บล.คันทรี่ กรุ๊ป:

BCH: ธุรกิจหลักจะหนุนกําไรปี 2022-23

การประชุมนักวิเคราะห์มีน้ำหนักเป็นบวก คาดกำไร 4Q21 จะโตแข็งแกร่ง YoY จากกลุ่มคนไข้เงินสดและประกันสังคม สืบเนื่องจากยอดคนไข้ COVID-19 ที่ยังสูงกว่า 2Q21 ทบต้นกับรายได้วัคซีนทางเลือกที่เพิ่มเข้ามา

  • ประเมินกําไร 4Q21 ที่ 1.5 พันล้านบาท (+430YoY) มีแรงหนุนจากรายได้ธุรกิจหลักที่แข็งแกร่งและจากวัคซีน ทางเลือก
  • แม้รายได้เคส COVID-19 จะลดลงไปมาก แต่คาดว่ากําไรปี 2022-23 จะมีแรงหนุนมาจากการกลับมาของจํานวนคนไข้ท่ัวไป (24%-28% YoY) รวมถึงผู้ประกันตนโครงการประกันสังคมท่ีมากขึ้น (CAGR 3 ปี ท่ี 11%) และบริการด้านวัคซีน

คงคําแนะนํา “ถือ” ด้วยมูลค่าพื้นฐานใหม่ที่ 21 บาท (-16% จากเป้าเดิม) อิง 21xPE’22E หรือใกล้เคียงกับจุดต่ำรอบ 8 ปี แม้คาดว่ากําไรจะลดลงอย่างมากในปี 2022 แต่กำไรปกติที่โตและมั่นคงมากขึ้นจะหนุนภาพรวมในระยะยาวได้ ดังนั้นราคาที่ย่อตัวลงในช่วงล่าสุด (-27%) จึงเป็นโอกาสในการเข้าสะสมที่ดี

ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์

  • BCH รายงานกำไรสุทธิ 3Q21 ที่ 2.9 พันล้านบาท (+601%YoY, +153%QoQ) มีรายได้จากเคส COVID-19 ราว ๆ 5.6 พันล้านบาท (71% ของรายได้รวม) ที่ช่วยหนุนทิศทางรายได้ QoQ ขึ้น
  • บริษัทประเมินจำนวนคนไข้ทั่วไปที่ปรับสูงขึ้นในปี 2022 จาก 1) การกลับมาของจำนวนคนไข้ทั่วไป โดยเฉพาะผู้ป่วยนอก (OPD) (ที่ไม่ใช่เคส COVID-19) ซึ่งคาดว่าจะเติบโตสูงกว่าระดับใน 9M21E จาก 8.3%YoY มาสู่ระดับที่สูงกว่า 20%YoY 2) อุปสงค์ที่สะสมจากช่วงก่อน (pent-up demand) สำหรับบริการเคสอื่นๆ ที่ไม่ใช่ COVID-19 3) การขยายตัวของฐานคนไข้ใหม่เป็น 2.07 ล้านราย (2020-21) จากบริการตรวจหาเชื้อ COVID-19 และการรักษาคนไข้ในประเทศ ต่างชาติ และคนไข้ประกันสุขภาพ และ 4) มาตรการเยียวยาที่จะมาช่วยกระตุ้นการเติบโตในกลุ่มคนไข้ต่างชาติอีกแรง
  • ผู้บริหารให้ตัวเลขแนวทางว่าโควต้าประกันสังคมและยอดผู้ประกันตนจะโตขึ้น 23%-24%YoY บริษัทจึงคาดว่ารายได้ต่อหัวจะเพิ่มขึ้น 5% จากอัตราการดำเนินงานที่สูงขึ้น สำหรับบริการที่มีค่าใช้จ่ายสูงและจาก pent-up demand ในกลุ่มบริการเคสอื่นๆ ที่ไม่ใช่ COVID-19
  • บริษัทมีแผนการเปิดให้บริการศูนย์เวชศาสตร์ชะลอวัย และศูนย์บริการทางการแพทย์เฉพาะทาง 5 แห่ง การขยายกิจการในส่วนนี้จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (OPEX) ในส่วนการว่าจ้างภายนอกลงได้ราวๆ 30% (20 ล้านบาท/ปี)
  • ทางโรงพยาบาลมีวัคซีน Moderna ล็อตที่ 1 อยู่ 1.06 ล้านโดส ซึ่งจะเป็นส่วนที่ช่วยหนุนกำไรใน 4Q21-1Q22 ส่วนล็อตที่ 2 อีก 1.02 ล้านโดส จะช่วยหนุนกำไรในปี 2022 หมายความว่ารายได้เคส COVID-19 จะไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่องผ่านวัคซีนทางเลือก
  • ผู้บริหารคาดว่ารายได้เคส COVID-19 ในปี 2022 จะลดลงเหลือเพียง 15% ของระดับในปี 2021 แต่รายได้จากวัคซีน Moderna จะช่วยชดเชยในส่วนนี้ได้ในระดับหนึ่ง

ปรับเพิ่มประมาณการกําไรปี 2021-23 ขึ้น 130%/31%/2% ตามลําดับ

การปรับเพิ่มประมาณการครั้งนี้สะท้อนถึงการปรับเพิ่มรายได้และอัตรากำไรขึ้น โดยมีการปรับเพิ่มรายได้ปี 2021-23 ขึ้น 42%/24%/12% เพื่อสะท้อนถึงจานวนคนไข้ทั่วไปที่โตขึ้น หนุนจาก pent-up demand สำหรับบริการเคสอื่นๆ ที่ไม่ใช่ COVID-19 และปรับเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ขึ้น 47/30/9ppts หลังจากบริการเคส COVID-19 ให้อัตรากำไรที่สูงกว่าคาด และจากประสิทธิภาพการดำเนินงานที่ดีขึ้น

นอกจากนี้ เราได้ปรับประมาณการกำไรปี 2022-23 ขึ้นเป็น 2.4 พันล้านบาท (-58%YoY) และ 1.9 พันล้านบาท (-21%YoY) ตามลำดับ

สรุปผลประกอบการ

  • BCH รายงานกำไรสทุธิ 3Q21 ที่แตะจุดสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 2.9 พันล้านบาท (+601%YoY, +153%QoQ)
  • การเติบโตทั้ง YoY และ QoQ มีแรงหนุนจากรายได้ที่เติบโตแข็งแกร่ง และอัตรากำไรที่ขยายตัวขึ้นมากกว่าคาด
  • รายได้พุ่งขึ้น 236%YoY และ 84%QoQ แตะจุดสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 8.0 พันล้านบาท มีแรงหนุนมาจากบริการที่ไม่ใช่เคส COVID-19 ที่ปรับดีขึ้น และบริการเคส COVID- 19 ที่ปรับสูงขึ้น
  • GPM ก็แตะจุดสูงเป็นประวัติการณ์เช่นกันที่ 53.7% (+7.3ppts QoQ) เป็นผลจากมาตรการควบคุมต้นทุนที่ดี และรายได้เคส COVID-19 ที่แข็งแกร่ง
  • อัตราส่วนค่ะใช้จ่ายการขายและบริหาร (SG&A) ต่อยอดขายลดลงเป็น 5% จาก 9% ใน 2Q21 ตามการเติบโตของรายได้

Revenue Breakdown

รายได้ของ BCH มาจาก 2 แหล่งหลัก คือ 1) กลุ่มคนไข้ทั่วไป และ 2) คนไข้โครงการประกันสังคมและสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ขณะที่คนไข้ทั่วไปคือกลุ่มที่ชำระค่าบริการด้วยตัวเอง และแบ่งออกเป็นกลุ่มผู้ป่วยนอก (OPD) และผู้ป่วยใน (IPD) ปัจจุบันกลุ่ม OPD คิดเป็น 37% ของรายได้ทั้งหมดของ BCH

ขณะที่กลุ่ม IPD คิดเป็น 27% ของรายได้ทั้งหมด โดยจะเป็นกลุ่มบริการเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ปัจจุบัน BCH และบริษัทย่อยมีเตียงรองรับกลุ่มนี้อยู่ 2,029 เตียง ด้วยห้องหลากหลายประเภท เช่น ห้อง VIP ห้อง Gold ห้อง Silver และห้องมาตรฐาน

ทั้งยังให้บริการทางการแพทย์กับผู้ประกันตนภายใต้โครงการรัฐ เช่น โครงการประกันสังคม และ สปสช.โดยกลุ่มนี้จะคิดเป็น 36% ของรายได้ทั้งหมด

- Advertisement -