บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง:

Kasikornbank (KBANK TB) ต้นทุนสินเชื่อสูงเพื่อเคลียร์งบดุล

D/G เป็น “ถือ” หั่น TP เหลือ 160 บาท

เราเชื่อว่า KBANK จะได้รับอานิสงส์จาก NIM ที่เพิ่มขึ้น และรายได้จากการรับประกันภัยสุทธิที่ฟื้นตัวในปี 2566 อย่างไรก็ตาม ต้นทุนสินเชื่อน่าจะยังคงสูง เนื่องจากธนาคารจำเป็นต้องสะสางสินเชื่อที่มีปัญหาเพิ่มขึ้น ซึ่งจะกดดันกำไร เนื่องจากรายได้จากสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกันที่ให้ผลตอบแทนสูงไม่น่าจะชดเชยต้นทุนสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นได้ ปรับลดประมาณการกำไรลงเพื่อสะท้อนต้นทุนสินเชื่อที่สูงขึ้น ลดคำแนะนำเป็น “ถือ” จาก “ซื้อ” และลด TP เป็น 160 บาท (P/BV ปี 66 ที่ 0.7 เท่า, ROE 8.8%) จาก 180 บาท KBANK จะประกาศเป้าหมายทางการเงินปี 66 และประชุมกับ CEO ในวันที่ 27 ม.ค.

กำไร 4Q65 ร่วง 68% YoY จากต้นทุนสินเชื่อที่สูงขึ้น

กำไรสุทธิไตรมาส 4/65 อยู่ที่ 3.2 พัน ลบ. ลดลง 68% YoY และ 70% QoQ จากต้นทุนสินเชื่อที่สูงกว่าคาด ผลประกอบการต่ำกว่าที่เราและตลาดคาดการณ์ไว้ 67% โดยกำไรปี 65 ลดลง 6% YoY เป็น 3.58 หมื่นลบ. KBANK บันทึกการตั้งสำรองที่ 2.28 หมื่นลบ. หรือต้นทุนสินเชื่อ 368bp ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนสินเชื่อปี 65 อยู่ที่ 211bp เทียบกับ 173pp ในปี 64 อัตราส่วน NPL เพิ่มขึ้น 15bp QoQ เป็น 3.71% ในขณะที่ NPL coverage เพิ่มขึ้นเป็น 144% ใน 4Q65 NII เพิ่มขึ้น 17% YoY เนื่องจากสินเชื่อเติบโต 3% YoY และ NIM เพิ่มขึ้น 28bps QoQ เป็น 3.63 ใน 4Q65 Non-NII เพิ่มขึ้น 13% YoY จากกำไรจาก mark to market

คงตั้งสำรองสูงเพื่อเคลียร์งบดุล และมุ่งขยายสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนสูง

เรามีมุมมองเชิงลบจากการประชุมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดย CFO เผยว่าต้นทุนสินเชื่อจำนวนมากมาจาก NPL ที่เพิ่มขึ้นจากสินเชื่อที่ออกจากโครงการบรรเทาหนี้ และสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนสูงในไตรมาส 4/65 โดยอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพของ KBANK ลดลง 59bp YoY เป็น 3.7% หรือ 9.25 หมื่น ลบ.ในปี 65 เนื่องจากธนาคารเร่งระบาย NPL โดยการขาย NPL 72 ลบ. (ส่วนใหญ่ขายให้กับ JK AMC) และตัดจำหน่าย NPLs 5.9 หมื่น ลบ. ในปี 65 แม้ KBANK จะชี้ว่าต้นทุนสินเชื่อได้ถึงจุดสูงสุดที่ 2.1% ในปี 65 แล้ว แต่ธนาคารก็จะเคลียร์งบดุลเพิ่มเติม ดังนั้นต้นทุนสินเชื่อจึงยังคงสูงกว่าระดับปกติที่ 1.6% ในปี 66

ปรับลดกำไรปี 66-67 ลง 6-7% จากคุณภาพสินทรัพย์ที่อ่อนแอ

คุณภาพสินทรัพย์ของ KBANK อ่อนแอกว่าคู่แข่งในมุมมองของเรา เนื่องจากสินเชื่อ SME เดิม และการเร่งขยายพอร์ตสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกันที่ให้ผลตอบแทนสูง เราปรับลดประมาณการกำไรลง 6-7% เพื่อสะท้อนต้นทุนสินเชื่อที่สูงขึ้น 1.90%/ 1.75% ในปี 66/67 จากการประเมินของเราพบว่าทุกๆ 5bps ที่เพิ่มขึ้นของต้นทุนสินเชื่อ รายได้จะลดลง 2.3% ในปี 66 ในแง่บวก เราปรับเพิ่ม NIMS ปี 66-67 ขึ้น 25-27bp เป็นประมาณ 3.5% เนื่องจากธนาคารน่าจะได้รับอานิสงส์จากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และการขยายสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนสูงเพิ่มขึ้น แม้ว่าต้นทุนทางการเงินจะเพิ่มขึ้นจากค่าธรรมเนียมเงินฝาก

- Advertisement -