บล.ทรีนีตี้

ซีพี ออลล์ – CPALL

กำไร 2Q65 ฟื้นตัว โดยเฉพาะธุรกิจร้านสะดวกซื้อ

  • ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมายที่ 72 บาท (อิงวิธี DCF)
  • CPALL ประกาศกำไร 2Q65 ที่ 3,004 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 814 ล้านบาท +37% YoY, -13% QoQ สาเหตุหลักมาจากการฟื้นตัวของผลประกอบการ โดยเฉพาะธุรกิจร้านสะดวกซื้อที่บวกต่อเนื่อง จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น
  • SSSG ร้านสะดวกซื้อ 2Q22 +14.2% YoY โดย customer per store per day เพิ่มขึ้นจาก 871 เป็น 918 คน ในขณะที่ spending per tickets ทรงตัวอยู่ที่ 84 บาท
  • มองครึ่งปีหลังฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งธุรกิจร้านสะดวกซื้อ, Retails และ Wholesales

ผลการดำเนินงาน 2Q65

  • กำไรสุทธิ 2Q65 อยู่ที่ 3,004 ล้านบาท (+37% YoY, -13% QoQ) สาเหตุจากการฟื้นตัวของผลประกอบการ โดยเฉพาะธุรกิจร้านสะดวกซื้อที่ได้รับปัจจัยบวกต่อเนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น รวมถึงผลประกอบการจากธุรกิจแม็คโครที่ดี
  • รายได้รวม 2Q65 เท่ากับ 213,655 ล้านบาท (+58% YoY, +7% QoQ) โดยมีสาเหตุมาจากรายได้การขายและบริการจาก 7-11 และแม็คโครที่มากขึ้น รวมถึงการรับรู้รายได้จากธุรกิจ Lotus’s ด้าน sssg ของ 7-11 อยู่ที่ 14.2% YoY (13.0% ใน 1Q65 และ 2.1% ใน 2Q64) และมีการขยายสาขาใหม่อีก 180 สาขา  โดยในครึ่งปีแรกได้เปิดสาขาใหม่ทั้งสิ้น 299 สาขา และมีเป้าขยายสาขา 700 สาขาภายในปี 2565
  • ต้นทุนการจัดจำหน่ายและค่าใช้จ่ายในการบริหาร 2Q65 เท่ากับ 40,804 ล้านบาท (+49% YoY, +6% QoQ) จากการรวมธุรกิจ Lotus’s เข้ามาช่วงสิ้นปี 64 โดยค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นหลักๆ ประกอบด้วยค่าไฟ ค่าใช้จ่ายพนักงาน ค่าเสื่อมราคา และจำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้น
  • Net profit margin 2Q65 อยู่ที่ 14.2%, -30 bps YoY, -40 bps QoQ เนื่องจากสัดส่วนธุรกิจของ Makro ที่เพิ่มขึ้นจากการรวมรายได้ของธุกิจ Lotus’s เข้ามา รวมถึงค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นตามที่กล่าวไว้ข้างต้น  และยังมีเรื่อง product mix ที่สินค้าแบบแพ็คอิ่มคุ้ม รวมถึง เหล้าและแอลกอฮอล์ขายดีเป็นพิเศษ ซึ่งสินค้ากลุ่มนี้เป็นสินค้าที่มี margin ต่ำ

2H65 Outlook

  • หลังจากที่มีการประชุมนักวิเคราะห์ เรายังมีมุมมองเชิงบวกกับ CPALL ใน 2H65 โดยเรามองว่าการกลับมาของนักท่องเที่ยวจะช่วยเพิ่มยอด spending per tickets รวมถึง customer per store per day ถึงแม้จะมีประเด็นเรื่องต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นค่าไฟ หรือการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่ควรจับตามอง แต่เราเชื่อว่าบริษัทฯ สามารถส่งผ่านค่าใช้จ่ายเหล่านี้ไปยังราคาสินค้าได้ และมองว่ากำไรครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก
  • ในระยะยาวเรามองว่า CPALL จะยังได้ประโยชน์จากการการ Synergize ระหว่าง 7-11, Makro, Lotus’s ไม่ว่าจะผ่านทาง marketing campaign, cross-selling, shared services a logistic

ความเสี่ยง: เงินเฟ้อ, กำลังซื้อหดตัว, ค่าไฟและค่าแรงขั้นต่ำที่อาจขึ้นในอนาคต

- Advertisement -