Our View?

“Sideway up” ในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ หลังได้รับปัจจัยหนุนจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาดีกว่าคาด เช่น AT&T ซึ่งเป็นบริษัทสื่อใหญ่ของสหรัฐ พร้อมการชะลอตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ล่าสุดอยู่ที่ 1.265% (ลดลง 1.17%) เป็นปัจจัยบวกต่อหุ้น Growth Stocks เช่น กลุ่มเทคโนโลยีและการสื่อสาร คาดช่วยชดเชยความกังวลต่อการแพร่ระบาดระลอกใหม่ ของ COVID-19 ในสหรัฐฯ รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดทั้ง (1) ผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก อยู่ที่ 419,000 ราย สูงสุดนับแต่วันที่ 15/5/64 และ (2) ยอดขายบ้านมือสอง-มิ.ย. เพิ่มข้ึนเพียง 1.4% อยู่ที่ 5.86 ล้านยูนิต ต่ำกว่าท่ีคาดว่าจะอยู่ท่ี 5.90 ล้านยูนิต

คาดได้รับปัจจัยหนุนจากราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 1.61 ดอลลาร์ อยู่ท่ี 71.91 ดอลลาร์/บาร์เรล (2.3%) จากคาดการณ์อุปทานน้ำมันในตลาดโลกจะเผชิญภาวะตึงตัว หลังเศรษฐกิจหลายประเทศเร่ิมฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 คาดมีแรงเก็งกำไรกลับเข้ามาในหุ้นกลุ่มพลังงาน

ขณะที่ผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) เป็นไปตามคาด ทั้งคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิม และคงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามโครงการ Pandemic Emergency Purchase Program (PEPP) ที่ระดับ 1.85 ล้าน ล้านยูโรต่อไป คาดไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยมากนัก

ส่วนปัจจัยภายในประเทศ คาดตลาดหุ้นไทยยังเผชิญแรงกดดันจากตัวเลขการแพร่ระบาด COVID-19 ที่ยังอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง เช้านี้ +14,575 ราย คาดจะยังกดดันทิศทางตลาดในระยะสั้นได้อยู่ อย่างไรก็ตามเราคาด สถานการณ์ใกล้จุดต่ำสุด ภายใต้มาตรการคุมเข้มท่ีออกมา คาดจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ในช่วง 2- 4 สัปดาห์ต่อจากนี้ มองเป็นปัจจัยเชิงบวกในระยะถัดไป ซึ่งช่วยจากัด Downside ของตลาดได้

และอยู่ในช่วงของประกาศผลการดำเนนิงาน 2Q/64 คาดมีแรงเก็งกำไรเข้ามาในกลุ่มที่มีผลประกอบการมีแนวโน้มกลับมาเติบโตโดดเด่น เช่น กลุ่มเหล็ก ล่าสุด TSTH ประกาศกำไรสุทธิ 1Q/64-65 (สิ้นสุดมิ.ย.) 847 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2 เท่า และ 16 เท่า จาก 406 ล้านบาท (4Q/63-64) และ 54 ล้านบาท (1Q/63-64) รวมถึงกลุ่ม ธนาคารส่วนใหญ่ค่อนข้างออกมาดีกว่าที่เราและตลาดคาดไว้ +9.72%QoQ และ +69.62%YoY และดีกว่าที่ Consensus คาดไว้ที่ระดับ 15.68% มองเป็น Sentiment เชิงบวกหนุนหุ้นในกลุ่มธนาคารฟื้นตัวกลับข้ึนได้ใน ระยะสั้น ช่วยเป็นปัจจัยเชิงบวกกระตุ้นตลาดกลับมาฟื้นตัวกลับขึ้นได้

ธีมการลงทุนในเชิงกลยุทธ์เรามองการอ่อนตัวลงของตลาดในช่วง 1,550-1,530 เข้าซื้อสะสมหุ้นในธีม

1. Earning Play ท่ีคาดงบ 2Q64 มีแนวโน้มที่ผลประกอบการดี อาทิ COM7, SAT, AH, HFT, JMART, GLOBAL, DOHOME, BCH และ CHG
2. Defensive Play ซึ่งเป็นหุ้นท่ีมี Beta ระดับต่ำทนทานต่อความผันผวนของตลาดได้ อาทิ ADVANC, GPSC, GULF และ BGRIM
3. Export Play ตามการส่งออกยังคงขยายตัวได้โดดเด่นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า รวมทั้งได้ประโยชน์จากการอ่อนค่าของค่าเงินบาท อาทิ KCE, HANA, CCET และ SMT

หุ้นแนะนำวันนี้ “PTTEP”

คาด 2Q/64 มีกำไรสุทธิ 10,233 ล้านบาท ลดลง 11%qoq แต่เพิ่มขึ้น 137%yoy ขณะที่คาด EBITDA อยู่ที่ 32,823 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% qoq และ 44% yoy โดยในช่วง 2Q/64 นี้คาดมี non-recurring เป็นปัจจัยลบ ประมาณ 2,600 ล้านบาท จากผลขาดทุนจากการป้องกันความเสี่ยงราคาน้ำมันดิบ จากการขายน้ำมันดิบล่วงหน้าส่งผลให้ไม่ได้รับประโยชน์เต็มท่ีในช่วงท่ีราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงข้ึน ราคาเป้าหมาย (พื้นฐาน) ปี’64 อยู่ท่ี 146.00 บาท

- Advertisement -