Our View? “แข็งแกร่งท่ามกลางความอ่อนแอ”

คาดตลาดวันนี้ “Sideway Up” มองแนวรับที่บริเวณ 1,613 / 1,610 และแนวต้านที่บริเวณ 1,625 / 1,630  เราคาดภาพรวมทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงเช้านี้จะได้รับแรงกดดันจากความกังวลการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่เร่งตัวขึ้นในจีน ในให้ทางการจีนต้องออกมาตรการ Lockdown รอบใหม่ในหลายพื้นที่ ซึ่งคาดจะส่งผลกระทบต่อทิศทางเศรษฐกิจจีน-โลก ยังคงอยู่ในภาวะอ่อนแอ โดยเฉพาะราคาสินค้าโภคภัณฑ์ จากการที่จีนเป็น 1 ในผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลก ขณะที่เมื่อคืนนี้ราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปรับตัวลดลงแรงทำจุดต่ำสุดใหม่ที่ระดับ 75.27 ดอลลาร์ จากความกังวลดังกล่าว รวมทั้ง The Wall Street Journal รายงาน OPEC+ มีโอกาสปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน ก่อนจะสามารถรีบาวด์กลับปิดที่ระดับ 80.04 ดอลลาร์/บาร์เรล -0.07 ดอลลาร์ (-0.09%) หลังซาอุดิอาระเบียออกมาปฏิเสธรายงานดังกล่าว โดยระบุ OPEC+ ยังไม่มีแผนในการปรับเพิ่มกำลังการผลิตก่อนการประชุม OPEC+ อย่างไรก็ตาม เรามองประเด็นดังกล่าวคาดจะกดดันทิศทางราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานถ่วงตลาดได้บ้าง

ขณะที่วันนี้เราคาดตลาดจะแกว่งตัวเพื่อรอดูถ้อยแถลงของนายเจมส์ บัลลาร์ด ผู้ว่าการธนาคารกลางรัฐเซนต์ หลุยส์ เกี่ยวกับท่าทีของนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ในระยะถัดไป ขณะที่คาดว่าตลาดจะรอดูรายงานการประชุม FOMC รอบเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา ที่จะเปิดเผยในวันที่ 23 พ.ย. นี้ อีกทั้ง Dollar Index เริ่มฟื้นตัวขึ้นอีกครั้งล่าสุดอยู่ที่ระดับ 107.8 บ่งชี้ตลาดเริ่มเข้าสู่ภาวะความกังวลอีกครั้ง คาดจะส่งผลให้การเคลื่อนไหวของทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงในช่วงสั้นอาจแกว่งตัวในกรอบจำกัดได้อยู่

สำหรับปัจจัยในประเทศ เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการที่เมื่อวานนี้สภาพัฒน์ฯ รายงานตัวเลข GDP 3Q′65 ออกมา +4.5% YoY เท่ากับที่ตลาดคาด แต่ +1.2% QoQ มากกว่าที่ตลาดคาดไว้ +0.8% QoQ จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย โดยเครื่องชี้วัดปรับตัวดีขึ้นเกือบทั้งหมด โดยเฉพาะการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนและการส่งออกบริการที่ปรับตัวดีขึ้น คาดจะส่งผลให้ทั้งปี’ 65 GDP ของไทยจะสามารถขยายตัวได้ตามเป้าที่ระดับ +3.2% ขณะที่คาดการณ์ตัวเลขนักท่องเที่ยวในปีนี้ที่ระดับ 10.2 ล้านคน และเพิ่มคาดการณ์นักท่องเที่ยวในปีหน้าสู่ระดับ 23.5 ล้านคน คาดเป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว-โรงแรม-สายการบินได้ต่อ อีกทั้งเรายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อการที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปี’66 จะสามารถเติบโตได้ที่ระดับ 3.7% ใกล้เคียงกับที่ ธปท. คาด และถือเป็น 1 ใน 2 ประเทศในเอเชียที่มีการขยายตัวของเศรษฐกิจในปีนี้ และยังสามารถเติบโตได้ต่อในปีหน้า สอดคล้องกับมุมมองของเราก่อนหน้าที่คาดเศรฐกิจไทยในช่วงปีหน้าคาดจะฟื้นตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากภาคการท่องเที่ยว-บริโภคในประเทศต่อ ทั้งนี้เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่มค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง (HMPRO, GLOBAL, DOHOME และ TASCO) และหุ้นในกลุ่มค้าปลีก (CPALL, CRC, MAKRO และ BJC) จากแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ รวมทั้งแนวโน้มการออกมาตรการรัฐอาทิช็อปดีมีคืนในช่วงปลายปี และการเข้าสู่ช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลก รวมทั้งหุ้นในกลุ่มโฆษณา (PLANB และ VGI) ที่คาดผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และฟื้นตัวขึ้นโดดเด่นตั้งแต่ช่วง 3Q′65 คาดจะหนุนทิศทางราคาฟื้นตัวกลับขึ้นได้ต่อ

อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าในระยะถัดไป คาดตลาดอาจให้ความสนใจกับประเด็นเกี่ยวกับการเลือกตั้งใหญ่ได้บ้าง ตามศาลรัฐธรรมนูญนัดลงมติว่าด้วยเรื่องร่างกฎหมายพรรคการเมืองและการเลือกตั้ง ส.ส. คาดอาจเป็น Noise รบกวนตลาดได้บ้างเล็กน้อย

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนําวันนี้ “VGI”

กลยุทธ์ ทยอยซื้อสะสม แนวรับ 4.16 / 4.08 Target 4.70 / 5.20 Stop <4.00

- Advertisement -