รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

รุกฆาตตลาดหุ้น

Trading Range
  อ่อนตามภายนอก 1540 – 1565

PICKS OF THE DAY
CHG : BUY
• ผู้ติดเชื้อเร่งตัวขึ้น : จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่เร่งตัวขึ้น New High ต่อเนื่อง คาดหนุนรายได้ที่เกี่ยวข้องกับ COVID-19 เช่น Screening, รายได้รักษาผู้ติดเชื้อ และ Hospitel ปรับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัย
• ปรับประมาณการขึ้น : Outlook ดีมากกว่าคาด แนวโน้มกำไร 3Q64 ทา New High ต่อเนื่องจาก 2Q64 บวกกับรับรู้รายได้บริการฉีดวัคซีนทางเลือก “Moderna” เข้ามา 4Q64 คาด 5 แสนโดส มีแนวโน้มปรับประมาณการและราคาพื้นฐานขึ้น

STA : BUY
• คาดงบ 2Q64 ย่อตาม บ.ลูก(STGT) : แม้คาดว่าธุรกิจยางจะฟื้นตัวได้จากปริมาณและราคาขายที่ดีขึ้น อีกทั้งยังได้ผลบวกจากเงินบาทอ่อนค่า แต่แนวโน้มการดำเนินงานจากบ.ลูก(STGT) ที่อ่อนตัว จากทั้งราคาขายและปริมาณขายที่ลดลงส่งผลให้งบ 2Q64 อ่อนลง q-q แต่ฟื้นตัวได้โดดเด่น y-y
• แนวโน้มธุรกิจยางยังสดใส : คาดช่วงที่เหลือของปี ธุรกิจยางยังสดใสทำให้ภาพรวมการดำเนินงานปี 64 ยังเติบโตได้ดี อีกทั้งงบ 2Q64 คาดเงินปันผลจะอยู่ที่ราว 0.90 บาทต่อหุ้น ผลตอบแทนเงินปันผลราว 2% ยังน่าสนใจและมีส่วนลดจากราคาพื้นฐานอยู่มาก

ตลาดหุ้นวันนี้
• อ่อนตามภายนอก : คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวอิงทางลงในกรอบระหว่าง 1540 – 1565 จุด หลังยังคงถูกแวดล้อมด้วยปัจจัยเชิงลบทั้งจากสถานการณ์ในประเทศกรณีผู้ติดเชื้อรายวันทะลุ 1 หมื่นรายต่อเนื่องจนนำไปสู่การใช้มาตรการ Lockdown และด้านต่างประเทศที่นักลงทุนเริ่มกลับมากังวลการแพร่ระบาด COVID-19 สายพันธุ์เดลตามากขึ้น
โดยวานนี้ตลาดหุ้นสหรัฐนำโดยดัชนี Dow Jones ปรับตัวลง 2.09%, S&P500 ปรับตัวลง 1.59% และ Nasdaq ปรับตัวลง 1.06% ขณะที่ VIX Index ซึ่งเป็นดัชนีวัดความผันผวนที่มักถูกใช้สะท้อนความกังวลของนักลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐ ล่าสุดปรับตัวพุ่งขึ้นสู่ระดับ 22.50 จุด เป็นการเพิ่มขึ้น 4.05 จุด หรือ 21.95% ภายในวันเดียว
นอกจากนี้แล้ว ราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ก็ทิ้งตัวลงมาสู่ระดับ 66.42 ดอลลาร์สรอ.ต่อบาร์เรล หรือคิดเป็นการปรับตัวลงกว่า 7.51% และถือเป็นการหลุดระดับ 70 ดอลลาร์สรอ.ต่อบาร์เรล เป็นครั้งแรก หลังจากที่ OPEC+ บรรลุข้อตกลงการปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน ทางฝ่ายคาดหุ้นกลุ่ม ENERG จะถูกกดดันต่อในวันนี้
• นักลงทุนย้ายเม็ดเงินเข้าสินทรัพย์ปลอดภัย : ท่ามกลางความกังวลการแพร่ระบาดของ COVID-19 ล่าสุดผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี ทิ้งตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 1.19% เป็นการปรับตัวลงจากวันก่อนค่อนข้างรุนแรงราว 7.71% อีกทั้งดัชนีค่าเงินดอลลาร์ (Dollar Index) ก็อยู่ในแนวโน้มที่จะปรับตัวแข็งค่าขึ้น ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 92.82 จุด และค่าเงินเยนก็มีแนวโน้มแข็งค่าเช่นกัน ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 109.5 เยนต่อดอลลาร์สรอ.
โดยจากทิศทางการเคลื่อนไหวของสินทรัพย์ทั้งสามข้างต้น พอจะสรุปได้ว่านักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มที่จะส่งสัญญาณโยกย้ายเม็ดเงินไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยงเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น ดังนั้น การเลือกหุ้นลงทุนหรือเก็งกำไรในช่วงนี้จึงต้องเน้นหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวมากขึ้น
• ติดตามการปรับประมาณการ EPS ตลาดหุ้นไทย : น่าติดตามการปรับประมาณการ EPS ของตลาดหุ้นไทยในช่วงที่เหลือของปีอย่างใกล้ชิด โดยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาแม้ตลาดหุ้นไทยจะเผชิญกับการแพร่ระบาดของ COVID-19 ระลอกใหม่ แต่คาดการณ์ EPS ปี 64 ของ SETI ใน Bloomberg consensus ก็ยังไม่เคยถูกปรับลดลงเลย
ซึ่งล่าสุด EPS ปี 64 อยู่ที่ 84.36 บาทต่อหุ้น ด้วย SETI ที่ระดับ 1556 จุด จะเทียบเท่า P/E 18.44 เท่า แต่หลังจากที่ภาครัฐใช้ยาแรง สั่งดำเนินการมาตรการ Lockdown และหากสถานการณ์ยืดเยื้ออาจมีผลต่อการปรับประมาณการ EPS ของตลาดหุ้นไทยในระยะต่อไป
• ตัวเลขเศรษฐกิจน่าติดตาม :
1) เช้านี้ติดตามผลการประชุม PBoC เกี่ยวกับการปรับดอกเบี้ยนโยบายจีน และ
2) ติดตามตัวเลขนำเข้า-ส่งออกของไทย ในเช้าวันพรุ่งนี้

- Advertisement -