บล.เคจีไอ:

Event
ร่วมประชุมกับผู้บริหารของบริษัท Impact

ผู้ให้บริการด้าน logistic ครบวงจร WICE ให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจรโดยแบ่งธุรกิจเป็นสี่กลุ่มหลัก ได้แก่ การขนส่งทางอากาศ (33% ของรายได้รวมใน 1Q64), การขนส่งทางทะเล (31%), บริการขนส่งข้ามชายแดน (29%) และ supply chain solutions (7%) ทั้งนี้ รายได้จากทั้งสี่กลุ่มธุรกิจเพิ่มขึ้นใน 1Q64 โดยรายได้จากการขนส่งทางทะเลโตอย่างโดดเด่นถึง 213% YoY เป็น 415.5 ล้านบาท ในขณะที่รายได้จากบริการขนส่งข้ามชายแดนทางบกโตถึง 185%YoY เป็น 381.0 ล้านบาท ส่งผลให้รายได้รวมใน 1Q64 โตถึง 96%YoY เป็น 1.29 พันล้านบาทและกำไรสุทธิทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องเป็นไตรมาสท่ีห้าท่ี 81.6 ล้านบาท

ได้อานิสงส์จากค่าขนส่งที่แพงและการค้าที่เร่งตัวขึ้น

ในฐานะที่ WICE เป็นผู้ประกอบการ freight forwarder บริษัทจึงได้ประโยชน์จากภาวะอุตสาหกรรม ท่ีเป็นบวก ในแง่ของค่าขนส่งท่ีสูงข้ึน และกิจกรรมการค้าระหว่างประเทศท่ีเพิ่มขึ้น เราคาดว่าค่าขนส่ง จะยังค่อนข้างสูงต่อเนื่องไปในระยะ 12 เดือนข้างหน้า เนื่องจากคาดว่า capacity ของการขนส่งทางอากาศ และทางทะเลจะขาดแคลน ถึงแม้ว่าอาจจะมีการปรับค่าขนส่งบางส่วนหลังจากที่เริ่มมีเที่ยวบินขนส่งผู้โดยสารกลับมาทำการบิน และ capacity ของตู้คอนเทนเนอร์ของสายเดินเรือบางสายกลับมาเพิ่มขึ้น แต่การปรับค่าขนส่งจะยังเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป ในขณะเดียวกันบริการขนส่งข้ามชายแดนทางบกจะได้ประโยชน์ทางอ้อมจากการที่ค่าขนส่งทางอากาศและทางทะเลสูงข้ึนในฐานะที่เป็นอีกทางเลือกหน่ึงในการขนส่งสินค้า

การขยายกิจการจะช่วยสนับสนุนการเติบโตในระยะยาว

เพื่อรักษาแนวโน้มการเติบโตของบริษัท WICE กำหนดกลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ ได้แก่ i) การขยายตลาดในสหรัฐ ii) ส่งเสริมธุรกิจกับบริษัทที่ย้ายฐานการผลิตมาจากจีน iii) เพิ่ม capacity ของบริการโลจิสติกส์ครบวงจร iv) เพิ่ม capacity บริการขนส่งข้ามชายแดนทางบก v) ส่งเสริมบริการขนส่งไม่เต็มตู้คอนเทนเนอร์ (Less-Truck-Load) และ vi) นำ Euro Asia Total Logistics Co., Ltd. (ETL) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ทั้งน้ี เรามองว่า บริการขนส่งข้ามชายแดนทางบกมีโอกาสที่จะสร้างการเติบโตในระยะยาวให้กับบริษัทได้อย่างมาก จากการขยายตัวของปริมาณการค้าภายในภูมิภาคอินโดจีน และนโยบายการส่งเสริมการค้าและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของจีน (Belt and Road Initiative)

คาดว่าผลประกอบการจะดีขึ้น YoY ใน 2Q64
เรามองบวกกับแนวโน้มผลประกอบการของ WICE ใน 2Q64 โดยคาดวว่าบริษัทมีโอกาสท่ีจะทำสถิติกำไรรายไตรมาสสูงสุดได้ต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่หก จากค่าขนส่งที่สูง และปริมาณการขนส่งสินค้าท่ีน่าจะเพิ่มข้ึนตามการฟื้นตัวของการส่งออกไทย เราคาดว่าผลประกอบการของบริษัทใน 2H64F จะออกมาน่าประทับจเพราะปัจจัยฤดูกาล เนื่องจาก 3Q-4Q เป็นช่วง high season ของการส่งออกไทย นอกจากน้ี เราคาดว่า capacity ที่เพิ่มข้ึนของโกดัง สินค้า และ ตู้ container สำหรับบริการขนส่งข้ามชายแดนจะช่วยสนับสนุนให้รายได้ของบริษัทเพิ่มข้ึนใน 2H64 อย่างไรก็ตามบริษัทอาจจะเผชิญความท้าทายมากขึ้นในปีหน้าถ้าหากค่าขนส่งเริ่ม กลับเข้าสู่ระดับปกติ ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าว่ารายได้ปี 2564 จะโตไม่น้อยกว่า 20% YoY และกำไรสุทธิปีน้ีจะโตอย่างน้อย 6% YoY ในขณะที่ consensus คาดว่ากำไรสุทธิของ WICE ในปี 2564 จะโตถึง 42.8% YoY เป็น 289 ล้านบาท และปี 2565 จะเพิ่มข้ึน 1.6% YoY เป็น 293 ล้านบาท เรามองว่า consensus ของกำไรปีน้ียังมี upside อีกถ้าหากค่าขนส่งใน 2H64 ยังทรงตัวในระดับใกล้เคียงกับปัจจุบัน เนื่องจากเราคาดว่าปริมาณสินค้าที่ขนส่งจะเพิ่มข้ึน HoH ทั้งน้ีราคาหุ้นของ WICE ในปัจจุบันซื้อขายอยู่ที่ระดับ PER ปี 2564 ที่ 22.6x ซึ่งยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 34.5x

Risk: เศรษฐกิจไทย และเศรษฐกิจโลกถดถอย, ความผันผวนของต้นทุนค่าขนส่ง, การแข่งขันนตลาด

ขยายธุรกิจเพิ่มรับโอกาสในการเติบโต
เพื่อที่จะรับประโยชน์จากการฟื้นตัวของการค้าระหว่างประเทศอย่างเต็มที่ และเพิ่มสนับสนุนการเติบโตระยะยาวของบริษัททาง WICE ได้วางแผนที่จะขยายธุรกิจผ่าน 6 กลยทุธ์ ได้แก่

  1. i)  ขยายการขนส่งไปตลาดสหรัฐเป็น 6,000 TEUs (หน่วยเทียบเท่าตู้ขนาด 20 ฟุต)โดยปัจจุบันสหรัฐเป็นตลาดส่งออกใหญ่สุดของฐานลูกหลักของบริษัทโดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มชิ้นส่วนรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
  2. ii)  ร่วมมือกับบริษัทลูกในจีนในการเจาะกลุ่มลูกค้าจีนท่ีย้ายฐานการผลิตมาไทยจากปัญหาสงครามการค้าโดย กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ได้แก่ ผู้ผลิตเครื่องครัวอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และแผงโซล่าร์ เป็นต้น
  3. iii)  เปิดคลังสินค้าเพิ่มพื้นที่ 10,000 ตรม. สำหรับการให้บริการ supply chain (คลังสินค้าและการกระจายสินค้า ) จากปัจจุบัน 18,000 ตรม. และยังวางแผนที่จะขยายการให้บริการจากกลุ่มลูกค้า B2B ไปยังกลุ่มลูกค้า B2C ด้วย
  4. iv)  ลงทุนในตู้คอนเทนเนอร์ (รถบรรทุก) อีก 200 ตู้ซึ่งจะทำให้สามารถเพิ่มเท่ียววิ่งรถเป็น 1,200 เที่ยว/เดือน นอกจากน้ี บริษัทยังตั้งเป้าที่จะขยายบริการไปยังการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ ในเส้นทางท่ีเช่ือมโยงระหว่างจีนไปยังตะวันออกกลางและยุโรปตะวันออกด้วย (Belt and Road Initiative).
  5. v)  ส่งเสริมบริการการขนส่งไม่เต็มตู้ (Less-Truck-Load) ซึ่งบริการน้ีจะเป็นการขนส่งแบบ door- to-door ให้กับลูกค้าโดยแผนปัจจุบันจะเป็นการเดินรถ 2 เที่ยว/สัปดาห์ ในเส้นทางท่ีกำหนด ต่อไปน้ี ไทย-จีน มาเลเซีย-ไทย มาเลเซีย-จีน สิงคโปร์-ไทย และ สิงคโปร์-จีน โดย WICE คาดหวัง GPM จากบริการน้ีสูงที่ 40%.
  6. vi)  เตรียมนำบริษัท Euro Asia Total Logistics Co., Ltd. (ETL) เข้าจดทะเบียนในตลาด MAI ภายในปี 2565 โดย ETL เป็นบริษัทร่วมค้าที่บริษัทถือหุ้น 40% ให้บริการการขนส่งทางบกข้ามพรมแดน

การเติบโตทางเศรษฐกิจสหรัฐฯและจีนจะเป็นแรงหนุนการขนส่งสินค้าใน 2H64-2565F

ในมุมมองของเรา WICE จะได้รับประโยชน์โดยตรงจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจในสหรัฐ และจีน โดยทั้งสองประเทศน้ีเป็นจุดหมายการขนส่งของลูกค้าหลักของบริษัท ทั้งนี้ IMF คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัว 6.4% ในปี 2564 และ 3.5% ในปี 2565 ขณะท่ีคาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 8.4% ในปี 2564 และ 5.6% ในปี 2565 นอกจากน้ี WICE ยังมีตำแหน่งทางการตลาดที่แข็งแกร่งในเส้นทางการค้าภายในภูมิภาค โดยบริษัทให้บริการการขนส่งทางบกในภูมิภาคอินโดจีน ซึ่งรวมถึง สิงคโปร์ มาเลย์เซีย ไทย เวียดนาม และจีน โดยเราเช่ือว่าการส่งเสริมเส้นทางการค้าระหว่างประเทศของจีนผ่านโครงการ Belt and Road Initiative จะเป็นปัจจัยหนุนให้กับบริการการขนส่งทางบกข้ามพรมแดนของ WICE ในอนาคต

เป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดีต่อเงินลงทุน

WICE มีสัดส่วนหน้ีสินต่อทุน (D/E) ที่ 1.14 เท่าใน 1Q64 เพิ่มข้ึนจาก 1.10 เท่าในปี 2563 และ 0.77 ในปี 2562 หลังจากบริษัทได้กู้เงินระยะยาวเพิ่มมาขยายธุรกิจ อย่างไรก็ดี ระดับหน้ีของบริษัทยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ จากสัดส่วนหน้ีท่ีมีภาระดอกเบี้ยต่อทุน (IBD/E) ยังอยู่ในระดับต่ำ เพียง 0.21 เท่าในปี 1Q64 และจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานท่ีอยู่ในเกณฑ์ดี สถานะทางการเงินของบริษัทน่าจะยังอยู่ในเกณฑ์แข็งแรง นอกจากน้ี บริษทั ยงั ให้ผลตอบแทนการลงทุนที่ดีในแง่ของ ROA และ ROEที่ระดบั 20.0% และ 28.0% ใน 1Q64 จาก 18.4% และ 24.1% ในปี 2563 ตามลำดับ

- Advertisement -