บล.เอเซีย พลัส:
TOTAL ถอนตัวโครงการยาดานาในพม่า
PTTEP ได้รับแจ้งจากบริษัท Total Energies EP Myanmar ว่าจะขอถอนตัวจากการเป็นผู้ร่วมทุนและผู้ดําเนินการโครงการยาดานาและในบริษัท MGTC ซึ่งดําเนินธุรกิจท่อส่งก๊าซจากโครงการฯ ปัจจุบัน PTTEP ถือหุ้นในโครงการ ดังกล่าว 25.5% โดยกําลังการผลิตตามสัดส่วนถือหุ้นคิดเป็นเพียง 2-3% ของกําลังการผลิตปัจจุบันของ PTTEP ดังนั้น เบื้องต้นหากเกิดกรณีเลวร้ายสุดหยุดผลิต คาดผลกระทบก็ไม่มีนัยฯ ท้ังน้ี PTTEP อยู่ระหว่างการพิจารณาโดยจะนําเสนอความคืบหน้าอีกครั้ง
TOTAL ขอถอนตัวจากการเป็นผู้ร่วมทุน และผู้ดําเนินการโครงการยาดานาในพม่า เบื้องต้นในกรณีเลวร้ายสุดคาดผลกระทบไม่มีนัยฯต่อ PTTEP ซึ่งถือหุ้นอยู่ 25.5%
PTTEP International Limited (PTTEPI) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ PTTEP และเป็นผู้ร่วมทุนในโครงการยาดานา ซึ่งเป็นแหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติในประเทศเมียนมา ได้รับแจ้งจากบริษัท TotalEnergies EP Myanmar เมื่อวันที่ 21 ม.ค. 2565 ว่าจะขอถอนตัวจากการเป็นผู้ร่วมทุนและผู้ดําเนินการในโครงการยาดานา และในบริษัท Moattama Gas Transportation Company (MGTC) ซึ่งดําเนินธุรกิจท่อส่งก๊าซจากโครงการฯ อย่างไรก็ ตาม บริษัท TotalEnergies EP Myanmar จะยังคงเป็นผู้ดําเนินการในโครงการต่อไปอีก 6 เดือน เพื่อรักษาความต่อเนื่องในการผลิตก๊าซธรรมชาติของโครงการ
ปัจจุบันโครงการผลิตก๊าซธรรมชาติยาดานา และ MGTC ประกอบด้วยผู้ร่วมทุน ได้แก่ บริษัท TotalEnergies EP Myanmar ถือสัดส่วน 31.2375% และเป็นผู้ดําเนินการบริษัท Unocal Myanmar Offshore Company Limited (UMOCL) 28.2625% บริษัท PTTEPI 25.5% และ Myanma Oil and Gas Enterprise (MOGE) 15%
ท้ังน้ี PTTEP อยู่ระหว่างการพิจารณาแนวทางการบริหารจัดการในเรื่องน้ี โดยจะคํานึงถึงประโยชน์สูงสุดด้านความมั่นคงทางพลังงานของประเทศไทยและเมียนมาเป็นสําคัญ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้พลังงานของประชาชนทั้งสองประเทศ หากมีความคืบหน้า PTTEP จะแจ้งให้ทราบต่อไป
ซึ่งหากพิจารณาในรายละเอียดเบื้องต้นพบว่า โครงการยาดานาซึ่ง PTTEP ถือหุ้น 25.5% นั้นมีกําลังการผลิตปัจจุบันตามสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ราว 8 พันบาร์เรลเทียบเท่าน้ํามันดิบต่อวัน หรือคิดเป็นเพียง 2% ของกําลังการผลิตของ PTTEP ท้ังหมด ซึ่งถือว่าไม่มีนัยฯ อีกท้ังสัญญา PSC ของโครงการดังกล่าวจะหมดอายุลงในปี 2571 และมีมูลค่าทางบัญชีเหลืออยู่ราว 160-170 ล้านเหรียญฯ ซึ่งจากการสอบถามรายละเอียดจาก PTTEP พบว่า ระหว่างน้ีช่วง 6 เดือน ก็จะเป็นการหา operator ใหม่ ซึ่งหากหาได้และดําเนินการผลิตปกติก็ยังไม่ต้องมีการทบทวน impairment โดยฝ่ายวิจัยจะนําเสนออีกคร้ังหากได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจาก PTTEP
ประเมินมูลค่าพื้นฐานสิ้นปี 2565 ในปัจจุบันท่ี 149 บาทต่อหุ้น แนะนําซื้อลงทุนระยะยาว จากโครงการใหม่ทยอยหนุนกําไรแข็งแกร่ง อีกทั้งในช่วงท่ีผ่านมาราคาหุ้นถือว่ายัง laggard ราคาน้ํามันอยู่มาก
