รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
“Green Energy Play”

CNS Daily Strategy: คาดตลาด “ลุ้น Rebound” ต้าน 1535/1542 จุด รับ 1513/1505 จุด รายงานยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตร เดือน ก.ค. เพิ่มขึ้น 943,000 ราย สูงกว่าตลาดคาดที่ 870,000 ราย หนุนสินทรัพย์เสี่ยงในสหรัฐฯ แต่ก็สร้างความไม่แน่นอน ต่อโอกาสการเปลี่ยนนโยบายการเงินของ FED ที่อาจเร่งตัวขึ้น หลังล่าสุด Nomura เริ่มประเมินความเสี่ยง Tapering อาจประกาศไวกว่าสมมติฐานเดือน ธค 2021 กดดันค่าเงินบาทอ่อนค่า 33.4บาทต่อเหรียญฯ และ Fund Flow ผันผวน ส่วนภายใน ยอดผู้ติดเชื้อวันนี้เริ่มลดลงบ้างมาที่ 1.96 หมื่นราย และยอดผู้รักษาหายสูงกว่าที่ 1.98หมื่นราย เป็นจิตวิทยาบวกเล็กๆ ที่อาจจะเห็นตลาดหุ้นไทยรีบาวด์สั้นๆ ได้ วันนี้แนะ “Green Energy Play” : GPSC GULF

Nomura : Key Factors
· (+) US Econ: ยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตร ก.ค. อยู่ที่ 943k ราย ดีกว่าตลาดคาดที่ 870k ราย ส่วนอัตราการว่างงาน ก.ค. ลดลงสู่ 5.4% คาด 5.7%
· (-) US Bond: อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 10ปี เร่งตัวสู่ 1.3%
· (-) US Covid-19: ยอดผู้ติดเชื้อเฉลี่ย 7ย้อนหลัง เร่งขึ้น 34%w-w สู่ 90,000 ราย/วัน
· (*) CH Tech: ByteDance เตรีบมกลับมา IPO ในตลาดหุ้นฮ่องกงอีกครั้ง
· (-) OIL: วานนี้ WTI -0.81$(-1.17%) สู่ 68.28/bbl, BRT-0.59$(-0.83%) สู่70.7/bbl
· (-) Gold:ทองคำปรับฐาน -2.5% สู่ 1,718 เหรียญฯ/ออนซ์ ต่ำสุดในรอบ 5 เดือน
· (*) Fund Flows: หุ้น -2,078.31 ลบ,สัญญา Future -10,960 สัญญา,Bond -2,136.54ลบ

Nomura Daily Top Picks: GPSC GULF
Equity Daily Outlook : คาดตลาด ลุ้น Rebound” ต้าน 1535/1537 จุด รับ 1513/1505 จุด ดัชนี S&P500 ปรับขึ้นทำ All time high นำโดยกลุ่ม Finance +2% Material +1.4% หลังรายงานยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตร เดือน ก.ค. เพิ่มขึ้น 943,000 ราย สูงกว่าตลาดคาดที่ 870,000 ราย บ่งชี้ตลาดแรงงานสหรัฐฯแข็งแกร่ง

อย่างไรก็ตาม ภาพดังกล่าวเพิ่มโอกาส Fed จะลดมาตรการผ่อนคลายการเงิน แม้ว่ามีโอกาสมากขึ้นที่เศรษฐกิจสหรัฐฯชะลอตัวจากการระบาด Covid-19 สายพันธุ์ Delta แต่ถ้อยแถลงของกรรมการ Fed ในสัปดาห์ก่อนมีท่าที Hawkish กว่าตลาดคาด โดยเฉพาะคุณ Richard Clarida (Voter) ที่กล่าวหนุนการปรับขึ้นดอกเบี้ยในปี 2023 (เดิมมีท่าที Dovish กว่านี้)

ทำให้ Nomura มองว่ามีความเสี่ยงมากขึ้นที่ Fed จะถอนนโยบายผ่อนคลายเร็วกว่า Base Case คือ ประกาศทำ Tapering ในเดือน พ.ย.21 (Base Case คาดธ.ค.21) และอาจขึ้นดอกเบี้ยใน 1Q23 เร็วกว่า Nomura คาดช่วง 2Q23 ทำให้ช่วงสั้นอาจเห็นภาพ US Bond Yield เร่งขึ้น และ Dollar Index แข็งค่า กดดัน Flow ออกจาก EM-Asia กดดันค่าเงินเอเชียอ่อนค่า โดยเช้านี้ค่าเงินบาทอยู่ที่ 33.4 บาท/เหรียญฯ -10.4%YTD อ่อนค่ามากที่สุดในเอเชีย ถ่วง Sentiment การลงทุน

ขณะที่ภาพภายในยังผันผวนจากความไม่แน่นอนการเมืองและการระบาด Covid-19 แต่ช่วงสั้นมีปัจจัยบวกจากยอดผู้ติดเชื้อวันนี้อยู่ที่ 19,603 ราย แต่ยอดผู้รักษาหายสูงกว่าที่ 19,819 ราย หนุนตลาดหุ้นไทย Rebound ได้ ส่วนปัจจัยอื่นๆ MSCI และ FTSE ประกาศลดน้ำหนัก INTUCH ระหว่างกาล จาก Free Float ที่ลดลงมีผลราคาปิดวันพรุ่งนี้ คิดเป็น Outflow -69.33 ล้านเหรียญฯ และ -51 ล้านเหรียญฯตามลำดับ แนะวันนี้ติดตาม 1)การประชุมผู้ถือหุ้น BANPU ก่อนขึ้นเครื่องหมาย XR 16ส.ค. 2)รายงานผลประกอบการ 2Q21 ของ AU,NER,PTTGC,QH และ TU

Daily Strategy : ค่าเงินบาทอ่อนค่าสุดในรอบ 3 ปี ถ่วงจิตวิทยาการลงทุนหุ้นกลุ่ม Big Cap กลยุทธ์แนะกลุ่มที่จะ Outperform SET ได้แก่ กลุ่มที่ Earnings ดี 2Q21-3Q21 ได้แก่ โรงไฟฟ้า(GPSC, GULF, BCPG) กลุ่มส่งออกที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า(ชิ้นส่วน-อาหาร BANPU, EPG, KCE, HANA TU PM ASIAN) กลุ่มโรงพยาบาลและอุปกรณ์ทางการแพทย์(BDMS, BCH, CHG, EKH, SMD, WINMED) ผสาน กลุ่มสื่อสารฯ(ADVANC) และหุ้นที่มีปันผลระหว่างกาล(TVO) น้ำหนักหุ้นที่ 55% และระดับ 1520-1500จุด เป็นกรอบเลือกซื้อรายตัว

· Research Highlight :
SNC (BUY, TP17.4) : บริษัทแจ้งราคาเพิ่มทุน PO แล้วที่ 13.0 บาท/หุ้น โดยเราปรับ TP21F ใหม่ อยู่ที่ 17.4 บาท (เดิม 20.7 บาท) อิง PER 14 เท่า (ค่าเฉลี่ย 10 ปี + 1.5SD) โดยรวมจำนวนหุ้นเพิ่มทุน 112 ล้านหุ้น (หุ้นเดิมมี 288 ล้านหุ้น) เข้ามาในประมาณการกำไรปี 2021 ที่คงไว้ 496 ลบ. (+22% y-y แต่ EPS -12% y-y จากหุ้นเพิ่มทุน) โดยราคาหุ้นอาจมีประเด็นลบจากราคาเพิ่มทุนต่ำกว่าราคาปัจจุบัน 8% แต่ถือเป็นการปลด Overhang เรื่องเพิ่มทุนตั้งแต่ธ.ค.2020 และราคาหุ้นจะเริ่มกลับมาสะท้อนภาพปัจจัยพื้นฐานอีกครั้ง ซึ่งเรามองผลประกอบการอยู่ในช่วงขาขึ้น จากการรับงาน OEM รอบใหญ่ (ประกอบแอร์ + เครื่องใช้ไฟฟ้า) ขณะที่ หุ้นซื้อขาย Undervalued PER 11.4 เท่า (ใกล้เคียงค่าเฉลี่ย)

· Commodity : 1)ราคาถ่านหิน +3.17% สู่ 160.95 เหรียญ/ตัน บวกต่อ BANPU
· ค่าเงินบาทอ่อนค่าสุดในรอบ 3 ปี ทุกๆ 1 บาท บวกต่อ กลุ่มเกษตรอาหาร กำไรสุทธิเพิ่ม 3-1% TU, CPF, ASIAN, NER, XO, SAPPE กลุ่มชิ้นส่วนฯ กำไรสุทธิเพิ่ม3-2% SVI, HANA, KCE กลุ่มนิคม AMATA กลุ่มวัสดุ EPG +3% กลุ่มถ่านหิน BANPU ทุกๆ 1บาทหนุน +30ล้านเหรียญฯ แต่ลบต่อกลุ่มสายการบิน

· ดอกเบี้ยนโยบายไทย : Nomura เปลี่ยนมุมมองว่า รอบการประชุมก.ย. นี้ กนง จะกลับ มาลดดอกเบี้ย 25bps โดยสถิติตั้งแต่การประชุมหลังปี 2011 หลังจากรอบการประชุมที่ไม่เป็นเอกฉันท์ในการคงดอกเบี้ย 12 ครั้ง มีถึง 6 ครั้งที่การประชุมถัดมา ดอกเบี้ยลดลง โดยความเสี่ยงต่อการลดดอกเบี้ยจะอิงกับ กรณีการคุมการแพร่ระบาดช้ากว่าต้นไตรมาส 4 และเศรษฐกิจทรุดลง กลยุทธ์ภายใต้ความเสี่ยงที่ดอกเบี้ยนโยบายอาจจะลดลง 25bps เป็นลบต่อ Large BANK เสี่ยง NIM ลดลง กดกำไรปี 2022F ลง 22%-12%(TMB, KTB, BBL, SCB, KBANK) ส่วน Hirepurchase บวกต่อฐานกำไรเพิ่ม 5-4%(KKP, TISCO) และเป็นบวกต่อ Cost of Fund โดยแบ่งเป็นสินเชื่อรถบรรทุก บวกต่อ THANI มากสุด 1.42% รองลงมาเป็น MICRO 1.39% ส่วนกลุ่มจำนำทะเบียนบวก TIDLOR มากสุด 0.69% รองลงมา MTC 0.67% แนะนำซื้อ TISCO, TIDLOR เด่น

· (-) MSCI Rebalance : Nomura คาด BBL-F จะถูกถอดออกจากการคำนวณ ในการประกาศ MSCI Rebalance 11 ส.ค.นี้ เนื่องจากไม่ผ่านเกณฑ์ ATVR(Average Trade Value Ratio) คิดเป็นเม็ดเงิน -275 ล้านเหรียญ มีผลราคาปิด 31 ส.ค.

· โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ – Hydroelectricity Update : ผลจากประเทศจีนมีปริมาณน้ำมากตั้งแต่ไตรมาส 2 และเกิดน้ำท่วมในไตรมาส 3 ทำให้การระบายน้ำจากประเทศจีนทยอยออกมาต่อเนื่อง(เห็นการระบายน้ำมากเป็นพิเศษตั้งแต่ 2Q21Fแล้ว สะท้อนจากปริมาณน้ำผ่านเขื่อนไซยะบุรี ที่มากเกือบเท่า 3Q20 ที่เป็นช่วง high season) เป็นบวกต่อ Utilities คงคำแนะนำ Bullish GPSC( TP 91.5) , BCPG TP(17.0) และเก็งกำไร CKP

· น้ำท่วมรุนแรงในเมือง Zhengzhou ของประเทศจีน หลังฝนตกหนักตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งมีอุตสาหกรรมผลิตธัญพืชและเกษตร อลูมิเนียม ถ่านหิน และศูนย์กลางการผลิต IPhone 1 ใน 7 ของโลก ทำให้เกิดภาพ Supply Shortage

1) คาดราคาธัญพืชและเกษตร อลูมิเนียม ถ่านหิน บวกจาก Supply ที่ลดลง
2) กลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วน Smart Phone ในไทยได้ประโยชน์ : HANA, SMT
3) และคาดน้ำท่วมในจีนทำให้ราคาสุกรฟื้นตัว บวกต่อ CPF

· August Top Picks: BCPG, GPSC, TVO, TOP, TIDLOR, KCE, PM
2H21 Stock Picks : ADVANC, KCE, SAT, AMATA, BDMS, GPSC, GULF, CRC, TIDLOR / Mid-small Cap : PM, ICHI, SAPPE

2H21 Equity Outlook : At a crossroads : Policy normalization risks

Stock Best Picks : ADVANC, KCE, SAT, AMATA, BDMS, GPSC, GULF, CRC, TIDLOR
Mid-small Cap Picks : PM, ICHI, SAPPE

Fundamental & Tactical Daily Top Picks :

GULF (TP22F 44.4*): S 36/35 R 38/38.5 (Stop Loss: 32.75)
  · Theme: Powerplant play
· Earnings Outlook: ภาพการเติบโตดีทั้งระยะยาวและระยะสั้น โดยคาดจะมีแผน COD โรงไฟฟ้าเพิ่มอีกเท่าตัวจากปัจจุบัน 2.7 พัน MW เป็นกว่า 6.2 พัน MW ใน 2023F โดยคาดกำไร 21F เติบโตสูง +127%y-y ที่ 9.7 พันลบ. โดยปัจจัยต้องติดตามช่วงถัดไป คือ แผนกลยุทธ์ในการต่อยอดธุรกิจหลังเข้าถือ INTUCH รวม 42.25%

· Valuation: ราคาเป็นจุดทยอยสะสมต่อการลงทุนกลางยาวได้ จากกำไรเติบโตสูง และ PER22F ลดเหลือ 30.5 เท่า

· Catalyst: ยังเป็นหุ้น Big cap ที่มีการเติบโตสูง และบริษัทจะให้ข้อมูล 10 ส.ค. นี้ ถึงแนวทางหลังเสร็จเทนเดอร์ INTUCH แล้ว

GPSC (TP22F 96.5*): S 78/77.25 R 79.5/81.5 (Stop Loss: 76.25)

  · Theme: Powerplant Play
· Earnings Outlook: ผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าที่มีความต่อเนื่องของธุรกิจ มี Equity MW ราว 5,055 MWe (COD แล้ว 4,762 MWe) และมีธุรกิจ Battery หนุน พร้อมเติบโต Megatrend จากทั้ง EV, โรงไฟฟ้า renewable และโรงงานอุตสาหกรรม โดยคาดธุรกิจแบตเตอรี่ของ GPSC โตสูงเฉลี่ย +60% CAGR ใน 2022-30F และสัดส่วนรายได้เพิ่มจาก 0.1% ใน 2021F เป็น 6.5% ในปี 2030F โดยประเมินกำไรปกติ 2021-23F ของ GPSC อยู่ที่ 8.7 พันลบ., 1.15 หมื่นลบ. +16%, +32% y-y ตามลำดับ โดยกำไร 2H21F ยังดีต่อ คาด + y-y, +h-h

· Valuation: มองราคาหุ้นยังเป็นจุดซื้อสะสม โดยมี PER21F ที่ 25 เท่า และมี dividend yield 2-3% ต่อปี

· Catalyst: นักวิเคราะห์ปรับเพิ่ม TP22F เป็น 96.5 บาท จากการรวม 2 ดีลล่าสุดโรงไฟฟ้าอินเดีย + ไต้หวัน + โรงไฟฟ้าน้ำ (10% ของกำไรรวม) มีปริมาณน้ำมาก และมีการระบายน้ำจากจีนมาอย่างต่อเนื่อง + ธุรกิจ Battery (new S-curve) ที่หนุนการเติบโตในระยะยาว อยู่ในตลาดที่เติบโตสูงเป็นอับดับต้นของโลก

- Advertisement -