Global Investing Brief: Fed ยันไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ย เดินหน้า QE // Apple เพิ่มกำลังผลิต iPhone เทคโนโลยี 5G หนุนยอดขาย

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ

  • ดัชนี Nasdaq ปิดลบเมื่อคืนนี้ ในขณะที่ดัชนี DJIA และ S&P500 ปิดบวก นำโดยกลุ่มสินค้าผู้บริโภค Coca-Cola (KO) +2.2%, PepsiCo (PEP) และ Procter & Gamble (PG) +0.7% หลังแถลงการณ์รอบครึ่งปีของเจอโรม พาวเวล ที่ยังคงจุดยืนเดินหน้าซื้อพันธบัตรตามาตรการ QE และจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ พร้อมกล่าวว่าเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเป็นเพียงชั่วคราวซึ่งเกิดจากการที่รัฐต่างๆ กลับมาเปิดเศรษฐกิจ
  • Microsoft (MSFT) เปิดตัว Windows 365 ทางเลือกใหม่สำหรับองค์กรในการให้พนักงานสามารถเข้าถึง PC ผ่านระบบคลาวด์ โดยผู้ใช้สามารถเข้าถึงคอมพิวเตอร์ที่ทำงานด้วยอุปกรณ์ใดก็ได้ เช่น Apple Mac, iPad หรือ แท็บเล็ต Android เพียงแค่มีเบราว์เซอร์ระดับมาตรฐานที่ใช้กันทั่วไป ซึ่งจะเข้ามาช่วยลดความซับซ้อนของระบบที่มีอยู่เดิม โดยคาดว่าจะสามารถวางจำหน่ายระบบนี้ได้ในวันที่ 2 ส.ค. นี้ ด้าน Bloomberg Consensus ให้ TP ที่ $297.69
  • Apple (AAPL) +2.4% หลังขอให้ซัพพลายเออร์เพิ่มการผลิตสำหรับ iPhone รุ่นต่อไป เพิ่มขึ้น 20% จากเดิม 75 ล้านเครื่องเป็น 90 ล้านเครื่อง แม้ในช่วงที่ผ่านมาจะถือเป็น Super Cycle ของ Apple ก็ตาม ที่ปัจจุบัน iPhone 12 มียอดขายรวมทั่วโลกทะลุ 100 ล้านเครื่องในเดือน เม.ย. 64 แล้ว ปัจจัยหนุนจากเทคโนโลยี 5G ที่กำลังเติบโตและกำลังขยายเครือข่ายไปทั่วทุกมุมโลก ผลักดันยอดขายสมาร์ทโฟนที่สามารถรองรับระบบ 5G ได้ ด้าน Bloomberg Consensus ให้ TP ที่ $156.87

ตลาดหุ้นฮ่องกง

  • ดัชนีฮั่งเส็งปิดลบ 0.6% นำโดย BYD Company (1211) -5.6%, Xinyi Solar (0968) -4.7% และ Geely Automobile (0175) -2.6% แม้ตัวเลขตามสถิติของกระทรวงพาณิชย์ในครึ่งปีแรกของจีนเผยมีเม็ดเงินลงทุนจากชาวต่างชาติไหลเข้ามากว่า RMB607.8bn โตกว่า 28.7%YoY ในขณะที่ Cathie Wood ผู้บริหารกองทุน ARK Invest ออกโรงเตือนนักลงทุนว่ากลุ่มเทคฯ ในจีนอาจมีการปรับฐาน (Reset Valuation) พร้อมปรับลดสัดส่วนการลงทุนในจีนของกอง ARK Innovation ETF เหลือต่ำกว่า 1% จาก 8% ในเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา โดยวันนี้ให้นักลงทุนติดตามการประกาศ GDP ไตรมาสสองของจีนอย่างใกล้ชิดเพื่อพิจารณาการลงทุนต่อไป
  • ผู้จัดทำดัชนี Hang Seng ประกาศปรับเพิ่มน้ำหนัก Alibaba (9988) ในดัชนี Hang Seng, Hang Seng China Enterprises Index และ Hang Seng TECH คาดว่าน้ำหนักที่ปรับเพิ่มใหม่ในดัชนีจะเป็น 10.3%, 11.4% และ 11.4% ตามลำดับ (จากปัจจุบัน 7.4%, 8.2% และ 8.2%) โดยจะมีผลทันทีหลังตลาดปิดในวันที่ 16 ก.ค. 64 ในระยะสั้น อาจมีเม็ดเงินจากกองทุน Passive ไหลเข้ามา หลังจากการเพิ่มน้ำหนักดังกล่าวอย่างไรก็ดี ยังคงต้องติดตามความชัดเจนจากประเด็นการคุมเข้มการผูกขาดทางการค้าโดยทางการจีนอย่างใกล้ชิดโดยเรายังคงเชื่อมั่นต่อปัจจัยพื้นฐานของบริษัทในระยะยาวเช่นเดิม

ตลาดหุ้นเวียดนาม

  • ดัชนี VN Index ปิดลบ 1.4% หลังจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันยังแตะระดับพันราย แม้จะมีการประกาศล็อกดาวน์เมืองโฮจิมินห์ไปแล้ว ทั้งนี้กลุ่มธนาคารปรับลงฉุดดัชนี TCB -5.4%, TPB -5.2%, STB -4.53%, VPB -3.9% และ VCB -1.5% หลังร่วมกันตกลงที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมแก่องค์กรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดโควิด-19 โดยจะมีผลไปจนถึงสิ้นปีนี้ ซึ่งจะส่งผลให้กลุ่มธนาคารอาจมีกำไรลดลงในปีนี้

Highlight
Alibaba (9988) และ Tencent (0700) สองเทคยักษ์ใหญ่เล็งจับมือร่วมธุรกิจ อนุญาตให้ลูกค้าสามารถใช้บริการของทั้งสองบริษัทผ่านแพลตฟอร์มของกันและกัน เช่น สามารถให้ลูกค้า WeChat ของ Tencent สามารถเข้ามาซื้อของใน Alibaba ได้โดยตรง ขณะที่ลูกค้า Alibaba ก็สามารถชำระเงินผ่านระบบ WeChat Pay การเจรจาดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากรัฐบาลจีนเข้มงวดในการเข้ามาควบคุมการผูกขาดของกลุ่มเทคฯ ในจีน Bloomberg Consensus ให้ TP Alibaba และ Tencent ที่ HKD286.20 และ HKD756.96 

 

- Advertisement -

บทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมจากผู้เขียน