บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง:

Jay Mart (JMART) J-Curve ยังไปอีกไกล

TP Revision

ประเด็นการลงทุน

ผลประกอบการปีนี้ทบต้นจาก JMT-SINGER ทำกำไรสุทธิเติบโต +66%/+75%YoY มีสัดส่วน 72% บนฐานกำไร ทว่าบริษัทอื่นๆ ก็เริ่มมีสัญญาณบวกทั้ง Mobile-KBJ ที่กลับมาเข้าสู่โหมดเติบโตอีกครั้งหลังปรับโครงสร้าง  เราเชื่อว่าตลาดใน 6 เดือนข้างหน้า จะเริ่มให้ premium บน valuation JMART เนื่องจากเป็นหัวหอกที่จะสร้าง Synergy & Growth ใน Ecosystem จากพันธมิตรนอกเครือเพิ่มในปีนี้ สะท้อนวิสัยทัศน์ผู้บริหารที่จะสร้าง Tech Investment Holding Co. (T-IHC) รองรับการเติบโตปีละ 50% ใน 3 ปีจากนี้ ราคาเหมาะสม 75 บาท แนะนำ ซื้อ

กำไรลูกดี…แม่ก็ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

ปี 2565 แนวโน้มบริษัทในเครือยังอยู่ในทิศทางเติบโตทั้ง

(i) JMT ตามยอดเก็บเงินสดและการขยายพอร์ตฯ NPL เพิ่มเติมด้วยการทำ JV x KBANK ในช่วงกลางปี

(ii) SINGER การขยายแฟรนไชส์เท่าตัวและพอร์ตจำนำทะเบียน +47%YoY

(ii) Mobile +68% การเพิ่มสินค้ากลุ่ม IT IoTs, Café ขยายสาขาในรูปแบบใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

(iv) KBJ +100% เร่งขยายฐานลูกหนี้และสินเชื่อ +50%YoY

(v) J รับรู้กำไรจาก JAS Kubon เต็มปี และเริ่มโครงการที่พักผู้สูงอายุ (Senera)

(vi) JVC หาลูกค้ากลุ่ม Digital transformation ประเมินกำไรปกติ 1Q65 ราว 400 ลบ. ทรงตัวสูงเทียบ QoQ, +20%YoY เป็นฐานก่อนการไต่ระดับในช่วงที่เหลือของปี

20 JVs/ความร่วมมือ จะเป็น Upside risk ในช่วงที่เหลือของปี

JMART ไม่เคยหยุดที่จะมองหาโอกาสเติบโตใหม่ๆ บริษัทเผยอยู่ระหว่างศึกษาการขยายธุรกิจแบบ Inorganic มากกว่า 20 โครงการในปีนี้ ซึ่งอาจเป็นรูปแบบร่วมลงทุนหรือพันธมิตรทางธุรกิจ โดยมีบางส่วนที่เกิดขึ้นแล้ว เช่น JAYDEE (การรวมกลุ่มร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าในต่างจังหวัด หนุนธุรกิจเงินผ่อน-ค้าปลีก), จัดตั้ง JSG (JMART 50%, GUNKUL 40%, SINGER 10%) เพื่อผลิตสินค้ากลุ่ม smart energy ให้กับเครือ ฯลฯ เราเชื่อว่าจะยังเห็นอีกหลายโครงการในช่วงที่เหลือของปี เช่น ธุรกิจ F&B HR, Medical, e-commerce, Technology ล้วนแต่ เปิด Upside risk ของกำไรบางส่วนใน 2H65 และเข้ามาเต็มปี 2566

คงคำแนะนำ ซื้อ ปรับราคาเหมาะสมเป็น 75.00 บาท

ในระยะสั้นราคาหุ้นจะได้แรงหนุนจากโอกาสที่จะถูกเข้าคำนวณดัชนี SET50 ช่วงกลางปี ทว่าในระยะยาวเราให้น้ำหนักต่อผลงอกเงยจากบริษัทในเครือจะเป็นแรงหนุนของการเติบโต กำไรปกติในปี 2565-66 ที่ 2,082/2,989 ลบ. +68/+44%YoY หรือเฉลี่ย (CAGR) 42% ต่อปี ใน 3 ปีข้างหน้า เราปรับราคาเหมาะสมขึ้น 21% เป็น 75.00 บาท/หุ้น ซึ่งวิธี SOTP ตามมูลค่าเหมาะสมของ JMT และ SINGER เพิ่ม 30% และ 11% ที่มีศักยภาพเติบโตได้ดีกว่าคาด โดยยังมี Hidden value จากบริษัทดาวรุ่งใหม่ที่จะเริ่มสะท้อนมูลค่า (JAYDEE, JVC,J GS)

- Advertisement -