Daily Focus

Selective and Earnings Play//Accumulate at around 1,530+-

ตลาดหุ้นวานน้ี : SET Index แกว่งตัว Sideways ในกรอบกว้างโดยสามารถปิดบวกได้เล็กน้อย 2.02 จุด ณ สิ้นสิ้นวันตามตลาดหุ้นโลกที่ฟื้นตัว แต่การปรับขึ้นยังทำได้ค่อนข้างจำกัด สถาบันในประเทศขายสุทธิในตลาดหุ้นบางๆ แต่นักลงทุนต่างชาติขายงานแน่นต่อเนื่องอีก 1.3 พันลบ. (แต่พลิกมา Long Index Futures บางๆ 1.2 พันสัญ ญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้: เราคาด SET Index จะแกว่งตัว Sideways to Sideways Up ได้ต่อเนื่องทดสอบระดับ 1,545-1,550+- จุด จากบรรยากาศการลงทุนที่ผ่อนคายต่อเนื่อง และเม็ดเงินที่ยังไหลกลับเข้าสินทรัพย์เสี่ยงระยะสั้น อย่างไรก็ตาม ยังคงมองกรอบการบวกกดดันต่อเนื่องจากสถานการณ์ระบาดของ COVID-19 ในประเทศที่ยังเข้าขั้นวิกฤต ทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตที่ยังสูง รวมถึงมาตรการ Lockdown ที่มีโอกาสลากยาวทำให้ประมาณการกำไรปี 2021 ของบริษัทจดทะเบียนที่ BB Consensus คาด EPS 84 บาทมี Downside โดยเฉพาะกลุ่ม Domestic Play รวมถึงแนวโน้มกำไร 2Q21-3Q21 ที่จะออกมาไม่สดใส ส่วนปัจจัยที่จะทำให้เศรษฐกิจและ ตลาดหุ้นฟื้นตัวได้อย่างยั่งยืนคือ เร่งนำเข้าวัคซีนและฉีดวัคซีน COVID-19 ให้รวดเร็วมากที่สุด ในเชิงกลยุทธ์จึงยังเน้นเลือกลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวเฉพาะตัว และไม่ถูกกระทบจาก COVID-19 และมาตรการคุมเข้ม โดยเฉพาะหุ้นที่มีแนวโน้มกำไร 2Q21-3Q21 ที่แข็งแกร่ง ได้แก่ กลุ่มการแพทย์ กลุ่มขนส่ง (เรือ) กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มส่งออกอย่างอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์ ส่วนจังหวะอ่อนตัวลงหาแนวรับ 1,530+- จุดยังมองเป็นจังหวะในการสะสมหุ้นรอการฟื้นตัวช่วงปลายปีต่อเนื่องปีหน้า

กลยุทธ์: เก่งกำไรเป็นไรตัวที่มีประเด็นบวกเฉพาะตัวและงบ 2Q21 โดดเด่น// สะสมหุ้นพื้นฐานบริเวณ 1,530+- จุด หุ้นเด่นเดือนน ก.ค.: BDMS, DOHOME, EPG, KCE, SONIC

หุ้นเด่นวันนี้: SAPPE

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 36 บาท
  • คาดกำไร 2Q21 เติบโตโดดเด่น +36%Q-Q, +42%Y-Y แม้จะมีการระบาดของ COVID-19 แต่รายได้ในประเทศยังทรงตัว และการส่งออกเติบโตอย่างน่าประทับใจ ส่วน Utilization Rate ที่สูง ช่วยหักล้างต้นทุน Pet Resin ที่ปรับขึ้น
  • คาดโมเมนตัมกำไรจะทำจุดสูงสุดของปีใน 3Q21 จาก High Season และการส่งออกที่ยังสดใสต่อเนื่อง รวมถึง SAPPE มีแผนออกสินค้าใหม่ซึ่งจะเป็นแรงหนุน ยังคาดกำไรปี 2021 +26% Y-Y ราคาหุ้นยังเทรด PE เพียง 17 เท่า ต่ำกว่ากลุ่มฯ ซึ่งเทรดราว 25 เท่า
  • แนวรับ 26//27 บาท แนวต้าน 28.75 บาท

Fund Flow: วานน้ีกระแสเงินทุนยังคงไหลออกจากภูมิภาคผิดคาดอีก US$1,183 ล้าน โดยยังไหลออกที่ไต้หวันและเกาหลีใต้สูงสุด US$560 ล้านและ US$519 ล้านตามลำดับ ส่วนตลาดอาเซียนเม็ดเงินค่อนไปในทางไหลออกนำโดยเวียดนามและไทย US$63 ล้านและ US$38 ล้าน ตามลำดับ มีเพียงอินโดนิเซียที่ไหลเข้าเล็กน้อย แนวโน้มกระแสเงินทุนคาดพลิกมาไหลเข้าระยะสั้นจากบรรยากาศการลงทุนที่เป็นบวกและเม็ดเงินกลับเข้าสินทรัพย์เสี่ยง แต่คาดปริมาณยังจำกัดจากการระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์เดลต้าทีเร่งตัวทั่วโลกกดดันการฟื้นตัวโดยเฉพาะในอาเซียน

ประเด็นสำคัญวันนี้

(+) หุ้นที่คาดกำไร 2Q21 โดดเด่น KCE HANA DOHOME GLOBAL EPG SONIC LEO EKH CHG BCH BDMS NER JWD JR TTA IIG TU SAPPE NSL SC SPALI

(-) สรุปกำไรกลุ่มธนาคาร 2Q21 ออกมา-17%Q-Q,+70%Y-Y ดีกว่าที่ตลาดคาด 15% โดยธนาคารที่กำไรดีกว่าคาดคือ SCB KTB BAY ตามคาดคือ KBANK BBL TISCO TTB ส่วนธนาคารที่แย่กว่าคาดคือ KKP อย่างไรก็ตามแนวโน้มกำไร 3Q21 คาดแย่ลง Q-Q จากผลของ COVID-19 ระลอก 3 ที่กดดัน ทำให้การตั้งสำรองสูงขึ้น และต้องช่วยเหลือลูกหนี้เพิ่มเติม ทำให้ประมาณการกำไรทั้งปี 2021 ทั้งกลุ่มที่คาด +19%Y-Y มี Downside และ อยู่ระหว่างปรับลง อย่างไรก็ตามแนะนำ “ทยอยซื้อลงทุน” และคาดหวังการฟื้นตัวในปี 2022 ระยะสั้นชอบ TISCO มากที่สุด

(+) BCPG คาดกำไร 2Q21 แข็งแกร่ง +20%Q-Q, +78%Y-Y จากโรงไฟฟ้าพลังน้ำที่โดดเด่นและเป็นปัจจัย ผลักดันการเติบโต การปิดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพที่น้อยลง รวมถึงโรงไฟฟ้าลมในฟิลิปปินส์และโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ในไทยที่ดีขึ้น ขณะที่การเติบโตระยะยาวรองรับด้วยการเพิ่มทุนและเข้าซื้อธุรกิจแบตเตอรี่ใน VRB และโรงไฟฟ้าลมในลาว เราคาด EPS ปี 2021 +17% Y-Y และ Flat Y-Y ในปี 2022 คงราคาเป้าหมาย 23 บาท แนะนำ “ซื้อ” (Source: FSSIA)

(+) MEGA คาดกำไร 2Q21+2%Q-Q,+12%Y-Y จาก Demand ที่แข็งแกร่งทั้งธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์  Maxxcare และธุรกิจแบรนด์ Mega We Care ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเชียงใต้ยังคงเป็นตลาดหลักและ และเป็นภูมิภาคที่แบรนด์ MEGA มีความแข็งแกร่ง สถานการณ์ COVID-19 ที่ยังหนักในหลายประเทศทั่วโลกทำให้คนใส่ ใจดูแลสุขภาพมากชึ้น ในระยะยาวเราคงประมาณการกำไรปี 2021 +7% Y-Y และปี 2022 +12% Y-Y คงราคาเป้าหมาย 48 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(0) SPVI เราคาดกำไร 2Q21 -44% Q-Q จากปัจจัยฤดูกาล แต่ +63% Y-Y เพราะฐานต่ำปีก่อนเพราะ Lockdown ประกอบกับปีที่ผ่านมามีการขยายสาขา U-Store อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามเราคาด Gross Margin ลดลงเล็กน้อยจากสัดส่วนการขายในกลุ่ม Gadgets ลดลง ส่วนภาพทั้งปีเราปรับกำไรปี 2021 ลงเหลือ +40% Y-Y สะท้อนสถานการณ์ COVID-19 ที่ระบาดหนัก และกลับมา Lockdown อีกครั้ง ปรับลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 5.60 บาท แนะนำ “ขาย”

(+) ตลาดดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 286.01 จุด หรือ 0.83% ปิดที่ 34,798.00 จุด หลังเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนสหรัฐ อาทิ Johnson & Johnson, Coca Cola นอกจากนี้ มีแรงซื้อหุ้นที่ปรับลงแรงในช่วงก่อนหน้าอย่างกลุ่มสายการบิน และเรือสำราญ รวมถึงการปรับขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคารตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล

(+) ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก จากการเปิดเผยผลประกอบการที่สดใส และหุ้นกลุ่มเดินทางและสันทนาการฟื้นตัวหลังปรับลงในช่วงก่อนหน้า นอกจากนี้ ยังหนุนจากคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะดำเนินนโยบายการ การเงินที่ผ่อนคลายต่อไปในการประชุมวันพฤหัสนี้

(+) ตลาดเอเชียนปรับขึ้นตามทิศทางตลาดดาวโจนส์ ขณะที่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการเนื่องใน Marine Day

(+) ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอยู่ที่บริเวณ 32.80 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 3.1 ดอลลาร์ หรือ 4.6% ปิดที่ 70.30 ดอลลาร์/บาร์เรลหลัง EIA เปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ลดลง 1.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็น 36.7 ล้านบาร์เรลซึ่งเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือน ม.ค.2020 รวมถึงสต๊อกน้ำมันเบนซินปรับลง 100,000 บาร์เรล มากกว่านักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล และสต๊อกน้ำมันกลั่นปรับลง 1.3 ล้านบาร์เรล มากกว่านักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 600,000 บาร์เรล อย่างไรก็ดีสต๊อกน้ำมันดิบปรับขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรล สวนทางที่นักวิเคราะห์คาดลดลง 6.7 ล้านบาร์เรล

(-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 8 ดอลลาร์ หรือ 0.44% ปิดที่ 1,803.4 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับขึ้นเป็น 1.3% อย่างไรก็ดี บรรเทาด้วยการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์

SPDR Gold Trust ถือ ครองทองคำ 1,028.55 / +-

- Advertisement -