Our View? “ยังแข็งแรงไม่มากพอ”

คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,613 / 1,610 และแนวต้านที่บริเวณ 1,621 / 1,625 มองตลาดอาจได้รับ Sentiment เชิงลบอ่อนๆ จากตลาดต่างประเทศ หลังเมื่อคืนนี้นายเจมส์ บัลลาร์ด (James Bullard) ประธาน FED สาขาเซนต์หลุยส์ แสดงความคิดเห็นอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันยังไม่อยู่ในระดับที่มีความเข้มงวดมากเพียงพอเพื่อสกัดทิศทางเงินเฟ้อ ขณะที่นางเอสเธอร์ จอร์จ (Esther George) ประธาน FED สาขาแคนซัส ส่งสัญญาณ FED อาจจําเป็นต้องกดเศรษฐกิจสหรัฐให้หดตัวลงเพื่อกดดันทิศทางเงินเฟ้อ ในขณะที่ตลาดแรงงานยังคงมีความตึงตัว โดยล่าสุดตัวเลขผู้รอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐออกมาปรับตัวลดลงสู่ระดับ 2.22 แสนราย ต่ำกว่าที่ตลาดคาด ที่ระดับ 2.5 แสนราย สะท้อนตลาดแรงงานสหรัฐฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง กระตุ้นความกังวลถึงแนวโน้มที่ FED จะยังเร่งขึ้นดอกเบี้ยดอกเบี้ยต่อไป โดยล่าสุด CME FEDWatch Tools คาดการณ์ FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.50% ในเดือน ธ.ค. ขณะที่ตลาดเริ่มเพิ่มนํ้าหนักโอกาสที่ FED จะขึ้นดอกเบี้ยที่ระดับ 0.50% ในเดือน ก.พ. ซึ่งมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้า หนุนทิศทาง Dollar Index ชะลอการอ่อนตัวลง และพยายามฟื้นตัวขึ้นล่าสุดอยู่ที่ระดับ 106.7 คาดจะส่งผลให้ทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงอ่อนตัวลงได้บ้าง

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน ธ.ค. เมื่อคืนนี้ปรับตัวลงแรงเข้าใกล้แนวรับที่เราประเมินไว้ก่อนหน้า ปิดที่ระดับ 81.64 ดอลลาร์/บาร์เรล -3.95 ดอลลาร์ (−4.62%) โดยได้รับแรงกดดันจากแนวโน้มอุปสงค์น้ำมันที่อ่อนแอ ตามการแพร่ระบาด COVID-19 ในจีน อีกทั้งมีรายงานโรงกลั่นน้ำมันในจีนขอลดปริมาณการสั่งซื้อน้ำมันดิบจากซาอุดิอาระเบียและรัสเซีย คาดจะกดดันทิศทางราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานอ่อนตัวลงได้ อย่างไรก็ตาม เราแนะนำติดตามท่าทีของ OPEC+ หลังเริ่มส่งสัญญาณเตรียมแทรกแซงราคาน้ำมันหลังทิศทางราคาน้ำมันอ่อนตัวลง คาดจะส่งผลให้ราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าแกว่งตัวในระดับ 81.00–92.00 เหรียญต่อไป

สําหรับปัจจัยในประเทศเรายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) คาดเศรษฐกิจไทย 3Q′65 จะขยายตัวขึ้น 3.0% จากการท่องเที่ยวและการบริโภคฟื้นตัวขึ้น รวมทั้งคาดการณ์เศรษฐกิจไทยจะสามารถเติบโตได้ 3.4% ในปีนี้ มองเป็นจิตวิทยาต่อภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นไทยได้ต่อ อย่างไรก็ตาม เรามีมุมมองเป็นกลางต่อการประกาศผลประกอบการ 3Q65 ของตลาดในช่วงที่ผ่านมา โดยล่าสุด Bloomberg Consensus คาดการณ์ EPS ตลาดหุ้นไทยในช่วงปีนี้ลดลงเหลือระดับเพียง 103.8+/- จากช่วงแรงของการประกาศผลประกอบการที่ระดับ 106.0+/- สะท้อนแนวโน้มการปรับประมาณการขึ้นของผลกำไรของ บจ. ในตลาด โดยนักวิเคราะห์เริ่มลดลง ขณะที่สัปดาห์นี้ยังคงต้องติดตามการประชุม APEC คาดอาจเห็นความร่วมมือทางเศรษฐกิจในกลุ่ม APEC มากขึ้น มองเป็นปัจจัยเชิงบวกหนุนทิศทางเศรฐกิจไทยในช่วงปีหน้าฟื้นตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง ทั้งนี้เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่มค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง (HMPRO, GLOBAL, DOHOME และ TASCO) และหุ้นในกลุ่มค้าปลีก (CPALL, CRC, MAKRO และ BJC) จากแนวโน้มการออกงบเยียวยาน้ำท่วมหลังสถานการณ์ดังกล่าวเริ่มผ่อนคลายลง รวมทั้งแนวโน้มการออกมาตรการรัฐ อาทิ ช็อปดีมีคืนในช่วงปลายปี รวมทั้งหุ้นในกลุ่มโฆษณา (PLANB และ VGI) ที่คาดผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และฟื้นตัวขึ้นโดดเด่นตั้งแต่ช่วง 3Q′65 คาดจะหนุนทิศทางราคาฟื้นตัวกลับขึ้นได้ต่อ

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนําวันนี้ “DMT”

กลยุทธ์ ทยอยซื้อสะสม แนวรับ 10.40 / 10.20 Target 11.00 / 11.80 Stop <10.20

- Advertisement -