ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,583.04 จุด ลดลง -8.39 จุด หรือ -0.53% มูลค่าการซื้อขาย 39,162.30 ล้านบาท
5 หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด

1.MENA ปิดที่ 2.60 บาท เพิ่มขึ้น 1.40 บาท มูลค่าการซื้อขาย 5,068.32 ลบ.
2.KBANK ปิดที่ 117.00 บาท ลดลง -1.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,386.80 ลบ.
3.BBL ปิดที่ 109.50 บาท ลดลง -2.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,103.34 ลบ.
4.SCB ปิดที่ 94.50 บาท ลดลง -1.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 969.48 ลบ.
5.CBG ปิดที่ 149.00 บาท ลดลง -0.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 750.40 ลบ.

ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ ปรับตัวลดลงคล้ายตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างติดลบ หลังราคาน้ำมันปรับตัวลง เงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้น ขณะที่เงินบาทอ่อนค่า รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) ของสหรัฐฯทั้งระยะสั้น ระยาวต่างก็ปรับตัวลดลงมาด้วย โดย Bond yield อายุ 10 ปีลงมา 1.35% ทำให้ช่วงนี้ ตลาดมีลักษณะพักฐาน ย้ายไปลงทุนสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น

ส่วนบ้านเรายังเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่ไม่ดีขึ้น จากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังทำนิวไฮกว่า 6 พันราย ปัจจัยดังกล่าวทำให้ตลาดฯปรับตัวลงในช่วงเช้ามาทดสอบใกล้ 1,580 จุด ตอบรับทั้งปัจจัยลบจากในประเทศและต่างประเทศ แต่ถือว่าตลาดหุ้นไทย ยังพอมีแรงหนุนจากการเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มส่งออกได้บ้าง โดยเฉพาะกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มอาหาร ตอบรับผลบวกจากเงินบาทอ่อนค่า

แนวโน้มภาคบ่าย
บทวิเคราะห์จาก บล.โกลเบล็ก คาดการณ์ว่า ดัชนีในภาคบ่ายเคลื่อนไหว Sideway Down เนื่องจากราคาน้้ามันที่ปรับตัวลงและจ้านวนผู้ติดเชื้อ COVID ในไทยยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่หุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กเป็นตัวหนุนตลาดท้าให้มีโอกาสอ่อนตัว โดยให้แนวรับ 1,577 แนวต้าน 1,590

- Advertisement -