หนุน 19 ภาคีเครือข่ายลงพื้นที่ใช้สมุนไพรไทย “ป้องกัน-รักษา” ผู้ป่วยกักตัวที่บ้าน

ททบ.5 ผนึกกำลัง กลุ่มแพทย์แผนไทยและภาคีเครือข่าย รวม 19 หน่วยงาน ชูแผนยุทธการปราบโควิด-19 เสริมภูมิคุ้มกันคนไทย ด้วยการใช้สมุนไพรไทย จัดโครงการ “แพทย์แผนไทย แพทย์ทางรอด คนไทยไม่ทิ้งกัน” พร้อมสนับสนุนพื้นที่ตั้งหน่วยแพทย์แผนไทย ลงพื้นที่ชุมชน รักษาผู้ป่วยกักตัวที่บ้าน เชื่อสมุนไพรไทยจะถูกใช้เป็นยารักษาหลักในอนาคต


พล.ท.รังษี กิติญาณทรัพย์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 เปิดเผยว่า จากแนวโน้มสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีความรุนแรงมากขึ้น โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตค่อนข้างสูง ประกอบกับยาหลักที่ใช้ในรักษาไม่เพียงพอ ทาง ททบ.5 จึงได้ร่วมมือกับกลุ่มแพทย์แผนไทยและภาคีเครือข่าย รวม 19 หน่วยงาน รณรงค์ส่งเสริมให้คนไทยใช้สมุนไพรตามตำรับแพทย์แผนไทย เพื่อป้องกันและรักษา สร้างเสริมภูมิคุ้มกันสู้โควิด-19 ในกลุ่มผู้ป่วยสีเขียวที่กักตัวดูแลตัวเองที่บ้าน หรือ Home Isolation ภายใต้โครงการ “แพทย์แผนไทย แพทย์ทางรอด คนไทยไม่ทิ้งกัน” พร้อมเดินหน้าทำงานแบบเชิงรุก เตรียมส่งทีมแพทย์แผนไทยลงพื้นที่ชุมชนต่างๆ ดูอาการผู้ป่วย และรักษาตามอาการ มอบยาเวชภัณฑ์ สมุนไพรฟ้าทะลายโจร พร้อมให้คำแนะนำการใช้สมุนไพรอย่างถูกต้อง ให้กับผู้ป่วยดังกล่าว เพื่อแบ่งเบาภาระของบุคคลากรทางการแพทย์ และพยาบาล โดยจะเริ่มที่แรกคือ ที่ชุมชนคลองเตย

ส่วนสมุนไพรที่นำมาใช้ในการป้องกันและรักษาในกลุ่มผู้ป่วยสีเขียว ประกอบไปด้วย กลุ่มที่มีงานวิจัยทางราชการรับรองชัดเจน เช่น ฟ้าทะลายโจร, กระชาย และขิง เป็นกลุ่มยาที่ช่วยยับยั้งการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 ได้, กลุ่มเครื่องต้มยำ ขิง, ข่าและตะไคร้ อยู่ในกลุ่มต้านอนุมูลอิสระ จะช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน โดยมีฤทธิ์ร้อน ซึ่งต้องนำเอาสมุนไพรดังกล่าวมาใช้ในการปรุงอาหารแทน และกลุ่มยารักษา เช่น ยา 5 ราก, ยาเขียว ซึ่งเป็นยาลดไข้สามัญประจำบ้าน นอกจากการลงพื้นที่เชิงรุกแล้ว ยังมีการประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนได้รับรู้ถึงการใช้สมุนไพรไทย โดย ททบ.5 ยังมีการพัฒนากระบวนการผลิตสมุนไพรฟ้าทะลายโจรที่กำลังมีปัญหาขาดตลาด ไม่เพียงพอต่อความต้องการ มาสกัดในรูปแบบผงหรือเม็ด เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการใช้งานสมุนไพรได้มากขึ้น

อย่างไรก็ตามมองว่า วิกฤตโควิด-19 ในรอบนี้ อาจเป็นโอกาสของเกษตรกรไทย ที่จะปรับมาปลูกพืชสมุนไพรไทยที่ใช้การในป้องกัน และรักษาโควิด-19 ให้ครอบคลุมความต้องการของตลาด หลังจากที่มีผลผลิตเกษตรบางรายการราคาตกต่ำ ซึ่งคาดว่าโรคโควิด-19 จะอยู่ในประเทศไทยอีกหลายปีและอาจมีการกลายพันธุ์เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยวัคซีนที่ใช้ป้องกันโควิด-19 อาจตามไม่ทัน ดังนั้น แนวโน้มความต้องการสมุนไพรไทยจะมีสูงขึ้นแน่นอน จากที่เป็นยาทางเลือกอาจกลายเป็นยาหลักต่อไปในอนาคตได้

“ความร่วมครั้งนี้ ถือเป็นการรวมผู้เชี่ยวชาญสมุนไพรไทย โดยกลุ่มแพทย์แผนไทยช่วยไทย จะเป็นกลุ่มปฎิบัติการเชิงรุกกับโควิด-19 ที่จะเน้นเรื่องการรักษาตามอาการให้กับผู้ป่วยสีเขียว หลังจากที่ประเทศไทยมีการตั้งรับมานานแล้ว และจำนวนระบบสาธารณสุขเราเต็ม พร้อมจะใช้องค์ความรู้และภูมิปัญญาของแพทย์แผนไทย ซึ่งอาจเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของแพทย์แผนไทย ที่ได้ลงมือปฏิบัติจริงๆ ลงสู่ความจริงของโรคที่น่ากลัว ถือเป็นการเสียสละครั้งใหญ่ และหากเราทำสำเร็จจะเป็นบ่อเกิดของสมุนไพรไทย เป็นการแบ่งเบาภาระแพทย์ในโรงพยาบาลได้ค่อนข้างมาก และลดการสูญเสียชีวิตได้จำนวนมาก” พล.ท.รังษี กล่าว

นายโฆสิต สุวินิจจิต ประธานกลุ่มเครือข่ายแพทย์แผนไทย กล่าวว่า การรวมตัวกลุ่มแพทย์แผนไทย 19 ภาคีเครือข่าย จะประกอบไปด้วย สภาการแพทย์แผนไทย, มูลนิธิในโครงการตามพระราชดำริสวนป่าสมุนไพร, มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ, สมาคมแพทย์แผนไทยประยุกต์, องค์กรภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย, สมาคมผู้ผลิตยาสมุนไพร, สมาคมภัตตาคารไทย, สมาคมเดอะเชฟประเทศไทย, มหาวิทยาลัยรามคำแหง, มูลนิธิแพทย์วิถีธรรมแห่งประเทศไทย, มูลนิธิเวิร์คพอยท์, สมาคมเดอะบอสส์เนชั่นทีวี, สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย, สถานีวิทยุกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ FM 90 ลูกทุ่งรักไทย, สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5, มหาวิทยาลัยรังสิต, มูลนิธิจิตเป็นผู้ให้ใจเป็นนิพพาน และสโมสรซอนต้ากรุงเทพ 3

อย่างไรก็ตามถือเป็นครั้งแรกที่รวมตัวกัน เพื่อเป็นศูนย์กลางข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องและเป็นองค์ความรู้ให้กับประชาชน โดยทางททบ.5 ได้สนับสนุนพื้นที่ในททบ.5 เพื่อเป็นศูนย์ประสานงานของกลุ่มแพทย์แผนไทยช่วยไทย หลังจากนี้ทางกลุ่มจะมีการวางแผนทำงานต่อไป โดยจะเริ่มจากการรณรงค์ให้คนไทยกินอาหารไทย สุขใจ ไกลโรค, การลงพื้นที่ชุมชนต่างๆโดยมีแพทย์แผนไทยอาษาไปด้วย พร้อมกิจกรรมอื่นๆ มากมาย สำหรับการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับคนไทย เป็นต้น

- Advertisement -