บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง:

TMBThanachart Bank (TTB TB) ต้นทุนด้านการลงทุนเพิ่มขึ้น

ถือลด TP เป็น 1.45 บาท ชอบ KBANK และ KKP มากกว่า

เราชอบ TTB ที่เน้นคุณภาพสินเชื่อ เพื่อจำกัดความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ อย่างไรก็ตาม ต้นทุนต่อรายได้ลดลงช้ากว่าที่คาดไว้ เนื่องจากการเติบโตของรายได้ที่อ่อนแอ และ opex ที่เพิ่มขึ้น เราปรับลดคาดการณ์ EPS และ TP ปี 65-66 ลงเป็น 1.45 บาท (P/BV ปี 65 ที่ 0.64 เท่า ROE 8.1%) แม้เราจะคาดว่า TTB จะสร้างการเติบโตของกำไรต่อหุ้นในปี 65 สูงสุดที่ 18% ในบรรดากลุ่มแบงก์ แต่เราเห็นว่ามี upside ที่จำกัด เนื่องจากหุ้นซื้อขายบน PER ปี 65 ที่ 10.9 เท่า เราชอบ KBANK (PER 8.3 เท่า) และ KKP (PER 8.6 เท่า) มากกว่า เนื่องจากมีการประเมินมูลค่าและผลตอบแทนจากการปรับความเสี่ยงที่น่าดึงดูดมากกว่า

กำไร 4Q64 ดีกว่าคาด จากต้นทุนสินเชื่อที่ลดลง

TTB รายงานกำไรสุทธิ 2.8 พันล้านบาท สำหรับไตรมาส 4/64 เพิ่มขึ้น 127% YoY และ 19% QoQ ดีกว่าประมาณการของเรา 16% จากต้นทุนเครดิตที่ลดลง กำไรปี 64 เพิ่มขึ้น 4% YoY เป็น 1.05 หมื่นล้านบาท สินเชื่อลดลง 1.5% YoY นำโดยสินเชื่อธุรกิจ (-5.5% YoY) รายได้ Non-nii เพิ่มขึ้น 41% QoQ เนื่องจาก TTB ได้จัดประเภทค่าธรรมเนียม bancassurance ใหม่เป็นค่าใช้จ่าย HR โดยที่ TTB ตั้งสำรอง 5.0 พันล้านบาท (เทียบกับที่เราคาดการณ์ไว้ที่ 5.4 พันล้านบาท) ลดลง 39% จากปีก่อน หรือต้นทุนเครดิต 147bp ตั้งสำรองปี 64 ลดลง 13% YoY มาอยู่ที่ 2.15 หมื่นล้านบาท อัตราส่วน NPL ลดลง 20bps QoQ เป็น 3.07%

Opex จะลดลงช้ากว่าที่คาดในปี 65

TTB ประกาศเป้าหมายทางการเงินปี 65 เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว โดยรวมแล้วเรามองมุมลบเล็กน้อย โดยตั้งเป้าต้นทุนต่อรายได้ที่ 45-47% เทียบกับ 47.6% ในปี 2564 (เทียบกับที่เราคาดการณ์ไว้ที่ 46.1%) TTB จะใช้เงินลงทุนดิจิทัลสำหรับแพลตฟอร์มสินเชื่อเช่าซื้อ (HP) เพื่อสร้างระบบนิเวศ และจัดตั้งบริษัทในเครือใหม่ เช่น TTB Consumer ซึ่งตั้งเป้าเป็นผู้เล่น 4 อันดับแรกในธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ธนาคารมีแผนจะจัดตั้ง บริษัทใหม่หรือร่วมทุนกับ AMC อื่นๆ เพื่อจัดการหนี้เสียในส่วนธุรกิจค้าปลีก CEO ไม่สนใจในธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล เนื่องจากไม่ได้สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ

ลดคาดการณ์กำไรปี 65-66 เนื่องจาก NIM ที่ลดลง

TTB ตั้งเป้าการเติบโตของสินเชื่อ 2% นำโดยสินเชื่อรายย่อย ขณะที่สินเชื่อธุรกิจและสินเชื่อ SME ทรงตัว YoY ธนาคารตั้งเป้า NIM ทรงตัว YoY จากสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนสูงเพื่อชดเชยต้นทุนเงินทุนที่สูงขึ้น อัตราส่วน NPL จะเพิ่มขึ้นเป็น 3.2% ในปี 2565 จาก 2.8% ในปี 2564 จากลูกหนี้ที่ออกจากโครงการบรรเทาหนี้ต้นทุนเครดิตคาดอยู่ที่ 140-160bps ในปี 2565 (เทียบกับที่เราคาดการณ์ไว้ที่ 150bps) ลดลงจาก 157bps ในปี 2564 เราปรับลดกำไรปี 65 66 ลง 5% เพื่อสะท้อนสมมติฐาน NIM ที่ลดลง และคาดว่ากำไรจะเติบโต 15-18% ในปี 65 -66

- Advertisement -