บล.เอเอสแอล: (ภาคเช้า) 24/03/65

รอการประชุม NATO // trading ในกรอบ 1668-1685

ตลาดหุ้นวานนี้… SET Index ปิดที่ระดับ 1,677.95 จุด เพิ่มขึ้น 0.08 จุด (+0.00%) มูลค่าการซื้อขาย 70,229.50 ล้านบาท ได้แรงหนุนจากโมเมนตัมเชิงบวกในตลาดต่างประเทศ แต่ยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ ที่จะเข้ามาเป็น แรงส่งให้ตลาดปรับตัวขึ้นแรงได้

แนวโน้มตลาดวันนี้… เราคาด SET Index มีแนวโน้ม sideway แนะนำ Selective buy โดย trading ในกรอบ 1668-1686 โดยมีประเด็นการลงทุนที่น่าสนใจดังนี้

(1) เราคาดว่ามีโอกาสที่ตลาดหุ้นไทยจะถูกทำ Window dressing สิ้นงวด 1Q65 จาก EYG ปัจจุบันของ SET Index ที่ยังน่าสนใจ โดยเราคาดว่าหุ้นที่มีโอกาสทำ Window dressing ในรอบนี้ ได้แก่ AOT KBANK SCB MINT HANA KCE CPN CPF MTC SAWAD SCC GPSC GULF CPALL JMART

(2) ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นกว่า 5% มองว่ากลุ่มพลังงานจะช่วยพยุงตลาดได้บ้าง แนะนําเก็งกำไร PTTEP PTT SPRC IVL

(3) 10-Year Breakeven inflation ปรับตัวขึ้นทำ All time high ที่ 2.94% สะท้อนความกังวลด้านเงินเฟ้อ หลังปธ.เฟดส่งสัญญาณ hawkish เป็นบวกต่อราคาทองคำ เก็งกำไร GLD

(4) ตลท. ยกระดับมาตรการกำกับซื้อขาย ให้ระดับ 3 ขึ้น SP 1 วันทำการ มีผล 4 เม.ย. เป็นปัจจัยกดดันต่อหุ้นที่มี P/E สูง รวมถึง growth stock ในขณะที่ ธปท. ได้ปรับปรุงเกณฑ์การลงทุนของธนาคารพาณิชย์ต่อธุรกิจ Fintech และ Digital Asset ซึ่งเรามีมุมมมองเป็นบวก โดยเฉพาะการยกเลิกเพดาน FinTech จากเดิม 3% ของเงินกองทุนธนาคาร เพื่อให้ธนาคารได้ลงทุนใน Digital asset มากขึ้น ประกอบกับมีหน่วยงานกำกับพอสมควรแล้ว เป็นบวกต่อ KBANK SCB WPG BROOK JMART JTS

(5) สถานการณ์โควิด-19 มีผู้ติดเชื้อทรงตัว 2.5-2.7 หมื่นราย/วัน ทั้งนี้ยังพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตาครอนในไทยแล้ว 73 ราย แต่อาการไม่รุนแรงมากนัก ทั้งนี้ต้องติดตามตัวเลขผู้ติดเชื้อหลังเทศกาลสงกรานต์ที่คาดว่าจะแตะระดับ 3 หมื่นราย/วัน ในเชิง sentiment เป็นบวกต่อกลุ่มการแพทย์ เราชอบ BDMS BCH THG IMH RAM SMD WINMED

(6) ติดตาม ตัวเลขส่งออก ก.พ. ของไทย คาดขยายตัว 10.4%YoY, การประชุม NATO กับสหรัฐ เพื่อกดดันรัสเซีย (24 มี.ค.)

เคาะไป คุยไป BBIK 

Investment Highlights

• BBIK ตั้งเป้ารายได้ปี 65 เติบโตราว 50% จากการที่ภาคธุรกิจเริ่มเปลี่ยนมาทำ digital transformation เพิ่มขึ้น สะท้อนผ่านเม็ดเงินลงทุนของภาคเอกชนที่เพิ่มการลงทุนในส่วนนี้มากขึ้น เพื่อเพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจในยุคดิจิทัล โดยการเติบโตมาจากทุกกลุ่มธุรกิจ เช่น บริการด้าน Big Data การให้บริการพัฒนาระบบดิจิทัล-เทคโนโลยีและการจัดการ นอกจากนี้จะเพิ่มขึ้นจากส่วน Strategic PMO เช่น การให้บริการทำการตลาดด้วยเทคโนโลยี และวางกลยุทธ์การตลาดครบวงจร ซึ่งได้รับความนิยมอยู่ในปัจจุบัน และได้รับงานใหม่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงตั้งเป้าการทำ JV-M&A 1 ดีลทุกปี
• ทั้งนี้ยังได้เข้าลงทุน GMVPI ในสัดส่วน 80% เพื่อเพิ่มขีดความสามารถ และการขยายฐานลูกค้าในการให้บริการระบบ SAP ซึ่งแนวโน้มลูกค้าที่ต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับระบบ SAP ยังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 65 บริษัทมีเป้าหมายในการเพิ่มรายได้จากบริการที่ปรึกษาด้าน SAP ไม่ต่ำกว่า 15 ล้านบาท ทั้งนี้ BBIK ได้เป็นพันธมิตรกับ OR ผ่าน ORBIT ในการทำ Digital Mobility & Lifestyle โดยโครงการแรกคือ All In One App คาดว่าปี 65 จะสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 150 ล้านบาท และในปีถัดๆ ไปจะมีอัตราการเติบโตของรายได้ 30-40% ตลอดจนพร้อมบุกตลาด ต่างประเทศที่มีศักยภาพผ่าน “บลูบิค โกลบอล” ได้แก่ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม พร้อมเตรียมขยายสู่ยุโรปและสหรัฐอเมริกาในปีพ.ศ. 2567 ซึ่งปัจจุบัน บริษัทมีรายได้จากตลาดต่างประเทศปี 64 ในสัดส่วน 14%

Investment Strategy

แนะนำ “เคาะ” แท่งเทียนเรียงตัวหรือแกว่งตัวขึ้นตามกันกับ SMA5วัน ที่ทำหน้าที่เส้นแนวรับขาขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ  สอดคล้องกับปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นสนับสนุนตามกัน แนวรับระหว่างวันเน้นยืนเหนือ 64.00 เป็นจุดพิจารณา แนวต้านจุดสูงแท่งเทียน 66.75 ผ่านยืนมั่นคงเป็นสัญญาณซื้อ แนวโน้มกลับตัวขึ้นรูปแบบ W ต่อเนื่อง

คำแนะนำของ ASL

กรณี “มีหุ้น” ถือ เพิ่มการลงทุน/แนวต้าน 66.75/70.75 มีโอกาสทดสอบ

กรณี “ไม่มีหุ้น” ซื้อระยะสั้นเน้นยืนแนวรับ 64.00/61.50 ไม่ควรต่ำกว่า

กระแสข่าวหุ้น

ประเด็นบวก

• ดีเดย์คุมคริปโต 1 เม.ย.นี้ ฮ้อคอยน์-เจฟินรอดหมด อ้างเป็นนิเวศฯ เฉพาะ ไม่ใช้ซื้อขายทั่วไป-ก.ต.ล. ประกาศคุมเหรียญคริปโต เริ่ม 1 เม.ย.นี้ ห้ามนำไปชำระสินค้าและบริการ ขณะที่เหรียญ Popcoin-JFIN รอดหมด “เฮีย ฮ้อ” เป็น Utility Token ภาครัฐหนุนใช้ภายในระบบนิเวศเฉพาะของตัวเอง ไม่ได้ใช้ซื้อสินค้าทั่วไป ด้าน “อดิศักดิ์” เดินหน้าใช้เหรียญ JFIN ร่วมกลุ่ม BTS โบรกฯ แนะลุย JMART และ SCB, KBANK หลังเกณฑ์ออกมาชัดเจนแล้ว
• CENTEL ปีนี้สวย รับท่องเที่ยวฟื้น – CENTEL ลั่นปีนี้ท่องเที่ยวฟื้นพ้นวิกฤติโควิด! วางเป้ารายได้ธุรกิจโรงแรมโต 5.9 พันล้านบาท และธุรกิจอาหารพุ่ง 1.2 หมื่นล้านบาท เทียบเท่าปี 62 ก่อนเกิดโควิด รับแรงหนุนจากมาตรการรัฐที่ผ่อนคลายทำ RT-PCR ประเทศต้นทางเริ่ม 1 เม.ย.นี้ แถมรับรู้รายได้โรงแรมใหม่ 2 แห่งที่ดูไบ-สมุยแบบเต็มปี
• THANA กางแผนปี 65 ดันรายได้พุ่งพันล้าน เตรียมเปิด 3 โครงการ – “ธนาสิริ” กางแผนปี 65 ปั้มยอดขายโต 1,200 ล้านบาท และมีรายได้พุ่ง 1,000 ล้านบาท ตุนแบ็กล็อก 350 ล้านบาท เตรียมเปิด 3 โครงการ มูลค่ารวม 2,370 ล้านบาท ส่วนไตรมาสแรกคาดยอดขายโต 3 เท่า แตะ 200 ล้านบาท
• TU แย้มผลงานไตรมาสแรกเด้ง! เปิดตัวซีเล็คทูน่ากัญชง ปลายไตรมาส 3 ปีนี้ – “ทียู” มั่นใจไตรมาส 1/65 ยอดขายอัตรากำไรขั้นต้นโตกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน หนุนยอดขายปีนี้ตามนัดพุ่งไม่ต่ำกว่า 5% เน้นเติบโตในธุรกิจใหม่ๆ ที่ทำกำไรสูง ดันปี 68 ขยับอัตราขั้นต้นแตะระดับ 20% จ่อเปิดตัวซีเล็คทูน่ากัญชง ปลายไตรมาส 3/65

ประเด็นลบ

• เอเชียหวั่นติดร่างแหคว่ำบาตรจากสหรัฐ หลังไบเดน ชูคว่ำบาตรจีนหากหนุนรัสเซีย – ชาติเล็กๆ ในเอเชียหวั่นติดร่างแหคว่ำบาตรจากสหรัฐ หลังไบเดน เตือนผลที่จะตามมาหากจีนสนับสนุนรัสเซีย เนื่องจากหลายชาติยังคงรักษาความเป็นกลางเกี่ยวกับสงครามในยูเครน อินโดนีเซีย และไทย ซึ่งจะเป็นเจ้าภาพประชุมจี 20 และเอเปก ตามลำดับ กังวลจะตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก
• บริษัทของเศรษฐีรัสเซียที่ถูกคว่ำบาตรเจออุปสรรคในการชำระหนี้ – บริษัทรัสเซียที่เกี่ยวพันกับมหาเศรษฐีที่ถูกคว่ำบาตร กำลังประสบปัญหาในการชำระดอกเบี้ยแก่ผู้ถือหลักทรัพย์ต่างชาติ ทำให้นักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับภาระหนี้ผูกพันของบริษัทรัสเซีย แม้ว่าจนถึงขณะนี้ รัสเซียยังสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ได้