รุกฆาตตลาดหุ้น

Trading Range บวกอ่อนๆ แต่ยังอยู่ในกรอบ 1675-1690

PICKS OF THE DAY

AOT BUY

  • แนวโน้ม นทท. ต่างชาติดีขึ้น: หลายประเทศได้ทยอยเปิดรับ นทท. เริ่ม 1 เม.ย. มองไทยมีโอกาสเปิดประเทศเร็วขึ้น เพื่อไม่ให้เสียโอกาส ซึ่ง ก.ท่องเที่ยว จะเสนอ ศบค. ยกเลิกไทยแลนด์พาสให้ นทท. เดินทางเข้ามาได้ปกติ และลดการตรวจเหลือแค่ ATK
  • สายการบินเตรียมบินระหว่างประเทศและมีโอกาสบริหารสนามบินเพิ่ม: AAV, BA และ THAI เตรียมเปิดบินระหว่างประเทศปลาย มี.ค. การบินจะมีมากขึ้น

MEGA BUY

  • ผู้ติดเชื้อ COVID-19 ยังอยู่ในระดับสูง: ผู้ติดเชื้อกลับมาอยู่ในระดับ 5 หมื่นราย ส่งผลให้ผู้บริโภคยังคงมี ความกังวลเกี่ยวกับโรค และมีความต้องการที่จะบริโภควิตามินและอาหารเสริม
  • กระแสการใส่ใจสุขภาพและสังคมผู้สูงอายุ: จากการหันมาใส่ใจสุขภาพและสังคมผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้สินค้ากลุ่มวิตามินและอาหารเสริมยังเติบโตได้ดี ทําให้ผลการดำเนินงานยังเติบโตได้ต่อเนื่อง

ตลาดหุ้นวันนี้

  • บวกอ่อนๆ ยังต้องลุ้นผ่านแนวต้าน 1685 จุด: คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้จะเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1675-1690 จุด แต่อาจบวกอ่อนๆ และต้องลุ้นให้ผ่านแนวต้านสำคัญบริเวณ 1685 จุด ให้ได้ก่อน โดยแรงหนุนอ่อนๆ น่าจะมาจาก Sentiment ลงทุนภายนอกที่คลายความตึงเครียดด้านพลังงานจากกรณีสงครามรัสเซีย-ยูเครนไประดับหนึ่งในระยะสั้น หลังจากที่เมื่อคืนนี้ราคาน้ำมันโลกปรับตัวลงมากกว่า 2% มีสาเหตุจาก 1) สหรัฐเปิดเผยว่าการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่านมีความคืบหน้า ทำให้อิหร่านมีโอกาสกลับมาส่งออกน้ำมันดิบได้ ซึ่งจะเป็นการเติม Supply ด้านพลังงานให้กับตลาดโลก และ 2) การส่งออกน้ำมันจาก CPC ในคาซัคสถาน อาจจะเริ่มกลับมาดำเนินการได้บางส่วนในไม่ช้านี้ ขณะที่ในสัปดาห์หน้ามีปัจจัยน่าติดตามดังนี้ 1) การประชุม กนง. ครั้งที่ 2 2) ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐเดือน ก.พ. 65 (PCE, Core PCE Price Index) 3) ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐเดือน มี.ค. 65 และ 4) การประชุม OPEC+
  • ความคืบหน้าการจัดการปัญหารัสเซีย-ยูเครนของชาติตะวันตก: ยังไม่มีมาตรการคว่ำบาตรใดๆ ออกมาเพิ่มเติมจากสหรัฐและชาติพันธมิตร หลังประธานาธิบดีสหรัฐเยือนยุโรปและประชุมร่วมกับ NATO แต่ยังต้องติดตามวันนี้ ผู้นำสหรัฐจะเดินทางเยือนโปแลนด์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกของ NATO ที่เป็นหน้าด่านแรกในการรับมือกับรัสเซีย-เบรารุส หากสงครามบานปลาย ส่วนมติจากการประชุมเบื้องต้น NATO เตือนว่ารัสเซียอาจใช้อาวุธเคมี-ชีวภาพเข้าโจมตี และไม่ตัดโอกาสที่รัสเซียจะใช้นิวเคลียร์ จึงเสริมกำลังทหารเข้ายุโรปฝั่งตะวันออกพร้อมทั้งอาวุธและอุปกรณ์ต่อต้านนิวเคลียร์ให้กับยูเครน
  • กลยุทธ์การลงทุน: ปัจจัยต่างๆ ยังมีความไม่แน่นอนสูง จึงควรทยอยล็อคกำไรในหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาแล้ว ส่วนธีมเด่นการ ลงทุนยังแนะนำ 1) หุ้นรับการท่องเที่ยวเปิดเมือง (AOT, ERW, MINT, CENTEL) 2) หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลและสุขภาพยังรับประโยชน์โควิดที่ระบาดในประเทศ (MEGA, BCH, CHG, IMH) และ 3) หุ้นลุ้น Window Dressing (ADVANC, KBANK)
  • ดอลลาร์แข็งค่า: เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นตอบรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่งจากจำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานสหรัฐระหว่างวันที่ 13-19 ม.ค. 65 ออกมาเพียง 187,000 ตำแหน่ง ต่ำที่สุดในรอบกว่า 53 ปี ขณะที่ PMI ภาคการผลิตเดือน มี.ค. 65 ออกมาขยายตัว 58.5 จุด สูงกว่าคาดการณ์ที่ 56.3 จุด ในขณะที่ Bond Yield ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ Fed มีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด ล่าสุดคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยเดือน พ.ค. 65 ของ Fed จาก CME Group เปิดเผย มีโอกาสถึง 68.3% ที่ Fed จะขึ้นดอกเบี้ยถึง 0.50% ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐขึ้นมาอยู่ที่ 0.75-1.00% ซึ่งจะสูงกว่าดอกเบี้ยของไทยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วิกฤตโควิด
- Advertisement -