สรุปภาวะตลาด

วันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหว sideway มีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และหุ้นกลุ่มค้าปลีก ตลาดถูกกดดันจากประเด็น เจ้าหน้าที่หลายรายจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกมาส่งสัญญาณว่า จะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกในอนาคต ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,617.38 จุด +2.43 จุด +0.15% มูลค่าการซื้อขาย 56,407 ลบ.ต่างชาติ +716.65 ลบ. TFEX -411 สัญญา ตราสารหน้ี -8,534.80 ลบ.

ปัจจัยบวก +

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 199.37 จุด หรือ +0.59% จากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มปลอดภัยได้ช่วยชดเชยการ ลดลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะที่นักลงทุนปรับตัวรับความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีดาวโจนส์ทรงตัว, ดัชนี S&P500 ลดลง 0.7% และดัชนี Nasdaq ลดลง 1.6%

+ IMF คาด GDP ที่แท้จริงของไทยในปี 2566 จะขยายตัว 3.7% เพิ่มขึ้นจากระดับ 2.8% ของปี 2565 สวนทางท่ัวโลกที่ชะลอลง โดยมีไทยและจีนเพียง 2 ประเทศในภูมิภาค เอเชียแปซิฟิกที่มี GDP ที่แท้จริงขยายตัว

+ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา สนับสนุน FED ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยน้อยกว่า 0.75% ใน การประชุมนโยบายเดือนธ.ค. โดยมองว่าอัตราดอกเบี้ยเป้าหมายของเฟดไม่ควรเพิ่มขึ้นเกินกว่า 1%

+ กระทรวงคมนาคมอยู่ระหว่างเร่งรัดผลักดันโครงการรถไฟทางคู่ ระยะ (เฟส) ที่ 2 จำนวน 7 เส้นทาง ระยะทางรวม 1,479 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 275,301 ล้านบาท เพื่อเสนอ ครม. อนุมัติ เพื่อให้เริ่มก่อสร้างได้ภายในปี 66

+ ททท.เปิดเผยว่าเห็นสัญญาณที่ดีต่อการท่องเที่ยวของไทย หลังจบการประชุม APEC เพราะมีการใช้ซอฟต์เพาเวอร์ในเรื่องของอาหารและความเป็นประเทศไทยได้ดีมาก นำนักท่องเท่ียวกลับมาเที่ยวไทยได้มากขึ้น โดยปี 2566 มั่นใจว่ารายได้จากการท่องเที่ยวจะกลับมาจำนวน 80% ของรายได้ในปี 2562

ปัจจัยลบ –

– สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ร่วงลง 1.56 ดอลลาร์ -1.9% ปิดที่ 80.08 ดอลลาร์/บาร์เรล ต่ำสุด นับต้ังแต่วันที่ 30 ก.ย. 2565 และร่วงลง 9.98% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันที่เกิดจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก การเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED และความกังวลว่าจีนใช้มาตรการคุมเข้มการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะกระทบต่ออุปสงค์น้ำมันในประเทศ

– จีนรายงานพบผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 รายแรกในรอบเกือบ 6 เดือน ในขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อในประเทศ เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

– IMF ชี้ความขัดแย้งด้านการค้าอาจทำเศรษฐกิจโลก เสียหาย 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ นอกเหนือไปจากความเสียหายอย่างรุนแรงที่เกิดจากการทำสงครามในยูเครน

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันน้ีมีโอกาสแกว่งตัวออกข้าง แม้ว่าเฟดจะปรับเพิ่มเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยในปี 2023 สู่ 4.75-5.00% ซึ่งสูงกว่าช่วงก่อนที่ 4.25-5.00% และ ECB เตรียมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2.00% สู่ 3.5% แต่ Fund Flow ที่เร่ิมกลับมาไหลเข้าเป็นปัจจัยพยุงดัชนี คาดกรอบดัชนีในวันนี้ 1,610-1,625 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • ลุ้นเราเท่ียวด้วยกัน เฟส 5-มาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว เข้าครม. 28 พ.ย. : ERW CENTEL VRANDA ASAP SPA AAV BA AOT
  • ลุ้นมาตรการอุดหนุน EV เข้า ครม. เดือน พ.ย. นี้ : EA NEX BYD GPSC
  • MSCI Rebalancing มีผล 30 พ.ย.
    • MSCI Global Standard หุ้นเข้า : – , หุ้นออก : BAM
    • MSCI Global Small Cap หุ้นเข้า: BAM, ERW, JWD, NEX, RAM หุ้นออก: PSG, SYNEX
  • FTSE : Mid Cap หุ้นเข้า TLI

หุ้นรายงานพิเศษ

PLANB – Bloomberg Consensus 8.80 บาท “มุมมองบวกต่อแนวโน้มกำไร 4Q65-2566 ตามแนวโน้มอุตสาหกรรมสื่อโฆษณาที่ดีต่อเนื่อง”

  • งวด 3Q65 กําไร 184 ลบ. (ดีกว่าตลาดคาด 22%) พลิกจาก 3Q64 ที่ขาดทุน 54 ลบ. และโต 6%QoQ จากรายได้เท่ากับ 1,734 ลบ. +58%YoY +6.5%QoQ ตามธุรกิจสื่อนอกที่อยู่อาศัย (OOH) ที่ฟื้นตัว ดีจากสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลายลง สะท้อนจาก U.rate ที่เร่งดีขึ้นสู่ 62.1% (3Q64 = 34.9%, 2Q65 = 57.3%) ส่วน %GPM อยู่ที่ 26.3% (3Q64 = 2.9%, 2Q65 = 28.8%) อ่อนลง QoQ จาก One- time items จากการปรับเปลี่ยนป้ายหลังจากการควบรวมกิจการกับ AQUA
  • แนวโน้มอุตสาหกรรมสื่อโฆษณายังคงเติบโตดีต่อเนื่องทุกกลุ่ม อาทิ OOH, Online และ TV ซึ่งช่วง 9M65 มีเม็ดเงินโฆษณารวมกว่า 8.8 หมื่นลบ. โดยแนวโน้มท้ังปี 65 คาดที่ 1.2 แสนลบ. และแนวโน้มช่วง 4Q65 คาดจะยังดีต่อเนื่อง QoQ จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวชัดเจน ประกอบกับเข้าสู่ช่วง High Season โดยช่วงเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา U.rate ของบริษัทยังเร่งดีขึ้นอีกสู่ราว 62-65%
  • ความเห็นเรามีมุมมองบวกต่อแนวโน้มกําไร 4Q65-2566 ตามแนวโน้มอุตสาหกรรมสื่อโฆษณาที่ดีต่อเนื่อง ส่วนธุรกิจ Engagement Marketing (สัดส่วนรายได้ 20%) อาทิ การจัดงานกีฬามวย ฟุตบอล วิ่ง และงาน BNK คาดจะโตดีใน 4Q65 เช่นกันจากปริมาณการจัดงานที่เพิ่มขึ้น และปี 66 ได้สิทธิในการถ่ายทอดสดงาน เอเชียนเกมส์ ทั้งน้ี Bloomberg Consensus คาดกําไรปี 65 ราว 636 ลบ. +894%YoY (9M65 กําไร 462 ลบ. คิดเป็น 73% ของประมาณการท้ังปี 65)

หุ้นมีข่าว

(+) BGC (Bloomberg Consensus 11.50 บาท) คาดยอดขายปีหน้าเติบโตต่อเนื่องจากปีนี้ พร้อมตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 16% มองอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี เน้นจัดการต้นทุน ชี้ปีนี้ยอดขายกลับมาเติบโตกว่าช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดโควิดแล้ว เดินหน้าซื้อกิจการบริษัทนอกกลุ่ม เพื่อสู่เป้าหมายการเป็นผู้นำธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร (ที่มา ทันหุ้น)

(+) BA (Bloomberg Consensus 14.62 บาท) ส่องโค้งท้ายยังเติบโตต่อเนื่อง จากจำนวนผู้โดยสาร ท้ังในและต่างประเทศหนุน ลุยอัดโปรโมชั่นการตลาดรองรับท่องเที่ยว เดินหน้าขยายเส้นทางบินใหม่ และเพิ่มเที่ยวบิน คาดรายได้รวมสิ้นปี 2565 แตะระดับ 8,100 ล้านบาท โกยยอดผู้โดยสาร 2.6 ล้าน คน (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SMD (Bloomberg consensus – บาท) เล็งขาย ATK นวัตกรรมใหม่เจ้าแรกในไทยชี้มาร์จิ้นสูง คาดโกยยอดขาย 100 ล้านบาท ต่อไตรมาส ด้านผู้บริหาร “วิโรจน์ วสุศุทธิกุลกานต์” แย้มแผนควบรวมกิจการเสริมทัพหนุนมาร์จิ้นแน่น กำเงินสดพร้อมลุย 600 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้ารายได้ปี 2566 แตะ 2.2 พันล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) JR (Bloomberg consensus – บาท) โค้งสุดท้ายคว้างานใหม่ 2 โครงการ มูลค่า 93 ล้านบาท ฟากซีอีโอ “จรัญ วิวัฒน์เจษฎาวุฒิ” เผยเดินหน้ารุกประมูลงานทั้งภาครัฐและเอกชนกว่า 7 พันล้านบาท โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่ประเภทงานระบบโครงสร้างพื้นที่มีความปลอดภัยขั้นสูง ดัน Backlog ที่มีอยู่ 3,474 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ 3 ปีข้างหน้า มั่นใจผลงานปีนี้โตตามเป้า (ที่มา ทันหุ้น)

ปัจจัยจับตาในประเทศ

  • 21 พ.ย. สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) แถลงตัวเลข GDP 3Q65
  • สัปดาห์ที่ 5 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
    • สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม
  • 25 พ.ย. กระทรวงพาณิชย์รายงานดุลการค้า
  • 30 พ.ย. ประชุมกนง. ครั้งที่ 6
    • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะ เศรษฐกิจไทย
  • 6 ธ.ค. ก.พาณิชย์รายงานตัวเลข CPI เดือนต.ค.

ปัจจัยจับตาต่างประเทศ

  • 21 พ.ย. ธนาคารกลางจีนประกาศอัตราดอกเบี้ย เงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR)
    • สหรัฐ รายงานดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศ เดือนต.ค.จากเฟดชิคาโก
  • 22 พ.ย. สหรัฐ รายงานดัชนีการผลิตเดือนพ.ย. จากเฟดริชมอนด์
  • 23 พ.ย. อียู รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นต้นเดือนพ.ย. จากเอสแอนด์พี โกลบอล
    • สหรัฐ รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนต.ค.
    • ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต- ภาคบริการ ขั้นต้นเดือนพ.ย.จากเอสแอนด์พี โกลบอล ยอดขายบ้านใหม่เดือนต.ค. ดัชนีความ เชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย.จากมหาวิทยาลัย มิชิแกน สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์
  • 13-14 ธ.ค. กำหนดประชุมธนาคารกลางสหรัฐ
- Advertisement -