฐานในการผลิตยาให้มีความเข้มงวดมากขึ้นในทุกๆ ด้าน ขณะที่ Alibaba (9988) +1.7%, Ping An (2318) +1.3% และ Meituan (3690) +1% หนุนดัชนี
  • HKEX (0388) +2.3% หลังประกาศมุ่งพัฒนาแพลตฟอร์ม FINI (Fast Interface for New Issuance)ที่มีจุดประสงค์ในการพัฒนากระบวนการนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (IPO) ให้มีความรวดเร็วและทันสมัยมากขึ้น โดยระยะเวลาการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ IPO จะเหลือเพียง T+1 จาก T+5 ในปัจจุบัน ทั้งนี้คาดว่าแพลตฟอร์มดังกล่าวจะเริ่มโครงการนำร่องใน 2Q22 และพร้อมให้บริการจริงใน 4Q22 ด้าน Bloomberg Consensus ให้ TP ที่ HKD534.27

ตลาดหุ้นเวียดนาม

  • วานนี้ดัชนี VN Index และ VN30 ปรับลดลง 4% และ 4.4% ตามลำดับ นำโดย VHM -8.2%, TCB -4% และ SSI – 3.9% หลังมีแรงเทขายในช่วงตลาดปิด โดยเราคาดมาจาก 3 ปัจจัยหลักคือ 1.) ข่าวลือว่าจะมีการ Lockdown อย่างเต็มรูปแบบ เรามองว่าจะไม่ได้ส่งผลกระทบมากนัก เนื่องจากอยู่ในระดับ Semi-Lockdown มาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว 2.) ระบบซื้อขายมีการปรับปรุงใหม่รองรับปริมาณซื้อขายได้มากขึ้น หลังก่อนหน้านี้มักประสบปัญหาด้านการส่งคำสั่ง จึงทำให้แรงเทขายดังกล่าวมีผลกระทบมากกว่าช่วงที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ดีในระยะยาว เรามองเป็นปัจจัยบวกต่อสภาพคล่อง และ 3.) การขายทำกำไรจากดัชนี VN Index ที่ปรับขึ้นกว่า 57% และ VN30 ที่บวกแรงกว่าถึง 85% ใน 1 ปี ที่ผ่านมา ทั้งนี้ Forward P/E 12 เดือนข้างหน้า ยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจ ที่ 16.2 เท่า และ 14.5 เท่า ตามลำดับ อ้างอิงข้อมูลจาก Bloomberg
  • สินทรัพย์ที่อิงดัชนี VN30 ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทย อย่าง DR E1VFVN3001 เราคาดว่ายังคงได้รับแรงกดดันในระยะสั้น โดยมองแนวรับบริเวณ 33-34 บาท เป็นจุดน่าสนใจแนะทยอยสะสม

Highlight
Pfizer (PFE) -1.1% หลังกระทรวงสาธารณสุขของอิสราเอล เผยว่าอัตราการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ในวัคซีนของบริษัท ลดลงจาก 94% เหลือเพียง 64% แสดงถึงประสิทธิภาพในการป้องกันที่มีคุณภาพลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยอ้างอิงสถิติในช่วงวันที่ 6 มิ.ย. ถึงช่วงต้นเดือนก.ค. ที่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อภายในประเทศเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 343 ต่อวัน

- Advertisement -