นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI

ICHI ได้อานิสงส์ “อิชิตัน อินโดนีเซีย” ทำผลงานท็อปฟอร์ม จากแผนขยายตลาดส่งโปรดักส์แชมป์เปี้ยนกลุ่มชาไทย ทำยอดขาย สามารถรับรู้ส่วนแบ่งกำไรได้ดี ส่งผลถึงผลงานไตรมาส 1/65 มีรายได้ 1,442 ล้านบาท โต 12% ส่วนกำไรอยู่ที่ 104 ล้านบาท ลดลง 14.5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน แจงไม่ใช่ปัจจัยลบกระทบธุรกิจ แต่สาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้เพิ่มขึ้นถึง 24.2 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มไตรมาส 2 สดใส จากการมุ่งเน้นทำการตลาดในรสชาติยอดนิยม ส่งผลิตภัณฑ์ใหม่ออกตลาด มั่นใจหนุนเป้ารายได้แตะ 6,500 ล้านไม่ไกลเกินเอื้อม

 

นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI เปิดเผยว่า ผลประกอบการในไตรมาส 1/65 บริษัทมีรายได้จากการขาย 1,442.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 1,287.8 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 103.9 ล้านบาท ลดลง 17.7 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการลดลง 14.5% แต่ถ้าไม่นับรวมรายการพิเศษที่เกิดจากการบันทึกค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้จากการรับเงินคืนเงินลงทุนจากบริษัท พีที อิชิตัน อินโดนีเซีย ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 128.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากวงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 121.57 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นในอัตรา 5.4% จากปีก่อน

สาเหตุการเติบโตของรายได้มาจากยอดขายในประเทศที่เติบโต จากการขยายตลาดค้าปลีกผ่าน Traditional Trade ได้ดีต่อเนื่อง รวมทั้งการขยายผลิตภัณฑ์ใหม่ และขยายธุรกิจ OEM เสริมทัพ ด้านบริษัทร่วม อิชิตัน อินโดนีเซีย โดดเด่น สามารถรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเข้ามาในไตรมาส 1 ปีนี้ที่ 30 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 1 ของปีก่อนอยู่ที่ 13.6 ล้านบาท จากการกระจายสินค้าได้ดียิ่งขึ้น ผลิตภัณฑ์กลุ่มชาไทยที่สามารถเปิดตลาดอินโดนีเซียได้สำเร็จ และเป็นไฮไลท์การเติบโตต่อเนื่องมายังไตรมาสนี้ จึงสามารถใช้กระแสเงินสดของบริษัทร่วมในการเดินหน้าขยายธุรกิจ และคืนเงินลงทุนกลับมาให้อิชิตัน เพิ่มสถานะการเงินให้แข็งแกร่งขึ้น ด้วยโอกาสของอิชิตัน อินโดนีเซีย ที่นับเป็นเทรนด์ขาขึ้นต่อเนื่อง จึงส่งผลิตภัณฑ์ใหม่กลุ่มกาแฟโคลด์บริว เข้ามาบุกตลาดเพิ่มเติมในไตรมาส 2/65 นี้

อย่างไรก็ดี  สำหรับปี 2565 อิชิตัน ย้ำการขับเคลื่อนธุรกิจด้วยกลยุทธ์ 3N ประกอบด้วย New Product, New Market และ New Business  ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนผลประกอบการให้เติบโตในอนาคต และมั่นใจว่า รายได้จะเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้แตะระดับ 6,500 ล้านบาท

ขณะที่ ทิศทางไตรมาส 2/65 จะสดใส จากการมุ่งเน้นทำการตลาดในรสชาติยอดนิยม จัดจำหน่ายผ่านช่องทางร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม หรือ Traditional Trade ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่มีการเติบโตต่อเนื่อง ผ่านการจัดทำแคมเปญใหม่ๆ ได้แก่ การสะสมลังอิชิตัน แลกรับอิชิตันรสน้ำผึ้งผสมมะนาว ฟรี 1 ลัง เริ่มแคมเปญตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงกรกฎาคมนี้

นอกจากนี้ เตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่ในช่วงไตรมาส 2/65 และการ Collaboration กับบริษัทอาหารยักษ์ใหญ่ระดับโลก ออกสินค้าร่วมกันในเดือนพฤษภาคมนี้ รวมทั้งการเปิดตัว Shizuoka x Muruko การขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ไปยังตลาดเครื่องดื่มอัดก๊าซ (CSD) การคืนสู่เวทีของแบรนด์ “ไบเล่” (Bireley’s) และภาพรวมกลุ่มเครื่องดื่มวิตามินเพื่อสุขภาพ ที่นับเป็นเทรนด์ของตลาดเครื่องดื่มในอนาคต

ด้านธุรกิจส่งออกเริ่มฟื้นตัว โดยธุรกิจ OEM ได้ขยายฐานลูกค้าเพิ่มอีก 2 รายจากเดิม เตรียมส่งออกสินค้าใหม่ภายในไตรมาสที่ 2 นี้ สนับสนุนให้อัตราการใช้กำลังการผลิตสูงขึ้น เป็นอีกกลยุทธ์ในการเพิ่มอัตรากำไรที่สูงขึ้นในอนาคต จากการควบคุมต้นทุนต่อหน่วยผลิตให้มีประสิทธิภาพ

“ปี 2565 เป็นปีที่ต้องปรับตัวอย่างรวดเร็ว ด้วยสถานการณ์โลก ทั้งสงครามยูเครน รัสเซีย และภาพรวมเศรษฐกิจโลก ยอมรับว่า ต้นทุนในหลายส่วนปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่บริษัทยังรับผลดีในการลงทุนที่ประเทศอินโดนีเซียที่มีการเติบโตทั้งรายได้ กำไร อย่างต่อเนื่อง จากความสำเร็จของการทำตลาดชาไทย และคาดว่า การรุกตลาดกาแฟโคลด์บริวจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของตลาดอินโดนีเซียในปีนี้เพิ่มเติมได้” นายตัน กล่าว

********

- Advertisement -