KS Daily View 17.03.2023 >>> ECB ขึ้นดอกเบี้ย 50 bps หุ้นโลกฟื้นตัว แต่ผันผวนจนถึงประชุม Fed 22 มี.ค. SET คาดแกว่งตัวในกรอบ 1,555 -1,585 จุด หุ้นแนะนำวันนี้ ORI, PRM

สรุปตลาดหุ้นเมื่อวาน

ในประเทศ : SET Index เมื่อวานนี้พลิกกลับมาปิดลงอีกครั้งที่ 1554.65 จุด (-0.66%DoD) โดยหุ้นที่ปรับตัวลงแรง ได้แก่ PTTEP -5.88%, BANPU -3.77%, PTTGC – 3.3%, BBL -2.3%, MAKRO -1.95% เป็นต้น  หุ้นที่ปรับขึ้นแรง คือ TRUE +3.9%, CRC +1.15% เป็นต้น

ต่างประเทศ : ดัชนี Dow Jones 1.17%DoD, ดัชนี S&P500  1.76%DoD, NASDAQ +2.48% โดย Sector ในดัชนี S&P500 แกว่งตัวบวกลบสลับกัน โดยกลุ่มที่ Outperform คือ IT +2.82%, Communication Services +2.7%, Financials +1.94%,  Consumer Discretionary +1.88%

ส่วนกลุ่มที่ Underperform คือ Consumer Staples -0.07%,  กลุ่ม Real Estate  -0.06% ฯลฯ

ประเด็นสำคัญ คือ ผลการประชุมธนาคารยุโรป(ECB) ซึ่งดูเหมือนว่า ประเด็นเรื่องการกดเงินเฟ้อจะสำคัญที่สุด แม้ความกังวลประเด็นธนาคาร Credit Suisse เกิดขึ้น แต่ ECB ยังเดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% เท่ากับที่ตลาดคาดการณ์   ในขณะที่ปรับเป้าเงินเฟ้อปีนี้ลงจาก 6.3% เหลือ 5.3% พร้อมปรับเป้าอัตราการเติบโตเศรษฐกิจ GDP ขึ้นจาก 0.5% เป็น 1.0% (โดยล่าสุด  Bloomberg ให้น้ำหนักโอกาสการเกิด Recession ลงจาก 80% เหลือ 50%)  และสำหรับการประชุมรอบนี้ ประธาน  ECB ไม่ได้ให้ความเห็นของดอกเบี้ยครั้งถัดไป และให้น้ำหนักไปที่ Data dependent อาทิ ตัวเลขเศรษฐกิจ ฯลฯ ลักษณะคล้าย FED

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ หลังผลประชุม ECB เมื่อวานเดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50bps  เราประเมินมุมมองเป็นกลางต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ ECB ซึ่งเป็นการขึ้นท่ามกลางความกังวลเรื่องธนาคาร Credit Suisse(เป็นปัญหาที่มีเดิมอยู่แล้ว)  จะลุกลามต่อไปในฝั่งประเทศอื่นหรือไม่  ทำให้ความกังวลประเด็นภาคธนาคาร จะยังเป็นปัจจัยกดดันสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆต่อ แต่น้ำหนักต่อตลาดทุนเราประเมินน้อยลงเพราะได้ Price In ไปในราคาหุ้นและดัชนีราคาหุ้นแล้ว   ประกอบกับในช่วงนี้นักลงทุนคาดจะ Wait&see  การประชุม Fed วันที่ 22 มี.ค.2022   โดยล่าสุด Terminal Rate ของ Fed  ถูกปรับขึ้นเล็กน้อยเหนือ 5.0% เรายังคงมุมมองคาด Fed เดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ย 25bps ที่ 5.0%  โดย Key สำคัญเราให้น้ำหนักไปที่ Dotplot คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยของ Fed จะออกมาในโทน Dovish มากขึ้นหรือไม่ หรือจะยัง Hawkish เดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อ  แม้จะมีปัญหาฝั่งภาคธนาคาร อาทิ SVB  เชื่อว่า Fed จะชั้งน้ำหนักเลือกระหว่างเงินเฟ้อสหรัฐ ล่าสุดที่ยังกดไม่ลงกับภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่แน่นอน   โดยรวมทำให้เราประเมินตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ก่อนการประชุม Fed 22 มี.ค. คาดดัชนีจะแกว่งในกรอบ 1515-1585 จุด   ส่วนระถัดไปหลังประชุม Fed จะกำหนดทิศทางตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง

โดยกลยุทธการลงทุนในหุ้นช่วงที่ตลาดผันผวน แนะนำ  แนะนำให้อยู่กับหุ้น Defensive อาทิ กลุ่มโรงไฟฟ้า อาทิ BGRIM   และกลุ่มโรงพยาบาล อาทิ BDMS  กลุ่มขายสินค้าจำเป็น Consumer staple  อาทิ CPALL กลุ่มอสังหา อาทิ ORI

ประเด็นที่ต้องติดตามต่อ

ทิศทางราคาสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบ ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดทิศทางเงินเฟ้อและการเติบโตเศรษฐฏิจ  ในระยะสั้นเราประเมินจะยังแกว่งตัว sideway down  โดยเมื่อวานIEA รายงานว่าสต๊อกน้ำมันดิบของประเทศ OECD ทำจุดสูงสุดในรอบ 18 เดือน ขณะที่ปริมาณการผลิตน้ำมันของรัสเซียในเดือน ก.พ. ยังสูงใกล้เคียงกับก่อนเกิดสงคราม ขณะที่ตลาดยังคงกังวลกับปัญหาระบบสถาบันการเงิน และความเสี่ยง Recession จากการที่เฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ยต่อ  เรามองเป็นบวกกับกลุ่มที่มีต้นทุนเป็นโภคภัณฑ์ เช่น โรงไฟฟ้า SPP (BGRIM, GPSC, GULF), สี (TOA, DPAINT), F&B (CBG, OSP, BGC), ปั๊ม (PTG), และ TASCO เป็นต้น ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานจะยังถูกกดดันจากราคาน้ำมันที่แกว่งตัวลง

หุ้นกลุ่มที่คาดเป็นกระแสในวันนี้

1.) กลุ่ม Growth และกลุ่ม Tech อาทิ BE8 ราคาพื้นฐาน  บาท, BBIK ราคาพื้นฐาน  บาท  ฯลฯ คาดปรับขึ้นได้  Sentiment บวกตามหุ้น  Tech ในสหรัญที่ปรับขึ้นและ Outperform เมื่อคืน อิง Sector S&P500 อาทิ  IT +2.82%,Consumer Discretionary +1.88%

2.) กลุ่มเรือเทกอง อาทิ PSL, TTA  คาดได้ Sentiment ลบจากดัชนีค่าระวางเรือ BDI -2.68%DoD ปิดที่ 1560 จุด

3.) หุ้นที่ทิศทาง Outlook กำไรดีต่อในปี 2023 โดยเมื่อวานหลังงาน Analyst meeting มี 2 บริษัทที่โทนออกมาดี  อาทิ

3.1) PRM ราคาพื้นฐาน 10.0 บาท แนะนำซื้อ  เราคาดงบ 1Q23 จะดีต่อเนื่องจากไตรมาส 4   หนุนจากเรือบรรทุกน้ำมันขนาดเล็ก  หนุนจากการขนส่งในภาคใต้ที่ยังดีต่อ

3.2) KTB  ราคาพื้นฐาน 20.4 บาท เราปรับประมาณการกำไรปี 2566-68 ขึ้น 4%/1%/3% จาก NIM ที่สูงขึ้น โดย KTB เป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มธนาคาร

ประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดแกว่งในกรอบ 1555 – 1585 จุด หุ้นแนะนำ ORI, PRM

Top pick

ORI (ราคาพื้นฐาน 14.8 บาท)

1.) มุมมองของเรา ORI คาดการจะทำกำไรสูงสุดใหม่ในอีกหลายปีข้างหน้า หากมองในระยะสั้น การเติบโตของธุรกิจแนวราบที่ค่อนข้างสูง และพันธมิตร JV รายใหม่หลายรายในหน่วยธุรกิจที่หลากหลายจะเป็นกลไกขับเคลื่อนกำไรที่สำคัญ ส่วนในระยะยาวนั้น การสร้างมูลค่าจากบริษัทลูกหลายแห่งและการผนึกกำลังสำหรับธุรกิจใหม่กับธุรกิจที่อยู่อาศัยที่มีฐานอยู่อย่างแข็งแกร่ง

2.) ราคาหุ้นพักฐานจากจุดสูงสุดลงมาราว 7.7% อยู่โซนบริเวณแนวรับ 11.6-11.8 บาท ประเมินเป็นจังหวะเข้าลงทุน

PRM (ราคาพื้นฐาน 10.0 บาท)

1.) เราคาดว่ากำไร1Q23 จะยังคงแข็งแกร่งจากรายได้ที่แข็งแกร่งของธุรกิจเรือบรรทุกน้ำมันขนาดเล็ก

2.) ปัจจุบันหุ้นซื้อขายที่ PER ปี 2565 ที่ 10 เท่า และ PER ปี 2566 ที่ 8.8 เท่า

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันศุกร์ ติดตามตัวเลข Industrial Production ของสหรัฐฯ เดือน ก.พ. คาด +0.4% MoM ตัวเลข Michigan Consumer Sentiment ของสหรัฐฯ เดือน มี.ค. คาด flat MoM ที่ 67 จุด และ Michigan 5Y Inflation expectation ของสหรัฐฯ เดือน มี.ค. คาด 2.9% (ทรงตัว MoM)
- Advertisement -