บล.เอเซียพลัส :
กำไร 2Q64 สดใส … 2H64 ยังเติบโตต่อ

GPSC รายงานกำไรสุทธิงวด 2Q64 เติบโต 16.7%qoq ดีกว่าคาดเล็กน้อยหนุนหลักจากกำไรปกติที่เพิ่มขึ้น 10.5%qoq และรายการพิเศษรับรู้ค่าชดเชยประกันบางส่วนของ GLOW Energy phase 5 ส่วน 2H64 แนวโน้มกำไรปกติปรับตัวขึ้นเล็กน้อยจาก 1H64 หนุนหลักจากผลประกอบการโรงไฟฟ้า XPCL และ เงินปันผลรับ RPCL ที่คาดจะเพิ่มขึ้นในงวด 3Q64 ก่อนจะเริ่มอ่อนตัวลงใน 4Q64 รวมถึงรายได้จากโครงการใหม่ๆที่เริ่มรับรู้ในช่วง 2H64

ประเมิน FV ปี 2564 เท่ากับ 88.75 บาท/หุ้น ภาพรวมทั้งปียังเห็นการเติบโต 11%yoy จากการรับรู้โครงการใหม่ๆหลายโครงการ อีกทั้งช่วงสั้นกำไร 3Q64 คาดจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง QoQ ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันยังมีupside กว่า 13% แนะนำให้หาจังหวะทยอยซื้อสะสมลงทุน รับการเติบโตระยะยาว

2Q64 กำไรสุทธิและกำไรปกติ เติบโตต่อ 16.7%qoq และ 10.5%qoq
GPSC รายงานกำไรสุทธิงวด 2Q64 เพิ่มขึ้น 16.7%qoq มาอยู่ที่ 2.3 พันล้านบาท ดีกว่าที่คาดเล็กน้อย โดยกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นได้รับแรงหนุนจากกำไรจากการดำเนินงานปกติที่เพิ่มขึ้น 10.5%qoq มาอยู่ที่ 2.5 พันล้านบาท จากส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วมที่เติบโตถึง 150.8%qoq มาอยู่ที่ 519.3 ล้านบาท หนุนหลักจากผลประกอบการโรงไฟฟ้า XPCL ที่ดีขึ้นจากปริมาณน้ำที่เริ่มปรับตัวสูงขึ้นตามช่วงฤดูกาล

ประกอบกับกำไรขั้นต้นที่ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย 0.9%qoq มาอยู่ที่ 3.3 พันล้านบาท จากรายได้ขายไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น 9.6%qoq มาอยู่ที่ 1.8 หมื่นล้านบาท จากรายได้ขายไฟฟ้าให้กับทางภาครัฐ (EGAT) และกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม (IU) ของกลุ่มโรงไฟฟ้า IPP และ SPP ที่เพิ่มขึ้นตามช่วงฤดูกาล อีกทั้งโรงไฟฟ้า GLOW Energy phase 5 กำลังการผลิต 328 MWe (GPSC ถือหุ้น 100%) กลับมาเดินเครื่องได้ตามปกติหลังจากที่มีการหยุดฉุกเฉินเต็มไตรมาสในงวดก่อนหน้า และโรงไฟฟ้า GHECO-One กำลังการผลิต 429 MWe (GPSC ถือหุ้น 65%) มีการเดินเครื่องได้มากขึ้น

โดยในงวดนี้มีมีการการหยุดซ่อมบำรุงนอกแผนงานเป็นเวลา 20 วันเทียบกับงวด 1Q64 ที่มีการหยุดซ่อมบำรุงตามแผน 37 วัน และรายได้จากกลุ่มโรงไฟฟ้า VSPP ที่เพิ่มขึ้นจากผลประกอบการโรงไฟฟ้า solar ISP1 ประเทศญี่ปุ่น ที่มีค่าความเข้มแสงสูงขึ้นตามช่วงฤดูกาล ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ในงวดนี้ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 18.3% จาก 19.9% ในงวด 1Q64 เนื่องจากราคาต้นทุนก๊าซธรรมชาติ และถ่านหินปรับตัวเพิ่มขึ้น 5%qoq และ 26%qoq มาอยู่ที่ 236 บาท/ล้านบีทียู และ 87.7 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน ตามลำดับ ประกอบกับยังมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงนอกแผนงานที่เพิ่มขึ้นจากโรงไฟฟ้า GHECO-One และ GLOW CFB 3 ที่หยุดฉุกเฉินเป็นเวลา 20 วันและ 17 วัน ตามลำดับ

นอกจากนี้ยังมีแรงหนุนจากค่าใช้จ่ายทางภาษีที่ปรับตัวลดลง 23.2%qoq มาอยู่ที่ 347.6 ล้านบาท จากอัตราภาษีที่ลดลง หลังจากโรงไฟฟ้า GLOW Energy phase 5 ซึ่งยังมีสิทธิประโยชน์จาก BOI สามารถกลับมาเดินเครื่องได้ตามปกติ

แต่อย่างไรก็ตามในงวดนี้มีการบันทึกปันผลรับจากบริษัทราชบุรีเพาเวอร์ จำกัด ลดลง 97.0%qoq เหลือเพียง 2.7 ล้านบาท

สำหรับรายการพิเศษในงวดนี้มีการบันทึกเป็นผลขาดทุนสุทธิลดลง 34.6%qoq มาอยู่ที่ 176.1 ล้านบาท ประกอบด้วย 1) เงินชดเชยค่าประกันบางส่วนของโรงไฟฟ้า Glow Energy Phase 5 จำนวน 310 ล้านบาท จากการหยุดเดินเครื่องนอกแผนงาน (unplanned outage) เมื่อวันที4 มิถุนายน – 18 ตุลาคม 2563 และวันที่ 6 ธันวาคม 2563 – 1 เมษายน 2564 2) ผลขาดทุน Fx และการวัดมูลค่าเครื่องมือทางการเงิน สุทธิ 68.1 ล้านบาท 3) ค่าตัดจำหน่ายสินทรัพย์สุทธิ GLOW 418.0 ล้านบาท เทียบกับงวด 1Q64 ที่เป็นผลขาดทุนสุทธิ 269.2 ล้านบาท ประกอบด้วย 1) กำไรจากการขายหุ้นบริษัทย่อย GRP 115.0 ล้านบาท 2) กำไรจาก Fx และการวัดมูลค่าเครื่องมือทางการเงินสุทธิ 2.2 ล้านบาท และ 3) ค่าตัดจำหน่ายสินทรัพย์สุทธิ GLOW 386.0 ล้านบาท

โดยรวมแล้วกำไรสุทธิ และกำไรปกติ1H64 คิดเป็น 51.6% และ 47.3% ของประมาณการทั้งปี 2564 ที่ฝ่ายวิจัยประเมินไว้ตามลำดับ

ทิศทางกำไรปกติ 2H64 ดีขึ้นเล็กน้อยจาก 1H64 ช่วงสั้น 3Q64 คาดเติบโต QoQ

ฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการกำไรปกติปี 2564 ไว้ที่ 9.9 พันล้านบาท เติบโต 11.4%yoy โดยคาดกำไรปกติในช่วง 2H64 จะเติบโตขึ้นเล็กน้อยจาก 1H64 ซึ่งในช่วงสั้นคาดงวด 3Q64 จะเติบโตขึ้นต่อเนื่อง QoQ หนุนจากผลประกอบการโรงไฟฟ้า XPCL ที่คาดจะเติบโตทำระดับสูงสุดในช่วง 3Q64 จากเข้าสู่ช่วง High season ของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ และการรับรู้รายได้จากเงินปันผลรับของโรงไฟฟ้าราชบุรีเพาเวอร์ ที่โดยปกติจะจ่ายปันผลหลักในช่วงไตรมาส 3 ของทุกปี

รวมถึงคาดจะมีแรงหนุนบางส่วนจากการรับรู้โครงการ WTE 9.8 Mwe และ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Sheng Yang 25.1 Mwe ได้เต็มไตรมาสในครั้งแรก และเริ่มรับรู้โครงการโรงไฟฟ้า solar India 579 MWe (GPSC ถือหุ้น 41.6%) ที่เข้าซื้อกิจการในเดือนกรกฏาคม 2564 จึงคาดจะเป็นส่วนช่วยชดเชยรายได้จากการขายไฟฟ้าให้กับทางภาครัฐ (EGAT) ที่จะเริ่มลดลงหลังผ่านพ้นช่วงฤดูร้อนใน 2Q64 มาแล้วและต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่คาดจะปรับตัวสูงขึ้น QoQ

ขณะที่ 4Q64 คาดกำไรปกติปรับลดลง QoQ จากรายได้ขายไฟฟ้าให้แก่ทางภาครัฐของกลุ่มโรงไฟฟ้า IPP ที่ลดลงต่อเนื่องตามช่วงฤดูกาล และผลประกอบการของโรงไฟฟ้า XPCL ที่เริ่มอ่อนตัวลงหลังผ่านพ้นจุด peak ใน 3Q64 มาแล้ว ประกอบกับคาดจะไม่มีรายได้ปันผลรับจากโรงไฟฟ้าราชบุรีเพาเวอร์ดังที่เคยบันทึกใน 3Q64

- Advertisement -