KS Daily View 17.11.2022 > รอดูทิศทาง “ดอกเบี้ยโลก” หลังความเสี่ยง Recession สูงขึ้น/ แนะลงทุนกลุ่ม Defensive SET คาดแกว่งตัวในกรอบ 1610 -1630 จุด หุ้นแนะนำ BCH

ประเด็นที่เกิดขึ้นเมื่อวาน  :

1.) ตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนปรับลง  ดัชนี Dow Jones -0.12%, NASDAQ -1.54% โดย Sector ในดัชนี S&P500 ส่วนใหญ่ปรับลงหลักๆ คือ Energy -2.15% (ปรับลงตามราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) -1.1% ปิดที่ 92.86 ดอลลาร์/บาร์เรล จากความกังวล Covid จีน ฯลฯ มองเป็น Sentiment ลบต่อกลุ่มน้ำมัน PTTEP, PTT และกลุ่มโรงกลั่น, Consumer Discretionary -1.46%, IT -1.45%ฯลฯ ส่วนกลุ่มที่ Outperform คือ Utilities +0.87%, Consumer Staples +0.46%

2.) ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานแกว่งตัวลง โดย SET Index เมื่อวานปิด 1619.98 จุด(-0.58%DoD) หุ้นที่ปรับขึ้นนำโดย JASIF+3.6%, PTTEP +2.2% ส่วนหุ้นกลุ่มที่ปรับลงหลักๆคือ กลุ่มโรงไฟฟ้า EA -4.1%, BGRIM-2%, GULF -2.88% จากความกังวลการขึ้นค่ Ft

3.) Dollar Index แนวโน้มยังแกว่งตัวอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ 106.1 จุดหลังจากสหรัฐรายงานเงินเฟ้อ CPI และ PPI ออกมาชะลอลงและผ่านจุด Peak กดดันให้ค่าเงินบาทแข็งค่าราว  6.5%นับตั้งแต่ต้นเดือน พ.ย.(mtd) แนวโน้มเงินบาทที่แข็ง ทำให้ห้องค้ากสิกรไทย ล่าสุด มีการปรับคาดการณ์ค่าเงินบาทสิ้นปี  2022-2023 ลงมาอยู่ที่  35.25 บาทและ 33.5 -34.0 บาท/เหรียญฯ ตามลำดับ เงินบาทที่แนวโน้มแข็งค่า บวกกับกลุ่มโรงไฟฟ้าที่มีหนี้ USD เยอะ ได้แก่ EGCO, BGRIM เป็นต้น แต่จะเป็น sentiment ลบกับกลุ่มส่งออก

4.) สินทรัพย์ปลอดภัย อาทิ ทองคำ   KS  ยังมองบวก ประเมินแนวโน้มตลาด  Crypto Currency ยังมีแรงกดดัน นักลงทุนลดความเชื่อมั่นจากประเด็นข่าว FTX , Block-Fi ล้มละลาย  และก่อนหน้าคือ  LUNA ฯลฯ และค่าเงิน Dollar แนวโน้มอ่อนค่า จะบวกต่อทองคำมองจะดึงดูดให้คนย้ายเงินเข้าทองคำ ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวสัปดาห์นีคาดแกว่งขึ้น  1740-1815 เหรียญ

ประเด็นที่ต้องติดตาม :

Key สำคัญใหญ่ในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ KS ประเมินว่าปัจจัยต่างประเทศส่วนที่ต้องติดตาม

1.) ตัวเลขเศรษฐกิจและการแถลงของคณะกรรมการธนาคารกลาง อาทิ วันนี้   ให้น้ำหนักถ้อยแถลงของ Fed Bowman และ Fed Jefferson และพรุ่งนี้ถ้อยแถลงของ ECB President Lagarde คาดจะมีผลต่อแนวโน้มตลาดหุ้นและอัตราแลกเปลี่ยน

2.) Geopolitic risk ระหว่างรัสเซีย-ฝั่งยุโรป

มุมมองตลาดหุ้นไทย :

KS ประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้พักตัว จากราคาพลังงานที่ปรับลงจาก Covid จีน, Geopolitic risk  และ Inverted Yield Curve ที่ติดลบแรงอีกครั้งทำให้ตลาดกังวลประเด็นการเกิด Recession วันนี้เรามุมมองบวกต่อหุ้นกลุ่ม Defensive อาทิ กลุ่มโรงพยาบาล อาทิ BCH, EKH แนะนำลงทุน และกลุ่มโรงไฟฟ้า อาทิ BGRIM GPSC EGCO

บทวิเคราะห์ของ KS ที่เป็นประเด็นสนใจวันนี้ : 

(+) BANPU ปรับราคาเป้าหมายขึ้น 16 บาท ปรับคาดการณ์กำไรปี 2022 ขึ้น 14% แต่ยังคงปี 2023-24 จากมุมมองราคาก๊าซที่ยังสูง

(-) SAWAD ลดคำแนะนำเป็น “ถือ”เราคาดว่า SAWAD จะเริ่มตั้ง ECL และ coverage ratio เนื่องจากสินเชื่อเช่าซื้อในพอร์ตที่เพิ่มขึ้น

(-) TIDLOR  ปรับลดประมาณการกำไรปี 2565-2567 ลง 2-4% เพื่อสะท้อน ECL ที่คาดว่าจะสูงขึ้นเพื่อเพิ่ม LLR ต่อสินเชื่อรวมเป็น 4% ตามเป้าหมายของบริษัทฯ  โดยคาด NPL formation สูงสุดในปีนี้ ขณะที่ NPL Ratio ต่ำกว่าเป้าหมายที่ 2.0% คงคำแนะนำ “ซื้อ” แต่ปรับลดราคาเป้าหมายเหลือ 33 บาท จาก 34.75 บาท

ประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้คาด 1610 -1630 จุด หุ้นแนะนำ BCH

Top pick : BCH (ราคาพื้นฐานที่ 23.0 บาท) เรามองว่า BCH ซึ่งอยู่ในกลุ่มโรงพยาบาลซึ่งเป็นบริษัทที่ตลาดมองว่าเป็นกลุ่ม Defensive  คาดจะ Outperform ในช่วงตลาดผันผวน และมีปัจจัยหนุน ล่าสุด ผู้บริหารคาดว่ารายได้จะเติบโตเป็นเลขสองหลักในปี 2566 โดยอิงจากรายได้ที่ไม่ใช่ COVID-19 และแนวโน้มรายได้จากผู้ป่วยต่างประเทศแนวโน้มดีขึ้น ขณะที่ รพ.ใหม่ไปได้ดี  และ BCH ไม่กระทบประเด็นเรื่องวัคซีน Moderna

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันพฤหัสฯ ติดตาม ตัวเลขการส่งออกของญี่ปุ่นเดือน ต.ค. คาด +28.1% YoY ตัวเลขดุลการค้าของญี่ปุ่นเดือน ต.ค. คาด -Y1,610bn (ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ -Y2,094bn) ตัวเลข Housing Starts ของสหรัฐฯ เดือน ต.ค. คาด -2.7% MoM เป็น 1.4 ล้านยูนิต ตัวเลข Building Permits เดือน ต.ค. คาด -6.3% MoM เป็น 1.465 ล้านยูนิต ตัวเลข Initial Jobless Claim รายสัปดาห์ของสหรัฐฯ คาด 222K ถ้อยแถลงของ Fed Bowman และ Fed Jefferson
  • วันศุกร์ ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของญี่ปุ่นเดือน ต.ค. คาด +0.4% MoM และ +3.2% YoY ตัวเลข Retail sales ของอังกฤษเดือน ต.ค. คาด 0% MoM ตัวเลข Existing Home Sales ของสหรัฐฯ เดือน ต.ค. คาด -8% MoM เป็น 4.3 ล้านยูนิต และถ้อยแถลงของ ECB President Lagarde
- Advertisement -