สรุปภาวะตลาด

วันจันทร์ที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวในช่วงแคบ +,- ราว 6 จุด ปรับตัวได้ดีกว่าตลาดหุ้นเอเชีย และตลาดในภูมิภาค ที่ปรับตัวลบราว -0.3% ถึง -0.7% เป็นแรงซื้อในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ ส่วนแรงขายมีมากในหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่ปรับตัวขึ้นมาในช่วงก่อนหน้า ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,618.86 จุด +1.48 จุด +0.09% มูลค่าการซื้อขาย 52,580 ลบ. ต่างชาติ +1,524.00 ลบ. TFEX -7,048 สัญญา ตราสารหนี้ -829.85 ลบ.

ปัจจัยบวก+

+ นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

+ นักวิเคราะห์จากบริษัทโกรว์ อินเวสต์เมนท์ กรุ๊ป คาดการณ์ว่าจีนจะเริ่มเปิดประเทศหลังจากผ่อนคลายมาตรการโควิดเป็นศูนย์อย่างค่อยเป็นค่อยไป และคาดว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนจะค่อยๆ ฟื้นตัว หลังจากรัฐบาลใช้มาตรการสนับสนุน ซึ่งจะช่วยให้ดัชนีตลาดหุ้นจีนดีดตัวขึ้นแข็งแกร่งถึง 13% ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า และช่วยหนุนดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงทะยานขึ้น 28%

+ สภาพัฒน์รายงานตัวเลข GDP งวด 3Q65 ของไทยขยายตัว 4.5% ขยายตัวเร็วที่สุดในรอบ 4 ปี 9M65 GDP ขยายตัว 3.1% โดยคาดการณ์ GDP ปี 65 ขยายตัว 3.2% ปรับดีขึ้นจากเดิมคาด 2.7 – 3.2%

+ ธปท.รายงานตัวเลข NPL 3Q65 ลดเหลือ 5.02 แสนล้านบาท คิดเป็น 2.77% ต่อสินเชื่อรวมจาก 2Q65 อยู่ ที่ 5.27 แสนล้านบาท คิดเป็น 2.88% ของสินเชื่อรวม ขณะที่หนี้ที่มีความเสี่ยงแต่ยังไม่เป็น NPL ยังคงอยู่สูงที่ 6.26%

ปัจจัยลบ –

– ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลดลง 45.41 จุด หรือ -0.13% เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจ หลังจากจีนประกาศล็อกดาวน์เขตต่างๆ ในกรุงปักกิ่งและอีกหลายเมืองเพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19

– สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดลดลง 35 เซนต์ -0.44% ปิดที่ 79.73 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจาก กระแสข่าวซาอุดีอาระเบียและสมาชิกกลุ่มโอเปกกำลังหารือกันเกี่ยวกับการปรับเพิ่มกำลังการผลิต

– โกลด์แมน แซคส์ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ใน 4Q65 สู่ระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล จากเดิม 110 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้รับผลกระทบจากการพุ่งขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจีน ซึ่งจะทำให้มีการใช้มาตรการล็อกดาวน์ และส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมัน ทั้งนี้ยังคงตรึงคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในปีหน้า ที่ระดับ 110 ดอลลาร์/บาร์เรล

– ปักกิ่งเมืองหลวงของจีนรายงานพบผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เพิ่มอีก 2 ราย และพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีก 951 ราย ซึ่งเป็นจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดของปักกิ่ง นับตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 2564 และส่งผลให้มีคำสั่งล็อก ดาวน์เขตต่างๆ หลายแห่ง

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้เคลื่อนไหว Sideway เนื่องจากความกังวลว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ดัชนีได้แรง หนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ อาทิ เราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 และช็อปดีมีคืนในปี 66 ช่วยหนุนหุ้น กลุ่มท่องเที่ยวและค้าปลีก คาดกรอบดัชนีในวันนี้ 1,610-1,625 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • ลุ้นเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5-มาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว เข้าครม. 28 พ.ย. : ERW CENTEL VRANDA ASAP SPA AAV BA AOT
  • ลุ้นมาตรการอุดหนุน EV เข้า ครม. เดือน พ.ย. นี้ : EA NEX BYD GPSC
  • MSCI Rebalancing มีผล 30 พ.ย. :
    • MSCI Global Standard หุ้นเข้า : -, หุ้นออก : BAM
    • MSCI Global Small Cap หุ้นเข้า: BAM, ERW, JWD, NEX, RAM หุ้นออก: PSG, SYNEX
  • FTSE : Mid Cap หุ้นเข้า TLI
  • ช็อปดีมีคืนปี 66 : BJC CPALL MAKRO CRC COM7 SPVI CPW JMART HMPRO ZEN M AU

หุ้นรายงานพิเศษ

KJL – บมจ. กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลตทริค CONSENSUS 16.40 บาท mai/Industrials (ราคา IPO 13.50 บาท คิดเป็น P/E Ratio 13.99 เท่า)

  • ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายตู้ไฟสวิทช์บอร์ด รางเดินสายไฟ อุปกรณ์ที่ใช้เดินสายไฟ และชิ้นส่วนงานโลหะแผ่นแปรรูปสั่งผลิตพิเศษ ด้วยเครื่องจักรและเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย บริษัทฯ มีผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ ตู้ไฟสวิทช์บอร์ด รางเดินสายไฟ รางไวร์เวย์ รางเคเบิ้ล แลดเดอร์ รางเคเบิ้ลเทรย์ ภายใต้เครื่องหมายการค้า KJL โดย 6M65 มีสัดส่วนรายได้จาก สินค้า KJL สินค้าสั่งผลิต และอื่นๆ ที่ 68.8% 22.6% และ 8.6% ตามลำดับ
  • บริษัทมีรายได้ปี 62-64 และงวด 9M65 เท่ากับ 753.7 ลบ. 708.2 ลบ. 845.8 ลบ. และ 755.7 ลบ. ตามลำดับ และรายงานผลประกอบการปี 62-64 และงวด 9M65 ที่ 19.5 ลบ. 91.0 ลบ. 94.0 ลบ. และ 98.2 ลบ. ตามลำดับ โดยรายได้และกำไรเติบโตต่อเนื่องตามคำสั่งซื้อจากสินค้า KJL และสินค้าสั่งผลิตใน 9M65 เติบโตราว 22.6%YoY และ 45%YoY ตามลำดับ ขณะที่ GPM ปี 62-64 และงวด 9M65 อยู่ที่ 15.9% 27.8% 25.5% และ 27.9% ตามลำดับ โดยอัตรากำไรขั้นต้น 9M65 ปรับตัวขึ้นเนื่องจากการบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • จำนวนหุ้น IPO ไม่เกิน 30 ล้านหุ้น คิดเป็น 25.86% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด มูลค่าที่ตราไว้ 0.50 บาทต่อหุ้น วัตถุประสงค์การระดมทุน 1.เพื่อใช้ในการลงทุนก่อสร้างโรงงาน และเครื่องจักร 2.ลงทุนในระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 3.ลงทุนศูนย์นวัตกรรม KJL 4.ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุกิจ และ 5.ชำระคืนเงินกู้ยืมระยะสั้น

หุ้นมีข่าว

(+) AAV (Bloomberg Consensus 3.07 บาท) ลุ้นจีนเปิดประเทศปี 2566 หนุนนักท่องเที่ยวต่างประเทศทะลุ 30 ล้านคน เดินหน้าหาเครื่องบินสำรองฝูงบินอีก 10 ลำ รองรับเป็น 53 เตรียมเล็งเก็บค่าธรรมเนียมน้ำมันเชื้อเพลิง 200 บาทต่อเที่ยว ควบคู่ขายสินค้าในเครื่องหนุนรายได้ มีส่วนแบ่งตลาด-เครื่องบินสูงสุดในอุตสาหกรรมสายการบินต้นทุนต่ำ พร้อมปรับกลยุทธ์รับทุกสถานการณ์ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) ORI (Bloomberg Consensus 13.50 บาท) สบช่องกำลังซื้อฟื้น ลุยเปิดโครงการใหม่ปีหน้ากว่า 7.14 หมื่นล้านบาท มั่นใจผลงานเติบโตทุกไตรมาส ควบคู่เดินหน้าเปิดโรงแรม 10 แห่ง ต่อเนื่อง 3-5 ปี ตั้งเป้าเพิ่มกำไรกลุ่มธุรกิจบริการ-โรงแรมขึ้นเป็น 30% ของกำไรรวมทั้งปีของกลุ่มบริษัทในปี 2567 ส่วนปีนี้ส่งท้าย 8 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 1.5 หมื่นล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) BJC (Bloomberg consensus 40.00 บาท) ฉายภาพธุรกิจในไตรมาส 4/2565 โดดเด่น เข้าสู่ไฮซีซัน รับอานิสงส์เทศกาลปลายปี หนุนผู้บริโภคออกมาจับจ่ายใช้สอย อวด SSSG ต.ค.-พ.ย.65 ขณะที่ต้นทุนค่าไฟ-ส่งเสริมการขาย ยังทรงตัวสูงต่อ แต่มั่นใจทั้งปี 2565 รายได้รวมเติบโตต่อเนื่อง จากปีก่อนแบบตัวเลขสองหลัก (ที่มา ทันหุ้น)

(+) VGI (Bloomberg consensus 4.70 บาท) มองรายได้ไตรมาส 3/65-66 (ต.ค.-ธ.ค. 65) เติบโตสูง หลังเข้าไฮซีซัน โควิดคลายตัวหนุนลูกค้าใช้จ่ายงบการตลาดผ่านสื่อเพิ่มขึ้น ฟุ้ง 2 เดือน สุดท้ายปีนี้งานแน่นมือ อัดฉีดงบอีก 200 ล้านบาท ลุ้นขยายป้ายโฆษณาตามแนวรถไฟฟ้าสายสี เหลือง-สีชมพู คงเป้ารายได้ปีนี้แตะ 6.5-7 พันล้านบาท และ EBITDA Margin มากกว่า 20% (ที่มา ทันหุ้น)

ปัจจัยจับตาในประเทศ

  • 24 พ.ย. สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และชิ้นส่วนยานยนต์
  • สัปดาห์ที่ 5 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
    • สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม
  • 25 พ.ย. กระทรวงพาณิชย์รายงานดุลการค้า
  • 30 พ.ย. ประชุมกนง. ครั้งที่ 6
    • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
  • 6 ธ.ค. ก.พาณิชย์รายงานตัวเลข CPI เดือนต.ค.

ปัจจัยจับตาต่างประเทศ

  • 22 พ.ย. สหรัฐ รายงานดัชนีการผลิตเดือนพ.ย. จากเฟดริชมอนด์
  • 23 พ.ย. อียู รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นต้นเดือนพ.ย. จากเอสแอนด์พี โกลบอล
    • สหรัฐ รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนต.ค. ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการ ขั้นต้นเดือนพ.ย.จากเอสแอนด์พี โกลบอล ยอดขายบ้านใหม่เดือนต.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย.จากมหาวิทยาลัย มิชิแกน สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์
  • (เช้าวันที่ 24 พ.ย.) คณะกรรมการกำหนด นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เปิดเผยรายงานการประชุมวันที่ 1-2 พ.ย.
  • 28 พ.ย. สหรัฐ รายงานดัชนีการผลิตเดือนพ.ย. จากเฟดสาขาดัลลัส
  • 4 ธ.ค. กลุ่มโอเปกพลัสประชุมนโยบายการผลิต
  • 13-14 ธ.ค. กำหนดประชุมธนาคารกลางสหรัฐ
- Advertisement -