บล.ฟิลลิป:

วีจีไอ–VGI ส่วนแบ่งขาดทุน ฉุด 2H65 แต่ธุรกิจจะดีขึ้นในปีหน้า

คาด 3Q65 ขาดทุนปกติเพิ่มขึ้น q-q, y-y แม้เม็ดเงินโฆษณาฟื้น แต่ขาดทุนบริษัทร่วม

คาด 3Q65 ขาดทุนสุทธิเพิ่ม q-q และ y-y เป็น 86 ล้านบาท จาก 2Q65 ขาดทุน 9 ล้านบาท (ขาดทุนปกติ 101 ล้านบาท และมีกำไรจากตราสารการเงินเข้ามา 92 ล้านบาท) และ 3Q64 มีกำไรสุทธิ 713 ล้านบาท จากบริษัทร่วมที่มีการปรับมูลค่าหุ้น KEX หลังเข้า SET หากไม่นับรวมจะมีกำไรปกติราว 200 ล้านบาท คาดรายได้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ 106.4% y-y และ 52% q-q ที่ 1,403 ล้านบาท มาจากรวมงบแฟนสลิงค์ฯเต็มไตรมาสจาก 2Q65 ท่ีเร่ิมรวมงบได้ 2 เดือน และธุรกิจสื่อมีอัตราการขายดีขึ้นเป็น 40-45% จาก 2Q65 ท่ี 28% ตามผู้โดยสารบีทีเอสท่ีฟื้นตัวตามสถานการณ์ COVID-19 และสื่อดิจิทัลจากค่าธรรมเนียมประกันที่เพิ่มขึ้น และเม็ดเงินโฆษณาฟื้น q-q ต้นทุนจะไปในทิศทางเดียวกัน อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น q-q เป็น 19.6% จาก 18.1% และสื่อโฆษณามีอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น แต่แฟนสลิ้งค์ฯท่ีมีอัตรากำไรขั้นต้นเพียง 8% และมีสัดส่วนในรายได้ท่ีราว 49% บริษัทร่วมยังไม่ดีจาก ผลกระทบ COVID-19 และการแข่งขันคาดจะรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนเพิ่มขึ้นq-q และ y-y เป็น 61 ล้านบาท และดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้นจากการกู้เงินมาซื้อหุ้น JMART

ปีบัญชี 2566 (เม.ย. 65 – มี.ค. 66) คาดดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจและ COVID-19

ใน 4Q65 (ม.ค.-มี.ค.65) คาดจะอ่อนตัวลง q-q ทั้งจากฤดูกาล และ COVID-19 ที่กลับมาระบาดใหม่ ทำให้ผู้โดยสารบีทีเอสกลับมาชะลอตัว รวมถึงมาตรการ WFH ที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลกระทบต่อเม็ดเงินโฆษณาสื่อนอกอาคารของ VGI ชะลอตัว แต่ในปี 2566 (เม.ย.65–มี.ค.66) มองสถานการณ์ดีขึ้นจากตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19 มากเท่าช่วง 2Q65 (ก.ค.-ก.ย.64) และสายพันธ์ุ “โอมิครอน” มีอาการไม่รุนแรง อีกทั้ง ศบค . ไม่ได้มีมาตรการที่เข้มงวดมากขึ้น ทำให้แนวโน้มเศรษฐกิจจะดีขึ้นจากปีก่อน ส่งผลดีต่อเม็ดเงินโฆษณาที่อิงกับภาวะเศรษฐกิจ โดย ธปท. คาดจีดีพีปี 2565-2566 ที่ 3.4% และ 4.7% จากปี 2564 ท่ี 0.9% แนวโน้มรายได้จากสื่อนอกอาคารและดิจิทัลของ VGI จะฟื้นตัว รวมถึงบริษัทร่วมคาดจะกลบัมาดีขึ้นเช่นกัน อีกทั้งจะรับรู้แฟนสลิ้งค์ฯ และส่วนแบ่งกำไรจาก JMART ท่ีเข้าถือหุ้น 15% เต็มปี และยังมี Synergy ร่วมกับ JMART เช่น การขายสินค้าของแฟนสลิ้งค์ฯ ผ่าน สาขา JMART และ SINGER จากเดิมอยู่ในออนไลน์เป็นหลัก หนุนการเติบโตของแฟนสลิ้งค์ฯ, การเช่าพื้นที่บนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสของ JMART ในการเป็นจุดรับสินค้าและบริการ และการให้บริการสื่อโฆษณา-การตลาดให้กับกลุ่ม JMART นอกจากนี้ ยังรุกธุรกิจบริการชำระเงินผ่าน “แรบบิทแคช” ท่ีถือหุ้น 77% ร่วมกับ AEONTS และ HUMAN ในการให้บริการสินเช่ือผ่านดิจิทัล ทั้งสินเชื่อสวัสดิการ (Welfare Loan), สินเช่ือเงินด่วน (Payday Loan) ที่มุ่งเน้นกลุ่มผู้มีรายได้ประจำ, สินเช่ือนาโนท่ีมุ่งเน้นกลุ่มผู้ไม่มีรายได้ประจำรายได้ประจำ และบริการสินเชื่อ Buy Now Pay Later โดยตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อในปีแรกได้ 2-3 พันล้านบาท

ยังคงประมาณการปี 2565 และ 2566 ไว้ ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”

ยังคงคาดกำไรปี 2565 และ 2566 ไว้ท่ี 145 ล้านบาท และ 832 ล้านบาทไว้ก่อน และจะประเมินอีกครั้งหลัง ประกาศงบ 3Q65 และการประชุมนักวิเคราะห์ในปี 2565 มองธุรกิจสื่อน่าจะดีขึ้น แต่ยังมีความกังวลต่อบริษัทร่วมอยู่บ้าง บนวิธี SOTP (รวมมูลค่าในการถือหุ้น PLANB, MACO, KEX, JMART) ราคาพื้นฐานอยู่ที่ 7.50 บาทยังคงแนะนำ “ซื้อ”

- Advertisement -