บล.บัวหลวง:
Srisawad Corporation (SAWAD TB / SAWAD.BK)
SAWAD – ผลประกอบการต่ำกว่าคาด
กําไรต่ำกว่าที่เราคาด 23%
SAWAD รายงานกำไรไตรมาส 1/65 ที่ 1.04 พันล้านบาท ลดลง 24% YoY และ 9% QoQ ซึ่งต่ำกว่าที่เราคาด 23% (และต่ำกว่าที่ตลาดคาด 9%) เนื่องจากรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยน้อยกว่าคาด และค่าใช้จ่ายในการ ดำเนินงานที่สูงกว่าคาด และผลขาดทุนของบริษัทร่วม (เราคาดบริษัท Fast Money จะมีกําไร แต่รายงานผลประกอบการเป็นขาดทุน) กําไรจากการดำเนินงานที่ไม่รวมสํารองหนี้เสียอยู่ที่ 1.4 พันล้านบาท ลดลง 19% YoY และทรงตัว QoQ กำไรไตรมาส 1/65 คิดเป็น 19% ของประมาณการกําไรเดิมของเราที่ 5.6 พันล้านบาท
ประเด็นหลักผลประกอบการ
สินเชื่อรวมปรับตัวเพิ่มขึ้น 13.8% YoY และ 5.9% QoQ ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยในไตรมาส 1/65 อยู่ที่ 15.6% เพิ่มขึ้น 49bps YoY และ 12bps QoQ โดย SAWAD ตั้งสำรองฯอยู่ที่ 20 ล้านบาทในไตรมาส 1/65 (กลับรายการตั้งสํารองฯ สุทธิ 174 ล้านบาทเป็นรายได้ในไตรมาส 1/65 และเป็นรายได้เพิ่มขึ้นจาก 132 ล้านบาทในไตรมาส 4/64) สัดส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวมอยู่ที่ 3.1% ณ สิ้นเดือนมี.ค. 2565 ลดลง จาก 3.3% ในช่วงสามเดือนก่อนหน้านี้ อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 58.3% จาก 58.9% ณ สิ้นปี 2564 รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยรวมอยู่ที่ 788 ล้านบาทในไตรมาส 1/65 ลดลง 13% YoY (ทรงตัว QoQ) เนื่องจากในไตรมาส 1/65 SAWAD บันทึกกำไรจากการขายหุ้นในบริษัท Fast Money ให้แก่ธนาคารออมสิน
แนวโน้ม
เราคาดการณ์กำไรไตรมาส 2/65 จะปรับตัวเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ หนุนโดยสินเชื่อและรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยที่ขยายตัวต่อเนื่อง
สิ่งที่เปลี่ยนแปลง
เราปรับลดประมาณการกำไรปี 2565 ลง 4.6% มาอยู่ที่ 5.3 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 12% YoY) เนื่องจากคาดว่ารายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยสูงกว่าคาด และค่าใช้จ่ายดำเนินการต่ำกว่าที่เราคาด
คําแนะนํา
เรายังคงคําแนะนํา ซื้อ SAWAD ซึ่งการเติบโตของสินเชื่อหนุนให้กำไรขยายตัว รวมทั้งคาดว่ารายได้ค่าธรรมเนียมจะปรับตัวเพิ่มขึ้นตามยอดขาย ผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่เพิ่มขึ้น และเราคาดว่าอัตราส่วนต้นทุนต่อรายรับจะปรับตัวลดลง เนื่องจากเราปรับลดประมาณการกำไรปี 2565 และปรับลดมูลค่า PBV ลงจาก 3.5 เท่ามาอยู่ที่ 3.3 เท่า (เราปรับเพิ่มสมมติฐานต้นทุนส่วนทุนขึ้น เนื่องจากคาดว่าอัตราผลตอบแทนที่ปราศจากความเสี่ยงสูงขึ้น) เราปรับลดราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2565 ลงจาก 78 บาท มาอยู่ที่ 70.50 บาท เรายังคงคําแนะนํา ซื้อ
