บล.เอเซีย พลัส:
ผ่านพ้นช่วงมรสุม ..กําไรเติบโตตั้งแต่ 4Q64
แนวโน้มเม็ดเงินสื่อโฆษณานอกบ้าน 4Q64 เติบโตแบบ V-Shape หลังสถานการณ์โควิดเร่ิมคลี่คลาย ส่งผลบวกต่อรายได้โฆษณาสื่อนอกบ้าน และอัตราการใช้สื่อที่เร่ิมกลับสู่ระดับปกติ คาดการณ์กําไรสุทธิ 4Q64 ท่ี 105 ล้าน บาท พลิกจากขาดทุนไตรมาสท่ีแล้วอยู่ท่ีราว 54 ล้านบาท ส่งผลให้ภาพรวมปี 2564 มีกําไร 18 ล้านบาท หลังจากงวด 9M64 มีขาดทุนสูงถึง 87 ล้านบาท
แผนธุรกิจปี 2565 น่าสนใจ รวมถึงดีล M&A ใหม่ท่ีจะใช้เงินจากการเพิ่มทุน 1.0 พันล้านบาท ในการต่อยอดธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้านให้เติบโตได้ในระยะยาว ฝ่ายวิจัยประเมินมูลค่าเหมาะสมภายใต้วิธี DCF อยู่ท่ี 7.80 บาท ไม่รวมมูลค่าเพิ่มจากดีลใหม่ที่จะมี Upside ต่อประมาณการกําไรปี 2565 อย่างมีนัยสําคัญ ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนเร็วๆนี้ แนะนํา ซื้อ เมื่อราคาอ่อนตัว
คาดกําไร 4Q64 ทําจุดสูงสุดของปี
หลังเจอมรสุมจากโควิดทําให้ PLANB ประสบผลขาดทุนอย่างหนัก โดยงวด 9M64 มีผลขาดทุนสุทธิอยู่ท่ี 87.2 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม คาดกําไรสุทธิ 4Q64 อยู่ท่ี 105.2 ล้านบาท ทําจุดสูงสุดของปี พลิกจากขาดทุนไตรมาสที่แล้วอยู่ที่ 53.5 ล้านบาท ส่งผลให้ปี 2564 PLANB จะมีกําไรสุทธิ 18 ล้านบาท ฝ่ายวิจัยมองว่าผลประกอบการของ PLANB ได้รับปัจจัยหนุนจาก
1.) การเปิดประเทศ กิจกรรมทางเศรษฐกิจท่ีกลับมา ทําให้ผู้คนออกมาใช้ชีวิตอยู่นอกบ้านมากขึ้น ส่งผลให้จํานวน Eyeballs ต่อป้ายโฆษณาปรับข้ึนตาม
2.) ปัจจัยหนุนจากช่วง High Season ของอุตสาหกรรมสื่อโฆษณาท่ีเอเจนซี่กลับมาทุ่มงบโฆษณาอีกคร้ัง สังเกตได้จากเม็ดเงินสื่อโฆษณานอกบ้านในเดือนธันวาคม ปี 2565 อยู่ที่ 645 ล้านบาท (+15%MoM) ทําจุดสูงสุดของปี หากนับเฉพาะในช่วง 4Q64 อยู่ที่ราว 1,673 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มข้ึนถึง 27%QoQ
3.) อัตราการใช้สื่อโฆษณา (Utilization Rate) ใน 4Q64 คาดอยู่ที่ราว 50.6% ( 3Q64 Utilization Rate 33.8%) สะท้อนความเช่ือมั่นของผู้ประกอบการ เจ้าของแบรนด์ และเอเจนซี่
จากปัจจัยหนุนข้างต้น ฝ่ายวิจัยคาดการณร์ายได้ธุรกิจสื่อโฆษณาใน 4Q64 อยู่ท่ี 957 ล้านบาท (+50%QoQ) ส่วนรายได้ธุรกิจการตลาดแบบมีส่วนร่วมคาดอยู่ท่ี 200 ล้านบาท (-57%QoQ) หลักๆลดลงจากรายได้โอลิมปิกที่หายไปราว 150 ล้านบาท ที่รับรู้ใน 3Q64 เป็นไตรมาสสุดท้าย ด้วยโครงสร้างต้นทุนของ PLANB ส่วนใหญ่เป็น Fixed Cost ส่งผลให้ Gross Margin 4Q64 คาดอยู่ท่ี 20% เพิ่มขึ้นจากงวด 3Q64 ที่มี Gross margin ต่ำเพียง 3% นอกจากนี้ฝ่ายวิจัยคาดว่า PLANB จะมีกําไรพิเศษจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรมของ MACO-W3 เป็นตัวเสริมอีกราว 40 ล้านบาท
แนวโน้มกําไรปี 2565 จะเห็นการเติบโตที่สูง
ฝ่ายวิจัยคาดแนวโน้มผลประกอบการในปี 2565 จะเติบโตสูงจากฐานกําไรที่ต่ำในปีก่อน โดยปัจจัยขับเคลื่อนหลักๆ มาจากธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้านท่ีเห็นแนวโน้มการฟื้นตัวของเม็ดเงินโฆษณาอย่างชัดเจนตั้งแต่ 4Q64 เป็นต้นไป รวมถึงอัตราการใช้สื่อที่คาดจะกลับมาสู่ระดับปกติท่ี 60-70%, แผนการขยายสื่อโฆษณาในเซเว่นอีเลฟเว่น ณ สิ้น 4Q64 อยู่ที่ประมาณ 1,929 สาขา โดยในปี 2565 มีแผนจะขยายเพิ่มเป็น 3,000 สาขา, สัญญาการจ่ายค่า Minimum Guarantee ให้กับ MACO ที่หายไปราว 662 ล้านบาทต่อปี และรายได้ จาก Sport marketing จากอีเวนต์โอลิมปิกฤดูหนาวและเอเชียนเกมส์ในปีนี้ รวมถึงดีลซื้อสินทรัพย์ประเภทป้ายโฆษณานอกบ้าน โดยใช้เงินจากการเพิ่มทุนใน 3Q64 ราว 1,000 ล้านบาท เพื่อต่อยอดธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้าน ช่วยเพิ่ม Media Capacity ให้กับ PLANB อย่างมีนัยสําคัญ โดยดีลดังกล่าวคาดว่าจะมีความชัดเจนเร็วๆนี้ ผลประโยชน์ท่ีคาดหวังคือ PLANB สามารถ Consolidate อุตสาหกรรมสื่อโฆษณานอกบ้านได้เกือบทั้งหมด ทําให้มีอํานาจการต่อรองกับ Supplier ท่ีเพิ่มข้ึน, ลดการแข่งขันในอุตสาหกรรมลง และสามารถนําป้ายโฆษณาที่มีหลากหลายประเภท และ Location จัด Package ให้เหมาะสมและเข้าถึงลูกค้าได้ทุกกลุ่ม
แนะนําซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว…มูลค่าเหมาะสมปี 2565 อยู่ท่ี 7.80 บาท
แม้ฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการกําไรปี 2565-66 ไว้เท่าเดิม โดยประเมินค่อนข้าง Conservative อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัยยังมีมุมมองเชิงบวกต่อแผนการขยายธุรกิจในปี 2565 รวมถึงการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมสื่อนอกบ้าน และให้น้ําหนักกับดีล M&A ที่คาดว่าจะเกิดข้ึนในเร็วๆนี้ ซึ่งฝ่ายวิจัยยังไม่ได้ข้อมูลอย่างละเอียดจึงไม่ได้รวมไว้ในประมาณการ ถึงแม้ราคาหุ้น PLANB ช่วง 3 เดือนท่ีผ่านมา จะมีการปรับตัวข้ึนจนเต็มมูลค่าพื้นฐานท่ีประเมินภายใต้วิธี DCF (WACC 8.1%, Terminal Growth 2%) อยู่ท่ี 7.80 บาท แต่ฝ่ายวิจัยเช่ือว่ายังมี Upside จากดีลใหม่ในคร้ังน้ี แนะนําซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว
ประเด็นความเสี่ยง
- จํานวนผู้ติดเชื้อโอไมครอนที่เริ่มสูงขึ้น อาจส่งผลต่อเม็ดเงินโฆษณาโดยรวมที่หดตัวลง
- อัตราการใช้สื่อโฆษณาอาจต่ำกว่าคาด หากสถานการณ์ผู้ติดโอไมครอนกลับมาเร่งตัวข้ึน
